นายธนัท ชัยวชิระศักดิ์ หรือ "นัท แฟนพันธุ์แท้" แชมป์จตุคามรามเทพปี 2550 เซียนพระเจ้าของร้าน เปิดเผยกับ "ทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์" ถึงกรณีที่นำกลุ่มชมรมพระเครื่องไปที่โรงแรมเซ็นทารา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้นายณัชพล สุพัฒนะ หรือ "มาร์ค พิทบูล" อายุ 51 ปี ประธานชมรมมิตรภาพพิทบูล เจ้าของบัญชีเฟซบุ๊ก Pitbullzone และว่าที่รองหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ให้ออกมาขอขมาต่อประชาชนที่นับถือศาสนาพุทธและกล่าวขอขมาต่อคุณพระศรีรัตนตรัย หลังจากที่ มาร์ค พิทบูล ได้ไลฟ์สดผ่านทางเฟซบุ๊ก เผยแพร่ถ้อยคำดูหมิ่นและเหยียดหยามพระพุทธศาสนา เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ในระหว่างที่มีการสัมมนา "รวมพลร่วมอุดมการณ์ ปลดปล่อยประเทศไทย เพื่อแสดงเจตจำนงทางการเมืองในการก่อตั้ง พรรคไทยศรีวิไลย์"

โดยนายธนัท กล่าวว่า ก่อนที่ตนพร้อมสมาชิกชมรมพระเครื่องจะเดินทางไปยื่นหนังสือให้ มาร์ค พิทบูล กล่าวคำขอโทษประชาชนและขอขมาต่อคุณพระศรีรัตนตรัย ตนกับมาร์ค พิทบูล ได้มีการถกเถียงกันในเรื่องพุทธศาสนามาก่อน โดยเฉพาะเรื่องพญานาคในครั้งพุทธกาล และการประสูตรในวันแรกของเจ้าชายสิทธัตถะ แล้วดำเนินได้ 7 ก้าว 

นอกจากนี้ มาร์ค พิทบูล ยังได้กล่าวในทำนองดูถูกและด่าเซียนพระทั่วประเทศว่าเป็นพวกหากินกับการขายพระ จนมีการท้าทายกันและนัดกันเพื่อจะเคลียร์ประเด็นดังกล่าว ซึ่งตนก็ไปตามนัดโดยไปกว่า 100 คน โดยจุดประสงค์การไปพบ มาร์ค พิทบูล วันนั้นก็เพื่อต้องการให้ มาร์ค กล่าวคำขอโทษประชาชนชาวพุทธ และขอขมาต่อคุณพระศรีรัตนตรัย 

"ยอมรับว่าตอนนั้นรู้สึกโกรธมาก เพราะจากที่ดูคลิปของ มาร์ค พิทบูล ประมาณ 20 นาทีจากคลิปเต็มอยู่ที่ประมาณ 1 ชั่วโมง โดยในคลิป ได้พูดถึงผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อว่าเอก ซึ่งผมก็ไม่รู้หรอกว่าคนที่ชื่อเอกเป็นใคร และผู้ชายคนนั้นก็ติดต่อมาบอกว่ามีเรื่องของ มาร์ค พิทบูล จะเล่าให้ผมฟัง ซึ่งผมบอกว่ามันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผม เขาจะดีจะชั่วยังไงผมไม่สน แต่สนใจอยู่ที่ว่า เขาลบหลู่พระพุทธศาสนา?ซึ่งเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทยที่นับถือศาสนาพุทธ เช่น เชื่อหรือไม่ว่าพญานาคมีจริง? เชื่อหรือไม่ว่าตอนที่พระพุทธเจ้าประสูติสามารถเดินได้ 7 ก้าว และเชื่อหรือไม่ว่าคำสอนต่างๆ ที่หาหลักการทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า? และคำพูดที่ผมรับไม่ได้ คือ ถ้าอาจารย์มั่น (หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต) เห็นว่าพญานาคมีจริงผมจะไม่นับถืออาจารย์มั่น และถ้าพระเวสสันดร ให้ลูกให้เมียกับชาวบ้านหรือขอทานจริงๆ อย่างนี้เขาเรียกพระเวสสันดาน ซึ่งการมาลบหลู่พระพุทธศาสนาอย่างนี้ผมรับไม่ได้" นายธนัท กล่าว

นายธนัท กล่าวต่อว่า เมื่อ มาร์ค พิทบูล เล่นแบบนี้ ลบหลู่พระพุทธศาสนาแบบนี้ตนก็ทนไม่ได้จึงไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กของตนตอบโต้กลับไปว่า "ถ้าเจอคนอย่างมาร์ค พิทบูล สิ่งแรกที่ผมจะทำคือต้องต่อยปากก่อนแล้วค่อยว่ากัน ถ้าถามว่าสิ่งที่ผมพูดแบบนั้นออกไปในวันนั้นถูกหรือไม่ ผมยอมรับว่าไม่ได้ถูกหรอก เพราะมันพูดไปด้วยอารมณ์และเจตนาที่แรง ซึ่งวันที่มาร์ค พิทบูล นัดเจอกัน เมื่อผมเจอเขาผมก็ขอโทษมาร์ค พิทบูล ในสิ่งที่พูดไปในวันนั้น เพราะถ้าผมต่อยเขาไปกลัวจะเหมือนคุณลุงซาเล้ง เพราะตัวเขาเล็กมาก เราจึงคุยกันด้วยสันติวิธี"

"ก่อนที่จะมีเหตุการณ์ดังกล่าวมาร์ค พิทบูล ได้โทร.มาหา ผมก็บอกเขาไปตอนแรกเลยว่า เขา (มาร์ค) คือไอดอลของผมที่กล้าทำเพื่อประชาชน กล้าสู้กับคนที่มีอำนาจ แต่หลังจากนี้ไปเขา (มาร์ค) อยู่คนละฝั่งกันกับผม สิ่งที่เขาพูดแล้วผมรับไม่ได้เลย คือ บอกว่าพวกเรา (เซียนพระ) ไม่ได้นับถือศาสนาจริงเพียงแค่หากินกับพระเครื่องเท่านั้น ถ้าวันที่เจอกันเขาในวันนั้นเขาไม่สำนึก ไม่ขอขมา เราก็อาจจะไม่เกรงใจอะไรทั้งสิ้น แต่ปรากฎว่าเขายอมรับในสิ่งที่พูดไป และยอมอ่านคำขอขมาบนเวทีที่ผมเขียนไปให้า เมื่อเขาลงจากเวทีมาเขายังยกมือไหว้ขอโทษและสาบานต่อหน้าทุกคน ผมจึงไม่ติดใจอะไร รู้สึกแอปปี้" นายธนัท กล่าว 

นายธนัท กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเขายอมรับว่าเขาได้ทำผิดจริง ซึ่งขณะที่ตนไปนั้นมีการแถลงข่าวเกี่ยวกับการจัดตั้งพรรคของเขาอยู่ ตนยืนยันเลยว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้มีการเตี๊ยมกันใดๆ ทั้งสิ้น เพราะในขณะนั้นตนและเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ไปกันแบบเราต้องมีเรื่องแน่นอน

"เราอยู่บนแผ่นดินที่มีพระมหากษัตริย์และวีรชนทั้งหลายที่สละเลือดเนื้อและชีวิต เพื่อให้เรามีแผ่นดินอยู่ พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์นับถือพระพุทธศาสนาและทะนุบำรุงพระพุทธศาสนาอย่างเต็มที่มันไม่ควรที่จะให้ผู้ใดหมิ่นพระพุทธศาสนา หมิ่นพระมหากษัตริย์ แต่เรื่องอื่นผมช่วยไม่ได้เพราะว่าทุกวันนี้เรารู้อยู่แล้วว่านักการเมืองโกงกินชาติ แต่ไม่มีใครทำอะไร ซึ่งผมเองก็ทำอะไรไม่ได้ แต่แน่นอนถ้าใครหมิ่นพระพุทธศาสนาก็ต้องเจอกับผมแน่ เพราะสามารถที่จะทำอะไรได้ก็จะทำ และจะสู้ให้ถึงที่สุดในเรื่องของพระพุทธศาสนา แต่เรื่องชาติผมไม่มีพลังที่จะไปต่อสู้กับพวกเขาได้" นายธนัท กล่าว

พร้อมกล่าวต่อว่า ตอนนี้ มาร์ค พิท?บูล? ได้ขอโทษต่อพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ และขอโทษชาวพุทธทั้งโลก รวมถึงได้ขอโทษชาวพระเครื่องแล้ว บางคนไม่รู้หรอกว่าเราชาวพระเครื่องทำอะไรบ้าง ที่ผ่านมาเรามีการบริจาคเงินภายใน 1 ปีกว่า 200 ล้านบาทให้กับ 20-30 องค์กรทั่วประเทศ นี่คือบุคคลที่ใช้อาชีพจากพระเครื่องคืนเงินให้กับสังคม 

"นอกจากนี้องค์กรพระเครื่องยังเป็นองค์กรที่เผยแพร่พระพุทธศาสนา ด้วยอัตลักษณ์ ศิลปวัตถุ และนั่นคือสิ่งที่เราพยายามจะอธิบายให้เข้าใจ ผมขอย้ำว่าผมไม่ใช่เครื่องมือทางการเมืองของพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่มีมาร์ค พิทบูล เป็นสมาชิกพรรคฯ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นวันนั้นคือพลังของชมรมพระเครื่อง และคนที่ดูไลฟ์สดที่รักในพระพุทธศาสนา ผมจะต่อสู้เพื่อศาสนา ใครเข้ามาทำลายผมไม่ยอม ซึ่งถ้าหากผมรู้ว่าใครล่วงเกินหรือลบหลู่พระพุทธศาสนา ผมจะมีการเคลื่อนไหวในรูปแบบของผมต่อไปอย่างแน่นอน" นายธนัท กล่าวทิ้งท้าย