ครูหลายโรงเรียนโพสต์เตือนภัยให้ระวังหนุ่มมิจฉาชีพ แอบอ้างเป็นอดีตลูกศิษย์มาขอเงินช่วยค่าบวช โดนกันมาแล้วหลายรายหลายโรงเรียน

3 พ.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครูอาจารย์หลายโรงเรียน อาทิ โรงเรียนวัดราชบพิตร , สวนกุหลาบวิทยาลัย , ราชินี และวัดดาวคนอง เป็นต้น ได้โพสต์เฟซบุ๊คแจ้งเตือนให้เพื่อนครูอาจารย์ระวังตัวจะโดนหนุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นศิษย์เก่ามาหลอกขอเงิน ซึ่งมีการแจ้งเตือนกันมาตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา และมีการเผยแพร่ภาพนิ่ง พร้อมคลิปภาพวงจรปิดบุคคลดังกล่าว 

ทั้งนี้ ครูฐิติพร จรรยาวิจิตร หัวหน้างานประกันคุณภาพการศึกษา ร.ร.วัดราชบพิธ โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัว เมื่อวันพุธที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่า “ไอ้คนนี้..ตอนนี้ยังไม่เลิกทำเลว..ยังหากินแบบนี้อยู่..และเริ่มไปที่บ้านครูที่เกษียณ หรือครูสูงอายุ..เพราะมักจะใจดีและปลื้มใจที่มีลูกศิษย์มาหาถึงบ้าน..ช่วยกันแชร์ให้มากๆๆคะ” โดยมีรูปภาพนิ่งและคลิปวงจรปิดใบหน้าชายหนุ่มรายนี้

ขณะที่ก่อนหน้านี้ช่วงเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ครูผ่องศรี ชินนาค ครูชำนาญการ ร.ร.สวนกุหลาบวิทยาลัย โพสต์เตือนเพื่อนครูผ่านเฟซบุ๊ค ว่า “คนเป็นครู...ระวังมิจฉาชีพ..เข้ามาหา..อ้างว่าเป็นศิษย์เก่า..มาขอขมาลาบวช..ถ้าเจอครูคนไหน..ก็ใช้วิธีบอกว่าพรุ่งนี้จะบวช..แต่เมื่อคืนฝันถึงคุณครู..แม่กับเจ้าอาวาสวัดที่จะบวช..บอกว่าต้องมาขอขมาลาบวชกับครูคนนี้ให้ได้เพราะชะตาต้องกัน ต้องทำบุญร่วมกัน..แล้วเชิญครูร่วมทำบุญเป็นประธานผ้าไตรชุดใหญ่ และได้มีการทำไวนิลขึ้นชื่ออาจารย์เป็นประธาน ติดอยู่ที่หน้าวัดด้วย

..โดยต้องทำบุญ เป็นตัวเลข 4,930 บาท.มีการพูดจาเนียนมาก..วัดที่บวชจะต่างจังหวัด เราไม่สามารถไปร่วมได้..มีการกราบเท้า น้ำตาไหล ตอนที่ขอขมาลาบวชด้วย ว่าไม่นึกว่าจะมาพบอาจารย์ตามที่ฝันจริงๆ...ตัวเองเจอกับตัวแล้ว แต่ก็ไหวตัวทัน เกือบเสียเงินแล้ว...และทราบว่ามีครูหลายโรงเรียนเจอแล้ว..บางคนไปหาถึงบ้านเลย..จึงอยากให้ระวังและแชร์ต่อด้วยนะคะ..และนี้คือโฉมหน้าของคนที่ตัวเองเจอ..และภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงเรียนที่กำลังเดินหาครูที่นั่งทำงานอยู่ในห้องคนเดียวช่วงเย็นๆ”

ครูผ่องศรี เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง บุคคลนี้เข้ามาพบตนที่โรงเรียน อ้างว่าเป็นศิษย์เก่า ว่า ชื่อศรันยู จบรุ่น 23 ให้เบอร์โทร.ด้วยแต่โทร.แล้วไม่ใช่เบอร์เขา บอกว่ากำลังเรียนแพทยศาสตร์ ตรวจสอบทั้งที่โรงเรียน และคณะแพทยศาสตร์ พบว่า ไม่มีนักศึกษาชื่อนี้เลย เคยให้ค่ารถช่วยเหลือไป แต่ไม่ได้ช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายในการบวชตามที่กล่าวอ้าง เมื่อเอาเรื่องไปเล่าให้เพื่อนครูฟังก็พบว่าหลายคนเคยเจอเหมือนกัน วันนั้นได้ให้เงินช่วยเป็นค่ารถไปเท่านั้น

นอกจากครั้งนั้นแล้ว ยังเคยตามไปขอความช่วยเหลือถึงที่บ้านพัก ไม่รู้ว่ารู้จักบ้านเราได้อย่างไร ตนต้องออกอุบายว่าจะไปธุระ พอไปแจ้งความ สน.ท้องที่เขาบอกว่ายังไม่มีความเสียหายอะไร แนะนำให้ไปแจ้ง สน.พระราชวัง ท้องที่ที่เคยโดนหลอกเอาเงิน แต่ก็ไม่ได้ไปแจ้ง

ด้าน ครูสิริพร ศักดิ์ศิริ ครูชำนาญการ รร.วัดดาวคนอง  โพสต์เฟซบุ๊คชื่อ Siriporn Saksiri  เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ว่า “เพื่อนๆโปรดทราบและโปรดระวัง มันมาระบาดในโรงเรียนวัดดาวคนองแล้วค่ะ อ้างกับ ผอ. ว่าเป็นศิษย์เก่าครูศิริพร ครูรับปากว่าถ้าบวชจะทำบุญซื้อผ้าไตรให้ ครูศิริพรไม่อยู่พอดี ผอ ใจดีเลยทำบุญแทน. ดันวีดีคอลมาคุยกับเรา. ไม่คุ้นหน้าเลย. ชื่อก็ไม่คุ้น. ดีว่าครูศิริพรจำได้ว่าเคยอ่านในไลน์กลุ่มchina เลยรีบแจ้งผอ. ผอ. ไหวตัวทัน ขอเงินคืน มันเลยรีบเผ่นแนบ กำลังจะเรียกตำรวจเชียว. โชคดีของชาวดาวคนอง ทำบุญมาดี รูปคู่ที่มันถ่ายกับ ผอ.ตอนยังจับโกหกไม่ได้ค่ะ ช่างกล้าเนอะ”

ครูศิริพร เจ้าของโพสต์เปิดเผยเรื่องนี้ว่า “วันเกิดเหตุพอได้เห็นหน้าชายคนที่อ้างว่าเป็นลูกศิษย์แล้ว ตนก็เอะใจว่าไม่เคยมีลูกศิษย์ชื่อนี้ หน้าตาแบบนี้ ประกอบกับเคยเห็นข่าวที่ถูกแชร์กันมาว่า มีคนมาหลอกลวงในรูปแบบดังกล่าวนี้ จึงทำทีว่าแบตเตอรี่โทรศัพท์จะหมดแล้วขอวางสาย ก่อนที่จะโทรแจ้งผู้อำนวยการโรงเรียนให้ไหวตัวทัน”

โดยหลังจากที่โพสต์ออกไป พบว่า มีผู้เสียหายหลายรายเข้ามาแจ้งข้อมูลว่าถูกหลอกเหมือนกัน และพบว่าอาจารย์ในโรงเรียนมัธยมที่อยู่ติดกันก็ถูกหลอกเสียเงินไป 500 บาท รวมถึงครูในกรุงเทพฯ หลายพื้นที่ก็ถูกหลอกเช่นกัน จึงขอฝากตำรวจให้ติดตามจับกุมตัวชายมิจฉาชีพคนดังกล่าวมาดำเนินคดีโดยเร็ว เพื่อไม่ให้ไปหลอกลวงใครได้อีก

“ไอ้คนนี้..ตอนนี้ยังไม่เลิกทำเลว..ยังหากินแบบนี้อยู่..และเริ่มไปที่บ้านครูที่เกษียณ หรือครูสูงอายุ..เพราะมักจะใจดีและปลื้มใจที่มีลูกศิษย์มาหาถึงบ้าน..ช่วยกันแชร์ให้มากๆๆคะ” ครูศิริพร ระบุ

ด้าน ครูวิภาพร ฝาชัยภูมิ ครูประจำชั้น ป.6 ร.ร.วัดดาวคนอง  ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า “วันก่อนตอนกำลังจะกลับบ้าน มีชายแปลกหน้าคนหนึ่งเข้ามาในโรงเรียน อ้างว่าเป็นแพทย์วิสัญญีอยู่ที่โรงพยาบาลชื่อดัง เป็นลูกศิษย์ครูศิริพร จะมาลาบวช ตนจึงวิดีโอคอลไปคุยกับครูศิริพร เพื่อจะได้เห็นหน้ากัน แต่ครูศิริพรรู้สึกไม่คุ้นหน้าชายรายนั้น และมั่นใจว่าไม่ใช่ลูกศิษย์ จึงโทรกลับมาหาครูไก่ให้รีบไปบอกผู้อำนวยการโรงเรียน ที่ได้ให้เงินช่วยทำบุญไปก่อนหน้านี้แล้ว 1,000 บาท ซึ่งคนร้ายก็รีบคืนเงิน ก่อนอาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไปได้”

ครูอาจารย์หลายโรงเรียนที่ทราบข่าวรวมทั้งคนที่แชร์เรื่องนี้ต่างแสดงความเห็นอยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบดูแลและจับกุมมิจฉาชีพรายนี้ เกรงว่าจะมาก่อเหตุที่ร้ายแรงกว่าการเข้ามาขอเงินเท่านั้น