กระแสการปรับราคารถค่าโดยสารกลับมาอีกครั้ง เมื่อกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้สรุปผลการศึกษาแนวทางการปรับโครงสร้างค่าโดยสารสาธารระ และคาดว่าภายในเดือนส.ค.จะเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายขนส่ง เพื่อพิจารณาแนวทางการปรับโครงสร้างค่าโดยสารใหม่ คาดว่าภายในปีนี้คงได้เห็นความชัดเจนของโครงสร้างราคาใหม่
แหล่งข่าวที่ใช้รถโดยสารสาธารณะประจำทาง (รถเมล์) เปิดเผยกับทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์ว่า หากมีการปรับราคาค่าโดยสารสำหรับรถเมล์นั้น อาจจะปรับขึ้นแค่ 1-1.5 บาท แต่ก็ต้องเห็นใจคนที่เขาต้องเดินทางทุกวัน และต้องไปต่อรถหลายครั้ง รวมๆ กันแล้วก็เป็นเงินจำนวนหนึ่งที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้น อย่าลืมว่าคนที่สัญจรโดยรถเมล์ก็ไม่ได้มีรายได้มากมายนัก และก็ไม่ได้มีตัวเลือกให้เลือกมากนักเช่นกัน และสิ่งที่กรมการขนส่งทางบกต้องปรับ คือ การบริการของคนขับและกระเป๋ารถ เพราะรถเมล์บางสายการบริการแย่มาก และเรื่องเวลาการปล่อยรถบางสายรอรถกันเป็นชั่วโมง อย่าปรับแต่ราคาค่าโดยสารอย่างเดียว ควรจะปรับการบริการด้วย
แหล่งข่าว เปิดเผยอีกว่า สำหรับการปรับราคาแท็กซี่นั้น ตนเห็นว่าคนที่เรียกใช้บริการรถแท็กซี่มีทางเลือกมากกว่าผู้ใช้บริการรถโดยสารประจำทาง ตนเห็นว่าสมควรให้เขาปรับขึ้นได้ เพราะบางคันต้องเช่ารถและเติมน้ำมันหรือก๊าซเองทั้งหมด ส่วนการบริการนั้นก็มีปัญหามานานแล้ว ผู้ที่ขับแท็กซี่ก็ควรจะปรับให้ดีขึ้น เหมาะสมกับราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นด้วย
“เวลาก๊าซหรือน้ำมันราคาขึ้นวิธีการแก้ปัญหาของกรมการขนส่งทางบกก็จะปรับราคาค่าโดยสารเพิ่มขึ้นตาม แต่ทำไมเวลาที่ก๊าซหรือน้ำมันราคาถูกไม่ปรับค่าโดยสารลงมาด้วย ราคาก็ยังแขวนไว้อย่างนั้น คนธรรมดาหาเช้ากินค่ำอย่างเราก็ลำบาก อยากให้รัฐบาลเข้ามาเป็นตัวกลางในการแก้ปัญหาไม่ใช่เอาภาระมาให้ประชาชนอย่างนี้” แหลางข่าวระบุ
ทั้งนี้ แหล่งข่าวชาวจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่า ตนโดยสารรถสาธารณะเป็นประจำทุกวัน และต้องต่อรถถึง 3 ต่อ กว่าจะถึงที่ทำงาน รวมไปกลับก็ 6 ต่อ หากกรมการขนส่งทางบกมีการปรับราคาค่าโดยสารเพิ่มขึ้น เท่ากับเป็นการเพิ่มภาระให้ตน ทุกวันนี้ทุกอย่างเพิ่มขึ้นหมด เช่น ค่ารถ ค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เป็นต้น แต่รายรับเท่าเดิม แต่หากต้องปรับราคาขึ้นจริงๆ ส่วนการปรับค่าโดยสารแท็กซี่นั้น ส่วนตัวเห็นว่าหากจะจริงๆ ก็ควรเพิ่มในส่วนของค่าโดยสารตามระยะทางก็พอแล้ว เพราะตนสังเกตตอนที่นั่งแท็กซี่เมื่อรถติดหรือติดไฟแดงมิเตอร์ก็ขยับขึ้นปกติ
“การเลือกขึ้นแท็กซี่ เพราะบางครั้งเรารีบ หรืออาจถือของจำนวนมาก แท็กซี่คือทางเลือกหนึ่งของเรา แต่หากมาปรับราคาเพิ่มในช่วงรถติดคงเลือกหอบของขึ้นรถเมล์ เพราะกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่รถติดหนักหนามาก ยิ่งเวลาตอนเช้าและตอนเย็นยิ่งติดหนักมาก ทั้งนี้ สิ่งที่ตามมาและคนที่ได้ความเดือดร้อนและผลกระทบโดยตรง คือ คนหาเช้ากินค่ำ” แหล่งข่าวระบุ
สำหรับ กรณีที่กระทรวงคมนาคมยื่นข้อเสนอให้กับ บริษัท ปตท. อุดหนุนค่าเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) ให้กับรถโดยสารขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่บริการรับใช้ประชาชน ในรูปแบบการลดราคาค่าก๊าซเหลือ 10 บาท/กิโลกรัม (กก.) จากปัจจุบันอยู่ที่ราว 14.29 บาท/กก. ล่าสุดได้รับรายงานว่าทาง ปตท.ตอบปฏิเสธ เนื่องจากเป็นภาระค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป ซึ่งหลังจากนี้ต้องรายงานฝ่ายนโยบายเพื่อหาแนวทางอื่นต่อไป
ขณะที่นายสุเมธ องกิตติกุล ผู้อำนวยการวิจัยด้านนโยบายการขนส่งและโลจิส ติกส์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า แนวทางการคิดค่ารถแท็กซี่และรถเมล์ใหม่นั้นเน้นไปที่การปรับราคาให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริงในปัจจุบัน จึงมีทางเลือกการปรับราคาหลายรูปแบบ เช่น การคิดค่าโดยสารตามเวลาเดินทาง หรือการคำนวณค่าโดยสารเพิ่มเมื่อการจราจรติดขัด
แหล่งข่าวกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ค่าโดยสารรถเมล์ในปัจจุบันไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งเพิ่มขึ้นทั้งค่าเชื้อเพลิง ค่าจ้างและค่าซ่อมบำรุง เป็นต้น ส่งผลให้ต้องลดต้นทุนดำเนินธุรกิจเดินรถจนคุณภาพบริการตกต่ำประชาชนไม่ใช้บริการ และทำให้กระทบรายได้ต่อเนื่อง สุดท้ายต้องทยอยเลิกกิจการ
“การได้เสนอปรับโครงสร้างค่าโดยสารรถเมล์เพิ่มขึ้น 10-15% จากราคาปัจจุบัน ขณะที่ผลศึกษาการปรับค่าโดยสารรถแท็กซี่นั้นจะปรับเพิ่มขึ้น 10% โดยแยกค่าใช้จ่ายเป็นสองส่วน 1.ค่าโดยสารตามระยะทาง 2.ค่ารถติด 50 สตางค์/นาที ใช้วิธีคิดราคาตามเวลาที่เดินทางจริงร่วมกับเวลารถติด” แหล่งข่าว ระบุ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ก็มีการเสนอให้คนขับ Grab แบบถูกกฎหมาย โดยไม่จำเป็นต้องแก้กฎหมายแต่เสนอให้แก้กฎกระทรวงบางอย่าง และเปิดโอกาสให้คนที่ขับ Grab มาลงทะเบียนอย่างถูกต้องโดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นป้ายเหลือง แต่ก็ต้องมีมาตรการมาควบคุมไม่ให้เกิดการผูกขาด แต่จนปัจจุบันนี้ก็ลงทะเบียนดังกล่าวก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับและมีการเรียกร้องจากกลุ่มคนขับรถแท็กซี่รวมถึงวิวินมอเตอร์ไซค์ด้วย ทั้งนี้ การปรับค่าโดยสารเพิ่มขึ้นครั้งนี้ อาจจะเป็นนาทีทองของ Grab ก็เป็นได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี