“เกาะกูด” เป็นเกาะสุดท้ายในอาณาเขตของประเทศไทยด้านทิศตะวันออก มีเนื้อที่ 105 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 65,625 ไร่ เดิมเป็นส่วนหนึ่งของ ต.เกาะหมาก อ.แหลมงอบ จ.ตราด กระทั่งในปี 2523 จึงได้ยกฐานะขึ้นเป็น ต.เกาะกูด จากนั้นในปี 2533 ได้รับการยกระดับเป็นกิ่งอำเภอ เนื่องด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงเพราะเกาะกูดนั้นมีพื้นที่อยู่ใกล้ จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา อีกทั้งเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ก่อนหน้านี้ลำบากมากในการเดินทางไปติดต่อหน่วยงานของรัฐ และในปี 2553 จึงได้รับการยกระดับอีกครั้งเป็นอำเภอ
ปัจจุบัน อ.เกาะกูด จ.ตราด เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บรรยายว่า “ความน่าสนใจของเกาะกูดแห่งนี้ กลับไม่ใช่ขนาดที่ใหญ่โตแต่อย่างใด เพราะทะเลสีเทอร์ควอยซ์ของเกาะกูดนั้นคือมนต์เสน่ห์ ที่ทำให้เกาะกูดกลายเป็นสวรรค์ของคนรักทะเลที่มักเดินทางมาสัมผัสความสงบงามท่ามกลางวิถีชีวิตเรียบง่ายของชาวประมง” พร้อมยกตัวอย่าง เช่น “อ่าวสลัด” ที่สามารถรับชมวิถีชาวประมงพร้อมเลือกซื้ออาหารทะเลสดๆ หรือ “บ้านคลองมาด” หมู่บ้านเก่าแก่บนเกาะที่ชาวบ้านยังคงยึดอาชีพเกษตรและประมง เป็นต้น
“หมู่บ้านคลองมาด เป็นหมู่บ้านแรกๆ ของเกาะกูดเลยที่คนเข้ามาอยู่ ก็จะมีประมงพื้นบ้าน แล้วตอนนี้ก็เปลี่ยนจากประมงมารับนักท่องเที่ยวดำน้ำบ้าง แหล่งท่องเที่ยวของเราที่สำคัญคือน้ำตกคลองเจ้า ที่ ร.6 ท่านเสด็จมา แล้วก็มีน้ำตกคลองยายกี๋ น้ำตกห้วงน้ำเขียว แล้วก็เขาเรือรบ มีองค์เสด็จเตี่ย (กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์) อยู่ที่นั่น คนก็จะไปสักการะ ไหว้ขอพร”
จักรกฤช หงษ์ร่อน รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เกาะกูด แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะกูด ขณะพาสื่อมวลชนและนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เดินดูวิถีชีวิตบริเวณบ้านคลองมาด ช่วงเช้าของวันที่ 22 พ.ค. 2568 อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยเป็นช่วง Low Season หรือไม่ใช่ฤดูการท่องเที่ยว จึงไม่ค่อยพบเจอนักท่องเที่ยวมากนัก ทั้งนี้ เกาะกูดไม่ค่อยมีปัญหาที่เกิดขึ้นจากนักท่องเที่ยว เนื่องจากที่นี่เป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ไม่มีสถานบันเทิงยามค่ำคืน นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเกาะกูดก็จะมาเพื่อพักผ่อนอย่างแท้จริง
เกาะกูดมีการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล โดยปลูกปะการังที่บริเวณเกาะแรด มีกลุ่มอนุรักษ์ที่ทำงานร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และในเดือนตุลาคม อันเป็นช่วงก่อนถึงฤดูการท่องเที่ยว หรือ High Season จะมีการทำความสะอาดใหญ่ (Big Cleaning) ทั้งบนบกและในทะเล โดยร่วมมือกันทั้งผู้ประกอบการรีสอร์ทและชาวบ้านในพื้นที่เพื่อเตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยว อนึ่ง นักท่องเที่ยวมาเยือนเกาะกูดส่วนใหญ่มักเป็นชาวต่างชาติ ในจำนวนนี้เป็นชาวรัสเซียมากที่สุด โดยช่วงที่เกาะกูดบรรยากาศคึกคัก คือประมาณเดือนพฤศจิกายน – เมษายน
จักรกฤช หงษ์ร่อน
ระหว่างพาเดินชมบรรยากาศ รองนายก อบต. เกาะกูด ชี้ให้ดูเรือของชาวบ้านที่ติดตั้งหลังคา สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวที่นิยมมาเช่าเรือให้พาไปชมปะการังและตกหมึก – ตกปลา ในบริเวณที่ไม่ไกลจากฝั่งมากนัก รวมถึงไปที่เกาะแรด เฉลี่ยใช้เวลาต่อทริปประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง ส่วนวิถีชาวประมง สัตว์น้ำที่จับได้มักจะซื้อ – ขายกันไป – มาระหว่างหมู่บ้านต่างๆ บนเกาะ เกิดเป็นเศรษฐกิจหมุนเวียนภายในชุมชน
การเดินทางในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งในการลงพื้นที่ของคณะทำงานของ กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ กองทัพเรือ ที่เดินทางเยือน จ.ตราด ระหว่างวันที่ 21 – 23 พ.ค. 2568 ซึ่งในช่วงเช้าของวันที่ 22 พ.ค. 2568 ก่อนหน้าที่สื่อแต่ละสำนักจะแยกย้ายไปติดตามประเด็นที่สนใจบนเกาะกูด อาทิ วิถีชุมชนและการท่องเที่ยว การปฏิบัติหน้าที่ตรวจตรารักษากฎหมายของเจ้าหน้าที่ทหารเรือ และการช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบาง ร.ต.ชนินทร์ นิลฉวี หัวหน้าชุดเฝ้าตรวจนาวิกโยธินเกาะกูด ได้บรรยายสรุปการปฏิบัติหน้าที่บนเกาะกูด
โดยระบุว่า ชุดเฝ้าตรวจนาวิกโยธินเกาะกูด เป็นหน่วยขึ้นตรงของกองพันทหารราบ หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด มีภารกิจ 4 ประการ คือ 1.ลาดตระเวนเฝ้าตรวจพื้นที่ที่หน่วยบัญชาการนาวิกโยธินใช้ 2.สนับสนุนการตรวจสอบที่ราชพัสดุ ในแปลงที่กองทัพเรือใช้ประโยชน์ ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 29 ธ.ค. 2513 ให้แปลงเกาะกูดเป็นพื้นที่สงวนของกระทรวงกลาโหมและมอบให้กองทัพเรือใช้ประโยชน์ 3.สนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ และ 4.ช่วยเหลือและพัฒนาความสัมพันธ์กับประชาชนในพื้นที่
ตัวอย่างภารกิจของชุดเฝ้าตรวจนาวิกโยธินเกาะกูด เช่น สนับสนุนหน่วยงานฝ่ายปกครองในพื้นที่ ตรวจสอบการทำงานของแรงงานข้ามชาติจากประเทศเพื่อนบ้านใน 2 ตำบลของ อ.เกาะกูด คือ ต.เกาะกูด และ ต.เกาะหมาก ส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชา รองลงมาคือชาวเมียนมา ส่วนชาวลาวมีจำนวนน้อย หรือการเยี่ยมบ้านประชาชนที่เป็นกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง รวมถึงให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ประสบภัย อย่างล่าสุดเมื่อเดือน เม.ย. 2568 ได้จัดกำลังเข้าสนับสนุนทางอำเภอ เข้าช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในเหตุการณ์ไฟไหม้เรือ เป็นต้น
ขณะที่อีกฟากหนึ่งของเกาะ ในด้านที่หันหน้าเข้าหาเกาะกงของกัมพูชา ในช่วงเย็นของวันที่ 21 พ.ค. 2568 คณะทำงานกรมกิจการพลเรือนทหารเรือ พร้อมด้วยคณะสื่อมวลชนและนักศึกษาจาก ม.เกษตรศาสตร์ ได้เดินทางไปเยี่ยมชม หน่วยปฏิบัติการเกาะกูด หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง พร้อมรับชมการสาธิตการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหารในหน่วยดังกล่าว
น.ต.ทศพล พงศ์ไพศาลศรี ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด รับหน้าที่บรรยายสรุป โดยระบุว่า ในปี 2521 กองทัพเรือได้จัดตั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 1 โดยการควบคุมทางยุทธการกับหมวดเรือลาดตระเวนชายแดน จากนั้นในปี 2529 จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็นหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด มีภารกิจตรวจการทั้งทางอากาศและพื้นน้ำ คุ้มครองเรือประมงที่อยู่ในเขตประเทศไทย และสนับสนุนหมวดเรือลาดตระเวนชายแดน นอกจากนั้นยังมีภารกิจรองคือการดูแลรักษาที่ราชพัสดุ ซึ่งทางกรมธนารักษ์ได้มอบหมายให้กองทัพเรือดูแล
การเดินทางในครั้งนี้ ทำให้ได้เห็นบทบาทของกองทัพเรือในหลายมิติ ทั้งการปกป้องอธิปไตยของประเทศ และปกป้องผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เช่น ทรัพยากรประมงและแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชน!!!
SCOOP.NAEWNA@HOTMAIL.COM
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี