นายแทนคุณ จิตต์อิสระ หรือ อี้ ให้สัมภาษณ์ปิดใจกับทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์ ถึงเหตุการณ์ที่เขาตกเป็นเป้าของคนร้ายหวังที่จะสังหารเขา หลังจากเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้สอบสวนนายกฤษชาภณ หรือ สุกิจ พูลศิลป์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 340 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. ผู้ต้องหาที่ร่วมกับพรรคพวกอีก 5 คนประกอบด้วย นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋, นายกฤศ หรือธีรชัย อุตรวิเชียร, นายอุดมชัย นพสวัสดิ์, นายนิคม ไชยต้นเทือก และนายธีระพัฒน์ หรือธวัชชัย บุญมาก ก่อเหตุขว้างระเบิดเข้าไปในบ้านพักเลขที่ 27/1 หมู่บ้านชวนชื่น ซอยคู้บอน 6 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กทม.ของนายสำราญ รอดเพชร แกนนำกลุ่ม กปปส.เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 28 มกราคม 2557
โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.เปิดเผยว่า "จากแนวทางการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่านอกจากนายแทนคุณ จิตต์อิสระ หรือ อี้ ที่ตกเป็นเป้าสังหารของคนร้ายแล้ว ยังมีบุคคลที่ตกเป็นเป้าหมายของคนร้ายอีก 4 คน ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นกลุ่มการเมือง" แต่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ก็ยังไม่ได้บอกว่านักการเมืองอีก 3 คนนั้นเป็นใครนอกจากนายแทนคุณ จิตต์อิสระ หรือ อี้
สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2557 ตอนที่มีการชุมนุมทางการเมืองของ กปปส.ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ
วันนี้ นายแทนคุณ จิตต์อิสระ หรืออี้ จึงได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์ฟังว่า.....
"ผมเป็น 1 เป้าหมายที่ขบวนการคนร้ายวางแผนฆ่า โดยคนร้ายได้เอา M 16 มาด้วยเพื่อจะสังหาร ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2537 กรณีนี้เข้าข่ายพยายามฆ่า ดังนั้น ตำรวจก็ต้องไปสืบหาว่าอาวุธนั้นมาจากที่ไหน เพื่อดำเนินการเอาผิดตามกฏหมาย ขณะนี้เป็นคดีอาญาที่อยู่ในขั้นตอนชั้นกล่าวหา เป็นคดีอาญาที่ผู้ต้องหามีการซัดทอดว่ายังมีใครที่ร่วมขบวนการ ซึ่งรู้แล้วว่าเป็นใคร แต่ยังจับไม่ได้ และไม่รู้ว่าจะจับได้เมื่อไหร่ ซึ่งความน่ากลัวมันอยู่ตรงนี้ เพราะมันเหมือนมีคนจ้องจะฆ่าเรา ซึ่งรู้แล้วว่าเป็นใคร แต่ยังจับไม่ได้ และไม่รู้ว่าจะจับได้เมื่อไหร่ และเราก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะแจ๊คพ๊อด"
"ส่วนผมก็ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ ในส่วนของการแจ้งความดำเนินคดีมองได้ 2 แง่ คือ 1.หากตนเองไปแจ้งความร้องทุกข์ (ตามที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ บอก) ก็เป็นการป้องกันตัวไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย 2.เขาต้องการที่จะลงมือเล่นงานเราอยู่ก่อนแล้ว เมื่อมาถึงขั้นตอนนี้เขาก็อาจคิดว่าตัวเองมีความเสี่ยงสูงอยู่แล้ว ถ้าอย่างงั้นก็เร่งรีบรวบรัดจัดการลงมือเราเลยแล้วกัน"
ผู้สื่อข่าว - เหตุการณ์มาถึงตอนนี้ชัดเจนแล้วมีคนต้องการเอาชีวิตเราจริงๆ รู้สึกหวาดกลัวมั้ย
นายแทนคุณ จิตต์อิสระ - ผมต้องอธิบายก่อนว่าเหตุการณ์มีช่วงก่อนการชุมนุมผมก็อยู่ในพื้นที่การเมืองที่แรงมาก อย่างเช่นลูกน้องคนสนิทของผมถูกยิงตายที่ดอนเมือง ซึ่งคดีผ่านมาแล้ว 7 ปีแต่ไม่ความคืบหน้าเลย ซึ่งผมไปดูที่เกิดเหตุและเห็นศพก็รู้สึกว่าเล่นกันรุนแรงจัง
ช่วงที่ 2 เป็นช่วงที่มีการชุมนุมการเมืองของ กปปส.ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ผมก็อยู่ในพื้นที่ชุมนุมช่วงกลางคืนก็มีการยิงปืน มีการปะทะกันเป็นระยะ ซึ่งสามารถจับตัวคนร้ายได้บ้าง และยึดอาวุธปืนได้บ้าง
ถ้าถามว่าสาเหตุอะไรที่ต้องมาฆ่าผมนั้นผมตั้งสมมติฐานไว้ 3 เรื่อง คือ 1.เป็นนักการเมืองที่อยู่ในพื้นที่การเมืองที่มีการแข่งขันรุนแรงมาก่อน 2.ผมค่อนข้างมีบทบาทในการสื่อสารและพูดเยอะมากในเวที กปปส. ทั้งสื่อหลัก สื่อรอง และบนเวทีปราศรัย 3.ผมเป็นคู่ขัดแย้งโดยตรงกับเจ้าของพื้นที่เดิม-ดอนเมือง และเป็นที่ทราบกันว่า "โกตี๋" นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ สนับสนุน นอกจากนี้ในช่วงที่มีการการชุมนุมรุนแรงนั้น ผมก็มีส่วนสนับสนุนเวทีแจ้งวัฒนะ ที่มีหลวงปู่พุทธะอิสระด้วย
ผู้สื่อข่าว - คิดว่าสาเหตุอะไรที่คุณอี้ และอีก 3 คน ตกเป็นเป้าสั่งตาย
นายแทนคุณ จิตต์อิสระ - จากการที่ได้คุยกับพี่สำราญ รอดเพชร ให้ความเห็นว่าคนสั่งคงต้องการปิดปาก เพราะคนที่เป็นแกนนำร่วมเคลื่อนไหว (ย้ำว่าในช่วงนั้น) ก็มีความเสี่ยงมากอยู่แล้ว และยังทำหน้าที่เป็นสื่อ กระบอกเสียงให้ข้อมูล ความรู้กับประชาชนยิ่งเพิ่มความเสี่ยง แต่ขณะนี้ก็ยังมีความเสี่ยงอยู่เพราะตราบใดที่เขายังใช้วิธีการจัดการป่าเถื่อนแบบนี้
ขณะที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. บอกให้ผมไปแจ้งความกรณีที่จับคนร้ายยิงได้แล้วที่ สน.ดอนเมือง แต่ผมยืนยันว่าต้องการไปแจ้งความที่กองปราบปราม เพราะว่าคดียิงลูกน้องคนสนิทผ่านมา 7 ปี ยังไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย หรือพูดง่ายๆ คือว่า ผมไม่ไว้ใจ ซึ่ง พล.ต.อ.ศรีวราห์ พูดกับผมว่าไม่ต้องกลัว ยุคนี้ไม่มีใครแทรกแซง ผมก็เลยถามว่าแล้วถ้าหมดยุคของท่านล่ะ เพราะถ้าคดีเปลี่ยนมือมีผลต่อกระบวนการยุติธรรม ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เราต้องวิตกกังวล
ผู้สื่อข่าว - เขตดอนเมืองถือว่าเป็นพื้นที่สีแดงได้หรือไม่
นายแทนคุณ จิตต์อิสระ - เราไม่สามารถประเมินได้ เพราะอาจเป็นพื้นที่สีเขียวก็ได้เพราะว่าทหารเยอะมาก อาจจะเปลี่ยนไปเยอะแล้วก็ได้ และพอผมไปอยู่อาจจะเปลี่ยนเป็นพื้นที่สีเหลืองแล้วก็ได้ ซึ่งการเหมารวมคงไม่แฟร์ และคงไม่ดีต่อความรู้สึกของประชาชนว่าเขาถูกมองว่าแดงเหรอ แต่ถามว่าแดงยังมีมั้ย บอกได้เลยว่าในหลายพื้นที่ที่เป็นแดงก็ยังเป็นแดง ต้องขอบอกตรงๆว่าใน 4 ปีที่ผ่านมา กระบวนการของทหารในคลี่คลายความเชื่อของสีแดงแทบจะไม่มีเลย ซึ่งการอธิบายความอยุติธรรมที่เขามองว่า 2 มาตรฐาน อย่างเช่น ทุกคนในตระกูล "ชินวัตร" ต้องโดนไม่ว่าคุณทักษิณ หรือคุณยิ่งลักษณ์ แต่ปล่อยให้โจมตีว่าเขาถูกกระทำอยู่อย่างนั้น และเป็นการชี้ชัดว่าแม้เขาจะโกง หรือทุจริต ก็ไม่มีกระบวนการอธิบายที่ตรงไป ตรงมา ชัดเจน หรือเยอะพอ
ซึ่งกระบวนการยุติธรรมทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาแล้ว แต่ต้องมีการกระบวนการสื่อสารมาช่วยอธิบายอย่างที่บอกด้วย ทั้งที่เรื่องนี้ไม่ใช่2พี่น้อง "ชินวัตร" เขาอยู่ดีๆแล้วถูกรังแก แต่เพราะเขาเบียดบังภาษีประชาชนจำนวนมากเป็นแสนๆล้าน เราไม่เดือดร้อนเลยหรือ ถามว่าประเทศไทยรวยมากขนาดนั้นเลยหรือที่ปล่อยให้ใครละเลงเงินเล่นเป็นแสนล้านก็ได้ ซึ่งไม่มีการอธิบายที่ดีพอในขณะที่วาระรัฐบาลก็เริ่มจะเสื่อมถอย
และตอนนี้เขาก็โจมตีว่า 4 ปีที่ผ่านมา ไม่มีนักการเมืองเลย มีแต่ข้าราชการ นักทหารแต่คอรัปชั่นกับไม่ลดลงแล้วยังเพิ่มมากขึ้นสูงสุดในประวัติศาสตร์อีกด้วย ซึ่งมันน่ากลัวมากยิ่งขึ้นไปอีก ในส่วนของปะชาชนที่เขาไม่เอา เนื่องมากจาก2เรื่อง คือไม่อยากได้คอรัปชั่น และไม่อยากได้เผด็จการ แต่ถามว่ามีทางเลือกอื่นที่ดีกว่ามั้ย ซึ่งเผด็จการทหารคงไม่มีใครอยากได้ แต่เผด็จการรัฐธรรมนูญกลายร่างคอรัปชั่นนั้น ยิ่งน่ากลัวกว่าคอรัปชั่นที่ตรวจสอบได้ทั้งที่มีประชาธิปไตย ตอนนี้แรงเหวี่ยงไปที่รัฐบาลนี้สูงมาก แต่ผมไม่รู้ว่ารัฐบาลรู้หรือเปล่า ขณะที่รัฐบาลใช้วิธีขยายตัวเอง ขยายอำนาจ ขยายเวลาไปเรื่อยๆ
ผู้สื่อข่าว - โอกาสที่ประชาชนจะสลายความคิดเห็นยึดว่าเป็นแดงหรือเหลืองมีมั้ย
นายแทนคุณ จิตต์อิสระ - 1.ต้องทำให้ประเด็นความเจ็บปวด หรือสูญเสียของเขาได้รับการเยียวยาและอธิบายให้ข้อมูลที่เป็นจริงว่าใครผิด ใครถูก และกระบวนการอธิบายความจริงต้องทำงานใครผิด ใครถูก และต้องหาตัวคนกระทำความผิดมา แต่ที่ผ่านมาไม่มี จึงทำให้ความเชื่อเกิดการฝังใจทวีความรุนแรงมากขึ้น
2.ต้องมีเกราะป้องกันโดย กกต. ป.ป.ช. ทีดีอาร์ไอ ฯลฯกำกับพฤติกรรมหรือนโยบายของนักการเมือง หรือนโยบายของนักการเมืองไม่ให้เกิดความเสียหาย หรือได้เปรียบ เลื่อมล้ำกันมากเกินไป
3.เมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้นแล้วต้องทำให้เกิดความเท่าเทียมกันทุกฝ่าย เพื่อไม่ให้เกิดความรู้สึกว่าพวกฉันโดน พวกคุณไม่โดน ซึ่งไม่ได้หมายค วามว่าทุกฝ่ายต้องโดน แต่หมายถึงว่าใครที่ทำผิดก็ต้องว่าไปตามผิด
ผู้สื่อข่าว - เกิดเหตุรุนแรงมากขนาดนี้ถ้ามีการเลือกตั้งจะกล้าลงสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่
นายแทนคุณ จิตต์อิสระ -ผมว่ามันก็น่าคิดนะ ถามว่าผมกลัวมั้ย?? เพราะว่าได้เผชิญหน้ากับคนที่พูดอย่างเลือดเย็นว่า "ถ้าเจอที่ไหนก็ยิง" ซึ่งการที่ได้เราได้ยินจากที่คนอื่นพูดมันก็ไม่รู้สึกมากเท่ากับที่เราได้ยินกับหูต่อหน้า ซึ่งคนที่ถูกจับได้เขาพูด ตรงนี้ผมอยากฝากตำรวจและรัฐบาล คสช.ว่าต้องปราบผู้มีอิทธิพล มันอันตราย
"ถ้ามีการจัดการเลือกตั้งเมื่อไหร่ ผมยังคงยืนยันว่ามั่นใจลงเลือกตั้ง (เสียงหนักแน่น) เพราะความเสี่ยงต่อชีวิตทีมงานและอะไรที่เราลงทุน ลงแรงไป ก็จะถูกมองว่าเราไม่แน่จริง เราต้องลุย พร้อมยืนยันว่าจะสังกัดพรรคประชาธิปัตย์เหมือนเดิมแน่นอน ไม่ย้ายไปพรรคไหนทั้งสิ้น"
ผู้สื่อข่าว - รอดจากเหตุการณ์ถูกยิงมาได้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง
นายแทนคุณ จิตต์อิสระ - สิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นผมไม่แน่ใจ แต่ผมทำความดีมาตลอด ก็คิดว่าบุญกุศลที่ทำไว้น่าจะคุ้มครองรักษาได้ระดับหนึ่ง เป็นเรื่องแปลกมากทั้งที่ผมไม่ได้แขวนพระอะไรเลย
ผู้สื่อข่าว - ฝากความคิดเห็นถึงประชาชนทั้งที่อยากให้มีการเลือกตั้งและคนที่ยังไม่อยากให้เลือกตั้งในขณะนี้ รวมถึงผู้บริหารบ้านเมือง
นายแทนคุณ จิตต์อิสระ - ผมคิดว่าทุกคนที่ออกมาเรียกร้องต่างๆทั้งที่อยากและไม่อยากให้มีการเลือกตั้ง ล้วนคิดและหวังดีต่อประเทศชาติ ซึ่งเราต้องเอาประเทศชาติเป็นตัวตั้ง เราไม่อยากให้มองใครเป็นศัตรูแบบสุดโต่ง เช่นคนที่อยากเลือกตั้งก็ไม่อยากให้มองทหารเป็นศัตรู เพราะทหารที่ดีๆ ก็มีเยอะ
ส่วนทหารต้องทำหน้าที่ให้ดีและโปร่งใส โดยรีบเคลียร์ประเด็นที่ประชาชนสงสัยเรื่องคอรัปชั่นให้ได้มากที่สุด เราต้องเอาประเทศชาติเป็นที่ตั้ง ผมไม่อยากให้บทเรียนเก่าๆที่เสียทั้งคน ทั้งทรัพย์สิน ทั้งโอกาส เหมือนกับว่าเราไม่ได้เรียนรู้อะไรจากความเสียหายที่เกิดกับประเทศชาติที่พังมาแล้วที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี