ชั่วโมงนี้คงไม่มีใครบอกว่ารู้จัก "นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล" หรือ "ปึ้ง" อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่เพิ่งถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ชี้มูลความผิดทางอาญานายสุรพงษ์ กรณีออกหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ให้กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกออกหมายจับในคดีร่วมกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ก่อการร้าย และคดีอื่นๆ ซึ่งขัดต่อระเบียบข้อบังคับกระทรวงการต่างประเทศ ว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ.2548 ข้อ 21 (2) (3) และ (4) ซึ่งคดีนี้อัยการได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาฯ เมื่อกลางเดือนมินาคม 2560
สำหรับ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ชื่อเล่น ปึ้ง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดเชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) อดีตประธานกรรมาธิการการคลัง การธนาคาร และสถาบันการเงิน สภาผู้แทนราษฎร อดีตประธานที่ปรึกษา ศอ.รส. ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และอดีตกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล หรือ ดร.สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เกิดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2496 ที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นญาติของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากนางสุมาลี โตวิจักษณ์ชัยกุล น้าของนายสุรพงษ์ แต่งงานกับนายเสถียร ชินวัตร อาของ พ.ต.ท.ทักษิณ นายสุรพงษ์ เคยสมรสกับนางอัญชลี โตวิจักษณ์ชัยกุล มีบุตร 2 คน คือ ณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล และศุภิสรา โตวิจักษณ์ชัยกุล
นายสุรพงษ์ สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปีที่ 5 จากโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย ได้รับปริญญาวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น, ปริญญาวิศวกรรมศาสตร์มหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยยังทาวน์สเตท รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา และปริญญาวิศวกรรมศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยแห่งแอเคริน รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา มีน้องชายชื่อ สุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นายสุรพงษ์ เริ่มเข้าสู่งานการเมืองโดยลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2529 สังกัดพรรคกิจสังคม แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง ต่อมาได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.เชียงใหม่ สังกัดพรรค ปชป.ในการเลือกตั้งปี 2539 และได้รับเลือกเป็นกรรมการบริหารพรรค ปชป.
ต่อมาการเลือกตั้งปี 2544 ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในสังกัดเดิม แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง โดยแพ้ให้กับนายปกรณ์ บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทย (ทรท.) จากนั้นในการเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2548 นายสุรพงษ์ ยังคงสมัครรับเลือกตั้งในสังกัดพรรค ปชป.เช่นเดิม แต่ย้ายมาลงสมัครในระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 41 แต่ก็ไม่ได้รับการเลือกตั้ง ซึ่งตลอดระยะเวลาที่อยู่กับพรรค ปชป. นายสุรพงษ์ ได้มีบทบาทสำคัญในการอภิปรายโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ต่อมานายสุรพงษ์ ย้ายไปสังกัดพรรคไทยรักไทย (ทรท.) ในปี 2549 ภายหลังรัฐประหารและพรรค ทรท.ถูกยุบพรรค จึงย้ายไปสังกัดพรรคพลังประชาชน และนายสุรพงษ์ ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.เชียงใหม่ ในการเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2550 ในนามพรรคพลังประชาชน ซึ่งมีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นหัวหน้าพรรคในขณะนั้น รวมถึงได้รับแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมาธิการการคลัง การธนาคาร และสถาบันการเงิน สภาผู้แทนราษฎร
ต่อจากนั้นได้ย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย และได้รับการแต่งตั้งเป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในเดือนกันยายน 2553 ในการเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2554 ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 20 ของพรรคเพื่อไทย และได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต่อมาได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีเพิ่มอีกตำแหน่งหนึ่ง
นอกจากนี้ นายสุรพงษ์ ยังเป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่วมลงนามถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษแก่ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ร่วมกับแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ในปี 2552 และในเดือนธันวาคม 2556 ได้รับแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) แทน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก
ในการเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2557 ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ นายสุรพงษ์ ได้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 4 แต่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้การเลือกตั้งครั้งนั้นไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
วันที่ 7 พฤษภาคม 2557 นายสุรพงษ์ ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องในการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี จากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
ล่าสุดวันที่ 19 มิถุนายน 2561 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาในคดีในคดีหมายเลขดำ อม.51/2560 ที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นจำเลยในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จากกรณีคืนหนังสือเดินทางให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกออกหมายจับคดีอาญาหลายคดีซึ่งขัดต่อระเบียบข้อบังคับกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ.2548
โดยศาลมีคำพิพากษาจำคุก นายสุรพงษ์ เป็นเวลา 2 ปี ตามความผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 ซึ่งเป็นบทหนักสุด โดยไม่ให้รอลงอาญา เนื่องจากเห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นการช่วยเหลือให้นายทักษิณ ผู้ต้องหา ที่ถูกศาลจำคุกในคดีซื้อขายที่ดินรัชดา และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดีอื่นๆหลบหนีโดยได้รับความสะดวกในการเดินทางไปต่างประเทศ จากหนังสือเดินทางที่ออกให้ใหม่ ซึ่งเป็นการบั่นทอนความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการยุติธรรมด้วยในการบังคับกฎหมายลงโทษกับจำเลยที่หลบหนีไป
(ภาพจากแฟ้ม)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี