วันนี้ (30 ส.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ "อะลิตเติ้ลบุ๊ด" (http://www.alittlebuddha.com) ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ในแวดวงพระสงฆ์อย่างตรงไปตรงมา ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับปัญหาพระสงฆ์ และสามเณรติดยาเสพติด หลังจากทาง ป.ป.ส.ได้รายงานต่อมหาเถรสมาคม ถึงการจับพระสงฆ์เสพและค้ายาซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นช่วง 10 ปี พุ่งถึง 7 เท่า เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา
โดยเว็บไซต์ "อะลิตเติ้ลบุ๊ด" ได้พาดหัวข่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า "เพิ่มเจ็ดเท่า! จำนวนพระเณรติดยาเสพติดก้าวกระโดด แถมทั้งเสพทั้งขายครบเครื่อง"
พร้อมระบุรายละเอียดว่า "...อา..ถือว่าเป็นสถิติที่ไม่น่าภูมิใจสำหรับ "วัดวาอาราม" อันงามสง่าของคนไทยมาแต่โบราณ เขาสร้างวัดไว้ให้ไป "ศึกษาและปฏิบัติ" มิใช่ไปเสพยาค้ายา ถือว่าผิดวัตถุประสงค์ของการสร้างวัด ดังนั้น องค์กรสงฆ์จึงต้อง "เข้มงวด" กว่าเดิม แบบว่า "อันตรายิกธรรม" ที่ใช้มาตั้งแต่สมัยพุทธกาล เห็นทีจะไม่เพียงพอเสียแล้ว อาจจะเพิ่มคำถาม "เคยติดยามาก่อนหรือไม่" เข้าไปด้วย
ปัญหานี้กระทบถึง "คุณภาพ" ของพระภิกษุสามเณร แบบว่าคนที่จะมาบวชมีประวัติดีหรือไม่ หรือมองเห็นวัดเป็นแต่เพียง "ที่ทิ้งขยะสังคม" แบบว่า หมู หมา กาไก่ อะไรที่แปลกประหลาด บ้านไม่ต้องการก็นำไป "ปล่อยวัด" แม้กระทั่ง "คนเสีย" ที่บ้านไม่ต้องการ ก็นำเอาไป "บวชทิ้ง" ไว้ในวัด วัดจึงกลายเป็นกระโถนสังคมไทยมาเนิ่นนาน เดรัจฉานวิชาส่วนใหญ่ ก็มาจากพวกขยะสังคมที่สังคมนำไปทิ้งไว้ในวัดนี่แหละ
แต่ต่อไปนี้ เห็นทีว่า "วัด" ต้องปรับตัวเองครั้งใหญ่ ไม่ยอมเป็นกระโถนให้แก่สังคมไทยแบบชุ่ยๆ อีกต่อไป ต้องคัดกรองคนเข้ามาบวชเอาแต่คนดีมีคุณภาพ ต้องมีฐานะดีเป็นลูกเศรษฐีหรือเชื้อเจ้าเหง้าขุนเหมือนพระพุทธเจ้า และพระประยูรญาติ หรือไม่ก็ต้องเป็นผู้ดีมีการศึกษา เหมือนพระ "โมคคัลลาน์-สารีบุตร" อดีตพระอัครสาวกผู้โด่งดัง
ซึ่งพอจะเทียบเคียงคุณสมบัติในสมัยนี้ได้บ้าง อาทิเช่น ถ้าพ่อแม่ไม่รวยระดับ "พันล้าน" ก็ต้องระดับ "เชื้อพระวงศ์" ถึงจะอนุญาตให้บวช หรือไม่ก็ต้องมีการศึกษาระดับ "ปริญญาเอก" เป็นอย่างต่ำ ถึงจะได้รับอนุญาตให้บวชได้ บวชแล้วก็ต้องเตรียมตัวเป็นสังฆราชด้วย เพราะถึงตอนนั้นก็คงเหลือแค่ "วัดพระแก้ว" วัดเดียว ที่มีพระเณรอยู่อาศัย ประเทศไทยจะได้พระดีมีคุณภาพ..ล้นแก้ว"
นอกจากนี้ เว็บไซต์ "อะลิตเติ้ลบุ๊ด" ยังได้นำข้อมูลข่าวที่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.รายงานมหาเถรสมาคมกรณีการจับพระสงฆ์เสพ ค้ายาเพิ่ม ช่วง 10 ปี พุ่งถึง 7 เท่ามาโพสต์ใน...ด้วย โดยระบุหัวข้อว่า "น่าตกใจ ! สถิติใหม่วงการพระ ทั้งเสพ ค้ายาเสพติด"
พร้อมกับรายละเอียดของข่าวเมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยเนื้อข่าวระบุว่า "....ป.ป.ส.รายงานมหาเถรสมาคม จับพระสงฆ์เสพ ค้ายาเพิ่ม ช่วง 10 ปี พุ่งถึง 7 เท่า พระหนุ่ม 20-24 ปีมากสุด น่าตกใจกว่านั้นมีพระหน้าใหม่กว่าครึ่ง เร่งทำฐานข้อมูลพระ ตรวจวัด เจอค้าจับสึกส่งดำเนินคดี
มีรายงานการประชุม เรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในวัดที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ของมหาเถรสมาคม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เลขาธิการมหาเถรสมาคมได้เสนอต่อที่ประชุมมหาเถรสมาคมว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) มีหนังสือแจ้งว่ามีแนวโน้มพระสงฆ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเพิ่มขึ้น ทั้งจากที่เป็นข่าว และจากฐานข้อมูลยาเสพติดที่เกี่ยวข้อง
รายงานระบุว่า จำนวนพระสงฆ์ที่เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาในแต่ละปี มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 7 เท่า ในปี 2560 เมื่อเทียบกับปี 2551 ช่วงอายุของพระสงฆ์ที่เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาในลำดับแรกอยู่ในช่วงอายุระหว่าง 20 - 24 ปี สอดคล้องกับช่วงอายุของกลุ่มประชากรทั่วไป ที่เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา
กรณีการจับกุมที่ปรากฏเป็นข่าวนั้น ในช่วง 6 เดือนแรก ของปีนี้ 2561 มี 66 ข่าว สูงกว่าในห้วงเวลาเดียวกัน ในปี 2560 ซึ่งมี 28 ข่าว และมากกว่ากึ่งหนึ่งไม่เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมาก่อน ที่น่าสนใจคือฐานความผิดเกี่ยวกับการเป็นผู้จำหน่ายยาเสพติดของพระสงฆ์ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นและรุนแรงมากขึ้น โดยมีจำนวนของกลางยาเสพติด ที่พระสงฆ์เข้าไปเกี่ยวข้องสูงสุด คือ ยาบ้า 200,000 เม็ด เมื่อวันที่ 7 มี.ค.2561 ที่ จ.ลำปาง
แม้เปรียบเทียบสัดส่วนของพระที่ทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดกับจำนวนพระสงฆ์และวัดทั่วประเทศไม่ถึง 1% แต่เฉลี่ยมีข่าว 3 วันต่อ 1 ข่าว ทำให้เกิดภาพลักษณ์ด้านลบต่อพระสงฆ์ ป.ป.ส.จึงได้ขอความร่วมมือกับสำนักงานพระพุทธศาสนาจัดทำข้อเสนอแก้ปัญหา เช่น จัดทำฐานข้อมูลพระภิกษุ สามเณร ศิษย์วัด ที่อยู่ปัจจุบันและที่มีการย้ายสังกัดวัด ตรวจตราวัดที่เป็นข่าวแพร่ระบาดของยาเสพติด ซึ่งการปฏิบัติการตรวจตรา จะกระทำโดยไม่เปิดเผยต่อสื่อสารมวลชน ด้วยความระมัดระวัง เพื่อมิให้มีผลกระทบทางลบต่อพระพุทธศาสนา โดยยึดแนวทาง
เช่น หากพบพระที่ติดยาให้เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา และหากมีพระค้ายาเสพติดให้ลาสิกขา และดำเนินคดีตามกฎหมาย นอกเหนือจากการให้ความรู้ และการตรวจสุขภาพและคัดกรองพระที่ใช้สารเสพติดไปสู่กระบวนการบำบัดรักษา
ที่ประชุมรับทราบและให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติแจ้งเจ้าคณะจังหวัดทั้งสองฝ่าย เพื่อแจ้งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกระดับชั้นในเขตปกครอง ดำเนินการเข้มงวดคัดกรองผู้ที่จะเข้ามาขอบรรพชาอุปสมบท และดูแลพระภิกษุสามเณรในปกครองโดยใกล้ชิด พร้อมทั้งให้ความร่วมมือกับหน่วยงานราชการที่ประสานงาน เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดต่อไป
*ภาพจากแฟ้ม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี