วันเสาร์ ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2568
จากการลงพื้นที่สำรวจสถานประกอบการธุรกิจสปาย่านสาธร โดยเฉพาะ “ซอยสวนพลู” ต้องบอกเลยว่าตลอดทั้งซอยมีร้านนวดแผนไทยไม่ต่ำกว่า 10 ร้าน ส่วนใหญ่จะเป็นหมอนวดผู้หญิงที่คอยให้บริการลูกค้า มีเพียงไม่กี่แห่งที่มีหมอนวดเป็นผู้ชาย หรือที่เราเรียก “Men Spa” แต่ที่น่าสนใจมากกว่านั้นคือ หมอนวดชายที่นี่ทุกคนหล่อ ล่ำ บึก และที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ คือมี “แรงงานต่างด้าว” มาทำงานเป็นหมอนวดรวมอยู่ด้วย ทั้งที่ความจริงแล้วเป็นอาชีพต้องห้ามของคนไทย ที่ต้องมีใบประกอบวิชาชีพถึงจะประกอบอาชีพนี้ได้ ไม่ใช่จะเอาใครที่ไหนมา “นวด” ก็ได้
เมื่อไม่นานมานี้ธุรกิจสปาได้กลายเป็นที่ฮือฮา เมื่อสปาแห่งหนึ่งในย่านเดียวกันถูกตำรวจบุกค้นจนเป็นข่าวดังไปทั่ว เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ย่านสวนพลู พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รรท.ผบช.สตม.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย , พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย , พล.ต.ต.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รรท.รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.วิญญู อำนวยสมบัติ รอง ผบก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.2 บก.สส.สตม.ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมบุคคลต่างด้าวลักลอบทำงานหมอนวด ร้านนวด และสปาสำหรับผู้ชาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
เปิดธุรกิจ 'สปา' ย่านกลางกรุงมีหนุ่มหล่อหุ่นบึกไว้บริการนวดทั้งหญิงและชาย
สตม.ทลายสปา‘ชายนวดชาย’ย่านสวนพลู รวบหมอนวดหล่อล่ำต่างด้าวอื้อ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2562 กก.2 บก.สส.สตม. ได้เข้าตรวจสอบร้านนวดสปา ภายในซอยสวนพลู หลังจากได้รับการร้องเรียนว่ามีต่างด้าวลักลอบทำงานเป็นหมอนวด จากการตรวจสอบพบว่าเป็นร้านนวดแผนไทย และสปา เปิดให้บริการสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ โดยหมอนวดต่างด้าวเป็นชายทั้ง 15 คนจะนั่งรอลูกค้าผู้มาใช้บริการอยู่ในห้องกระจกที่มองเห็นได้จากล็อบบี้ เมื่อลูกค้าพอใจหมอนวดคนใดก็จะเรียกออกมาใช้บริการนวดในห้องที่เตรียมไว้
จากการตรวจสอบพบว่าคนต่างด้าวมีทั้งชาวเวียดนาม เมียนมา ลาว และกัมพูชา ทั้งหมดไม่มีใบอนุญาตทำงาน และมีจำนวน 2 คน ที่วีซ่าหมดอายุ เจ้าหน้าที่ กก.2 บก.สส.สตม.จึงได้แจ้งข้อหา และควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

ล่าสุด...“ทีมข่าวเฉพาะกิจแนวหน้าออนไลน์” ได้ติดต่อไปยัง “คุณโจ” ผู้ดูแลสปาดังกล่าว โดยคุณโจบอกกับทีมข่าวฯ ว่า สปาแห่งนี้เปิดมาได้ 8 ปีแล้ว ทำถูกต้องทุกอย่าง เพราะไม่งั้นจะอยู่ไม่ได้มาถึงทุกวันนี้ ส่วนเรื่องรับแรงงานต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ซึ่งมีความผิดทางกฎหมายตรงนี้ก็ยอมรับ ให้เป็นเรื่องของคดีไป แต่เรื่องของธุรกิจก็ยังต้องดำเนินต่อไปด้วย ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ แต่ต้องยอมรับว่าเพราะกระแสข่าวที่ออกไปส่งผลให้รายได้ของร้านลดน้อยลง
“เรารู้กันอยู่แล้วว่าการรับแรงงานต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตนั้นผิดกฎหมาย เรายอมรับที่ไม่ตรวจสอบเอกสารในการสมัครงานให้ละเอียด เพราะเห็นว่าเค้าพอนวดได้ จึงรับไว้ แต่ต่อไปเราจะละเอียดรอบคอบและคำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมาภายหลังให้มากกว่านี้ แต่มั่นใจได้ว่าทางร้านของเราหมอนวดกว่า 80 เปอร์เซ็นต์มีใบประกอบวิชาชีพ ส่วนอีก 20 เปอร์เซ็นต์ยังคงศึกษาอยู่ แต่เค้าทำหน้าที่อย่างอื่นพร้อมทั้งเรียนรู้เรื่องการนวดจากเพื่อนร่วมงานไปด้วย หลังจากที่ทางร้านโดนดำเนินคดีเข้ารับทราบข้อหาแล้วนั้น จึงมีกฎออกมาใหม่ว่าไม่รับแรงงานต่างด้าวเข้าทำงานเป็นหมอนวดอีก แต่หากรับก็จะทำในตำแหน่งอื่นแทน พร้อมทั้งจะตรวจเอกสารทุกครั้ง เพราะที่ผ่านมาคือเราปล่อยปะละเลยกันมามาก เพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนและคนรู้จักของพนักงานจึงได้รับไว้โดยไม่ได้ตรวจสอบอะไร จนกระทั่งเกิดเรื่องขึ้น” ผู้ดูแลสปา ระบุ
คุณโจ ยังบอกพร้อมทั้งยืนยันกับทีมข่าวฯอีกครั้งว่า ถึงแม้จะเป็นสปาสำหรับผู้ชาย แต่ทางร้านก็ยินดีต้อนรับลูกค้าผู้หญิงทุกคน โดยไม่แบ่งเพศหรือแบ่งคอร์สนวด เพราะทางร้านซีเรียสเรื่องนี้มาก เราบริการอย่างเท่าเทียมคือลูกค้าทุกคนหากถูกใจพนักงานนวดคนไหนก็สามารถเรียกใช้บริการได้ทันที แต่หากใครไม่ชอบนวด ทางร้านยังมีมุม “มินิบาร์” และ “คาเฟ่” ไว้สำหรับให้นั่งดื่ม นั่งกินชิลล์ๆด้วย
“เราซีเรียสเรื่องการค้ากามเป็นอย่างมาก เพราะรู้ว่ามันผิดกฎหมายทางร้านเราไม่ได้ทำเรื่องแบบนี้แน่นอนขอยืนยันได้ เราก็ทำธุรกิจสปาเหมือนกับร้านสปาอื่นทั่วไปที่มีหมอนวดเป็นผู้หญิง แต่กลับกันของเราเป็นหมอนวดผู้ชาย จึงทำให้ทุกคนคิดไปในด้านค้ามนุษย์ก่อน เมื่อเห็นข่าวออกไป ซึ่งทางร้านก็ตกใจไม่น้อย ทั้งที่จริงแล้วร้านเราไม่ได้ทำเรื่องผิดกฎหมายแบบนั้น เราผิดเพียงแค่ให้ต่างด้าวเข้าทำงานโดยที่ไม่มีใบอนุญาตและทำงานเป็นหมอนวดเท่านั้น เพราะจริงๆคนที่จะเป็นหมอนวดได้ต้องเป็นคนไทยและมีใบวิชาชีพเท่านั้น” คุณโจ กล่าวด้วยท่าทีดูกังวล
จากการกระทำผิดฐานให้ต่างด้าวเข้าทำงานทั้งที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานและให้เป็นหมอนวดทั้งที่เป็นอาชีพของคนไทย ที่ไม่ใช่ใครก็ทำได้ แต่ต้องมีใบประกอบวิชาชีพเท่านั้น ซึ่งทางทีมข่าวก็จะตรวจสอบและสอบถามเรื่องคดีดังกล่าวกับทางตำรวจเจ้าของคดีต่อไป ว่าโทษที่ได้รับจะเป็นอย่างไร และจะมารายงานอีกครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี