วันนี้ (3 ก.ค.) คนไทยทั้งประเทศรวมทั้งทั่วโลกต่างดีใจกับข่าวการพบทีมนักเตะเยาวชนและโค้ช "หมูป่าอะคาเดมี" ทั้ง 13 คนที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย มาตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่หลายคนเชื่อว่า "ปาฎิหาริย์" มีจริงและเกิดขึ้นแล้วที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน และเป็นไปตามคำทำนายของครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร อรัญวาสีภิกขุ แห่งวัดพระธาตุดอนเรือง เมืองพง รัฐฉาน หลังเดินทางมาที่ถ้ำหลวง-ชุนน้ำนางนอน เมื่อเวลา 20.20 น.คืนวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมาเพื่อทำพิธีถอนขึด ช่วย 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมี ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ชุนน้ำนางนอนกลับบ้าน
พร้อมบอกว่า "เด็กๆ ยังมีชีวิตอยู่อีก 2-3 วันจะได้เจอ" จากนั้นบ่ายวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ครูบาบุญชุ่ม ก็ได้เดินทางมาอีกครั้งเพื่อทำพิธีเปิดตาและแผ่เมตตาก่อนทำพิธีสำคัญเป็นการภายใน
กระทั่งเวลา 22.30 น.คืนวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมาคนไทยทั้งประเทศและทั่วโลกต่างส่งเสียงเฮลั่นเมื่อได้รับทราบข่าวดีจากเจ้าหน้าที่หน่วยซีลและนักดำน้ำชาวอังกฤษจากในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนว่า "ได้พบเด็กๆ ทีมหมูป่าอะคาเดมีทั้ง 13 คนภายในถ้ำแล้ว ทุกคนปลอดภัย และร่างกายแข็งแรงดี" และเมื่อนับย้อนหลังกลับไปจากคืนวันที่ 29 มิ.ย.ถึงคืนวันที่ 2 ก.ค.ก็จะครบ 2 วันตามที่ครูบาบุญชุ่ม ได้ทำนายไว้พอดี
สำหรับ "พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร" ถือเป็นเกจิชื่อดังเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวพุทธหลายประเทศทั้งไทย, ลาว, เมียนมา, จีน และภูฏาน เคยจำพรรษาอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนเป็นเวลานานมาแล้ว
พระครูบาเจ้าบุญชุ่ม ญาณสํวโร เดิมชื่อ ด.ช.บุญชุ่ม ทาแกง เกิดเมื่อวันอังคารที่ 5 ม.ค.2508 ที่หมู่บ้านแม่คำหนองบัว ต.แม่คำ อ.แม่จัน จ.เชียงราย เป็นบุตรของพ่อคำหล้า แม่แสงหล้า ทาแกง มีพี่น้องทั้งหมด 4 คน คือ 1.ครูบาเจ้าบุญชุ่ม ญาณสํวโร 2.ครูบาวีนัส กตปุญโญ, 3.เด็กหญิงเอื้องฟ้า (เสียชีวิต) และ 4.นางอ้อมใจ ปูอุตรี สมรสกับนายประทีบ ปูอุตรี
แม้ครอบครัวจะยากจนใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แต่โยมมารดาก็ปลูกฝังพระครูบาเจ้าบุญชุ่ม ให้ทำบุญ สวดมนต์ ทำสมาธิอยู่เสมอ ทำให้พระครูบาเจ้าบุญชุ่ม สนใจออกบวช
หลังจากเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ในปี 2519 ท่านได้ไปบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดศรีบุญยืน ต.ป่าสัก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ศึกษาพระปริยัติธรรมจนสอบได้นักธรรมชั้นตรีในปี 2526
ต่อมาได้เข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 9 พ.ค.2529 ที่อุโบสถพระเจ้าเก้าตื้อ วัดสวนดอก (พระอารามหลวง) โดยมีพระราชพรหมาจารย์ (ดวงคำ ธมฺมทินฺโน) เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูเวสุวันพิทักษ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ และพระครูศรีปริยัตินุรักษ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์
กระทั่ง 2529 ได้เดินทางไปปฏิบัติธรรมที่ประเทศเนปาล ได้รับเมตตาธรรมจากหลวงปู่โง่น โสรโย จ.พิจิตร ไปส่งที่สนามบิน ได้พบพุทธศาสนิกชนในต่างแดนที่มีชีวิตความเป็นอยู่ค่อนข้างขัดสน และมีวิถีชีวิตแปลกๆ พระครูบาบุญชุ่ม ได้แผ่เมตตาและแนะนำให้ปฏิบัติธรรมเพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวและเสริมสิริมงคลแก่ชีวิตสืบไป
นอกจากนี้ ท่านยังได้จาริกไปตามที่ต่างๆ ทั่วภาคเหนือของไทย, พม่า, อินเดีย, เนปาล และภูฎาน โดยท่านไปจำพรรษาอยู่ที่วัดดอนเรือง เมืองพง จ.เชียงตุง รัฐฉาน เป็นเวลาร่วม 20 ปีระหว่างนั้นท่านเดินทางไประดมกำลังสร้างหรือบูรณะพระเจดีย์วิหารอีกหลายวัดในรัฐฉาน
จนปี 2547 พระครูบาบุญชุ่ม ถูกรัฐบาลทหารพม่าขับออกจากประเทศ ท่านกลับมาอยู่ในประเทศไทย บูรณะและสร้างวัดในที่ต่างๆ หลายแห่ง รวมทั้งดอยเวียงแก้ว อ.แม่สาย จ.เชียงราย แต่ข้อมูลอีกด้านหนึ่งระบุว่า พระครูบาบุญชุ่ม ประสงค์จะกลับบ้านเกิดเข้ามาจำวัดในประเทศไทย
ต่อมาปี 2553 พระครูบาบุญชุ่มได้มาธุดงค์อยู่ที่ถ้ำผาไทย อ.งาว จ.ลำปาง โดยมีศรัทธาชาวบ้านแวะเวียนมากราบไหว้ และมีชาวบ้านเคยเรียนท่านว่ามีอีกถ้ำหนึ่งมีน้ำไหลผ่าน ท่านจึงเสาะหาจนเจอถ้ำราชคฤห์และท่านได้ตั้งสัจจะถือศีลที่วัดถ้ำราชคฤห์ โดยเข้าถ้ำบำเพ็ญเพียร 3 ปี 3 เดือน 3 วัน 3 ชั่วโมง 33 นาที ไม่มีการปลงผม ไม่ฉันอาหารใดๆ และไม่รับกิจนิมนต์ แต่ฉันเพียงผลไม้ที่ลูกศิษย์นำมาถวายและที่หาได้ตามป่าเท่านั้น และได้ออกจากถ้ำเมื่อ 19 ต.ค.2556 ซึ่งเป็นวันออกพรรษา
วันที่ 15 พ.ย.2556 พระครูบาบุญชุ่ม ได้เดินทางไปยังวัดดอนเรือง เมืองพง จ.เชียงตุง เพื่อโปรดญาติโยม โดยไม่มีกำหนดเดินทางกลับเมืองไทย ทางการพม่าได้ออกบัตรประจำตัวพระภิกษุถวายแก่พระครูบาบุญชุ่ม สามารถเดินทางเข้าออกพม่าได้อย่างสะดวก
เมื่อวันที่ 8 ก.ค.2560 พระครูบาบุญชุ่มได้เดินทางไปที่เมืองสาด รัฐฉาน เพื่อเข้าปฏิบัติธรรมกรรมฐานตลอดพรรษา ที่ถ้ำเมืองแกส เป็นถ้ำห่างจากเมืองสาด ประมาณ 5 กิโลเมตร บริเวณก่อนเข้าถ้ำจะมีพุทธศาสนิกชนที่ทราบข่าวเดินทางมารอกราบพระครูบาบุญชุ่ม เป็นจำนวนมาก ซึ่งพระครูบุญบาบุญชุ่ม ได้นำสวดมนต์พร้อมทั้งให้พร สร้างความอิ่มเอมใจให้กับพุทธศาสนิกชนอย่างทั่วหน้า โดยตลอดพรรษา 3 เดือน ที่พระครูบาบุญชุ่มปฏิบัติธรรมกรรมฐาน ท่านจะไม่พูดอะไรเลย
ทั้งนี้ นับแต่ออกบวช พระครูบาเจ้าบุญชุ่ม มุ่งเน้นเรียนกรรมฐานจากครูบาอาจารย์หลายองค์ ได้จาริกไปหลายท้องที่ทั้งภาคเหนือของไทย พม่า เนปาล อินเดีย ภูฏาน ฯลฯ เมื่อพบเห็นวัดใดทรุดโทรมก็เป็นผู้นำในการบูรณะและได้สร้างพระธาตุเจดีย์ วิหาร พระพุทธรูป ไว้หลายแห่งในภาคเหนือ รัฐชาน สิบสองปันนา และประเทศลาว
เมื่อต้นปี 2561 พระครูบาบุญชุ่ม ได้ไปเยี่ยมให้กำลังใจ พล.อ.อาวุโส หม่อง เอ วัย 81 ปี ซึ่งวางมือจากการเมืองพร้อมพลเอกอาวุโส ตาน ฉ่วย
กระทั่งเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2561 พระครูบาบุญชุ่ม ได้เดินทางมาทำพิธีสวดมนต์แพร่บุญที่บริเวณหน้าปากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยมีพ่อแม่และญาติพี่น้องของนักฟุตบอลเยาวชนและโค้ช "ทีมหมูป่าอะคาเดมี" ทั้ง 13 คนที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง มาตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.ร่วมพิธีถอนขึดเพื่อช่วย 13 คนที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงกลับบ้าน
สำหรับพิธีใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนที่พระครูบาบุญชุ่ม จะเดินทางกลับ พร้อมกับกล่าวสั้นๆ ว่า ได้ทำการเปิดถ้ำพวกเขาน่าจะได้กลับออกมาในอีก 2-3 วัน ท่ามกลางเสียงร้องสาธุๆ ของพ่อแม่และญาติของทั้ง 13 คนรวมทั้งประชาชนที่มาร่วมพิธีในครั้งนี้ และวันที่ 30 มิ.ย.พระครูบาบุญชุ่ม ก็ได้เดินทางมาทำพิธีที่บริเวณถ้ำหลวงอีกครั้ง
จนกระทั่งเมื่อคืนวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 22.30 น.ข่าวดีก็เกิดขึ้น "พบหมูป่าอะคาเดมีครับทั้ง 13 คนอยู่ภายในถ้ำหลวง โดยที่ทุกคนยังมีสุขภาพจิตและร่างกายแข็งแรงดี" ท่ามกลางเสียงสาธุเกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะมันเป็นไปตามคำทำนายของพระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร ที่ท่านได้ทำนายไว้จริงๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี