"วัดดอนธาตุ" หรือ "วัดเกาะแก้วพระนอนคอนสวรรค์วิเวกพุทธกิจศาสนา" เดิมเป็นเกาะกลางลำแม่น้ำมูล ชาวบ้านเรียกว่า เกาะดอนธาตุ ตั้งอยู่พื้นที่ระหว่างบ้านทรายมูลเหนือ ตำบลทรายมูล และบ้านคันไร่ ตำบลคันไร่ อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ถือเป็นวัดที่อยู่กลางเกาะที่มีสภาพป่าไม้อุดมสมบูรณ์ ส่วนมากเป็นต้นไม้ใหญ่ปกคลุมหนาแน่นตามธรรมชาติ
ทั้งนี้ วัดดอนธาตุอยู่ในพื้นที่บ้านทรายมูลเหนือ ในโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี โดยกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เป็นผู้รับผิดชอบดูแล ส่งเสริม ผลิตภัณฑ์ OTOP รวมถึงพัฒนาและสนับสนุนชุมชน เพื่อเพิ่มเสน่ห์ของภูมิปัญญา วิถีชีวิต อัตลักษณ์ท้องถิ่นและเพิ่มคุณค่าในการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาท่องเที่ยวในแหล่งชุมชนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะจุดเช็คอินที่เป็นอัตลักษณ์โดดเด่นในชุมชน
วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักของประชาชนภาคอีสานเป็นอย่างดี เนื่องจาก "พระครูวิเวกพุทธกิจ (หลวงปู่ใหญ่เสาร์ กนฺตสีโล) พระปรมาจารย์สายพระกรรมฐาน ผู้เป็นบูรพาจารย์สายพระป่าในประเทศไทยที่ชาวบ้านให้ความเคารพบูชา และเป็นอาจารย์ของพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต อาจารย์ใหญ่ฝ่ายอรัญญวาสี ออกเดินธุดงค์กรรมฐาน ปักกลดอยู่ในป่า ในดง ในถ้ำ ในเขา องค์แรกของอีสาน คือ "หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล" นัยว่าท่านออกบวชในพระศาสนา ท่านสนใจเรื่องการปฏิบัติสมถกรรมฐาน วิปัสสนากรรมฐาน โดยถ่ายเดียว ซึ่งสหธรรมิกคู่หูของท่านก็ คือ พระปัญญาพิศาลเถร (หนู) เป็นคนเกิดในเมืองอุบลฯ ท่านออกเดินธุดงค์ร่วมกัน หลวงปู่เสาร์ตามปกติท่านเป็นพระที่เทศน์ไม่เป็น แต่ปฏิบัติให้ลูกศิษย์ดูเป็นตัวอย่าง
ตามประวัติของท่านมีอยู่ว่า เมื่อปี พ.ศ. 2481 หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล พระอาจารย์ดี ฉนฺโน และคณะศิษย์ชาว อำเภอพิบูลมังสาหาร ได้ธุดงค์สำรวจเกาะแก่งน้อยใหญ่ในลำแม่น้ำมูลทางตอนใต้ของเมืองพิบูลมังสาหาร จนมาถึงเกาะดอนธาตุจึงได้ขึ้นพำนักปักกลดที่เกาะแห่งนี้ หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล ได้ปรารภว่า อยากสร้างเกาะดอนธาตุ แห่งนี้ขึ้นเป็นวัดป่ากรรมฐาน เพราะมีความเหมาะสม จึงมอบหมายให้พระอาจารย์ดี ฉนฺโน และคณะศรัทธาญาติโยมชาวอำเภอพิบูลมังสาหาร รับหน้าที่ดูแลการสร้างวัดและเสนาสนะขึ้น และกลายเป็นวัดดอนธาตุในปัจจุบัน
บริเวณภายในวัดมี "พระพุทธไสยาสน์ (พระนอน)" ประดิษฐานอยู่ด้วย ซึ่งในปัจฉิมวัยขององค์หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล ได้พำนักจำพรรษา ที่วัดดอนธาตุ ก่อนที่ท่านจะละสังขาร มรณภาพในอิริยาบถนั่งกราบพระประธาน ครั้งที่ 3 ภายในพระอุโบสถ วัดอำมาตยาราม อำเภอวรรณไวทยากร จังหวัดนครจัมปาศักดิ์ ประเทศไทยในขณะนั้น (ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของแขวงจำปาศักดิ์ สปป.ลาว) จากนั้นได้เชิญศพของท่านกลับมา ณ วัดบูรพาราม อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี และได้ทำพิธีฌาปนกิจในวันที่ 15 - 16 เมษายน พ.ศ. 2486
ต่อมาภายใน ปี 2544 ได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ เจดีย์พิพิธภัณฑ์ท่านพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล พระปรมาจารย์สายพระกรรมฐาน เมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2544 โดยมี ฯพณฯ พลอากาศตรี กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี เป็นประธาน ซึ่งเจดีย์มีขนาดฐาน กว้าง 16 เมตร สูง 33 เมตร สัณฐานเจดีย์ รูปทรงเป็นรูปกรวย เอกลักษณ์สถาปัตยกรรมอีสาน
การที่สร้างทรงแปดเหลี่ยม หมายถึง "มรรคมีองค์แปด" อันได้แก่ "สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ" ต่อด้วยยอดเจดีย์ หมายถึง "นิพพาน" เป็นรูปกรวยกลมแหลมปิดด้วยทองอร่ามตาเป็นยอดสูงสุด เหนือสุดมีฉัตรทองปรกองค์พระเจดีย์อันสูงส่ง ควรแก่การสักการบูชา ภายในองค์เจดีย์เป็นห้องพิพิธภัณฑ์ มีแท่นศิลาหินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์เป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อ หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล มีตู้กระจกแสดงอัฐิธาตุและอัฐบริขารเครื่องใช้ของหลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี