สมาคมผู้ประกอบวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงราชบุรี นำตาลปัตรแบบพิเศษ เนื่องในเทศกาลวันเข้าพรรษา ถวายพระภิกษุสงฆ์วัดโขลงสุวรรณคีรี จังหวัดราชบุรี เพื่อใช้ในการรณรงค์ (งดสูบบุหรี่ งดเหล้า เข้าพรรษา) ชี้ให้เห็นถึงโทษและพิษภัยของบุหรี่และสุรา เตือนสติให้กับพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยว พร้อมทำพิธีฌาปนกิจเผาจริงบุหรี่สุราภัยร้ายให้พ้นวัด
ที่ลานแสดงกาดวิถีชุมชนคูบัว ภายในวัดโขลงสุวรรณคีรี ตำบลคูบัว อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายสุพัฒน์ วัฒนไชย สมาคมผู้ประกอบวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงราชบุรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาสนำผู้ร่วมจัดกิจกรรม เปิดงานในพิธีถวายตาลปัตรแบบพิเศษเนื่องในเทศกาลวันเข้าพรรษาแก่วัดโขลงสุวรรณคีรี เพื่อใช้ในการรณรงค์งดบุหรี่งดเหล้า เข้าพรรษา โดยมีพระครูใบฎีกาสุพจน์ ธีรวังโส เจ้าอาวาสวัดโขลงสุวรรณคีรี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นำพระภิกษุสงฆ์ภายในวัดโขลงสุวรรณคีรี 4 รูป รับประเคนการถวาย ถวายตาลปัตร 4 ชุดที่มีการสลักอักษรคำว่า ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น โครงการรณรงค์งดบุหรี่งดเหล้า เข้าพรรษา
พร้อมกันนี้ พระครูใบฎีกาสุพจน์ ธีรวังโส เจ้าอาวาสวัดโขลงสุวรรณคีรี ได้นำคณะสงฆ์ 4 รูป ประกอบพิธีสวดมาติกาชักศพ นายลาตาย จากนั้นได้ร่วมกันประกอบพิธีฌาปนกิจนายลาตาย พร้อมทั้งการเผาทำลายบุหรี่ขนาดยักษ์เพื่อแสดงถึงเจตนาการต้าน ไม่รับ ไม่เอา เริ่มเพื่อเลิก งดสูบบุหรี่ งดดื่มเหล้า เข้าพรรษา ในศาสนสถานภายในวัด โดยสิ้นเชิง ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 500 บาท พร้อมกันนี้หลังเสร็จพิธีผู้ร่วมงานต่างนำใบโบว์ชัวร์ ป้ายแผ่นพับและป้ายข้อความ สติกเกอร์ข้อความประชาสัมพันธ์ ลด ละ เลิก เดินแจกให้กับบรรดานักท่องเที่ยวและพ่อค้าแม่ค้าภายในกาดวิถีชุมชนเมืองโบราณคูบัว ราชบุรี
นางสาวกนกพรรณ รัตนวิเวก ผู้ดำเนินกิจกรรมถวายตาลปัตรแบบพิเศษเนื่องในเทศกาลวันเข้าพรรษา กล่าวว่า วัดโขลงสุวรรณคีรี พร้อมด้วยสมาคมผู้ประกอบวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงราชบุรี เตรียมรณรงค์ให้ศาสนสถานทั่วจังหวัดราชบุรีปลอดบุหรี่ โดยในส่วนของวัดโขลงสุวรรณคีรี นอกจากจะรับมอบตาลปัตรที่ออกแบบพิเศษเพื่อใช้ในการรณรงค์ไม่สูบบุหรี่และไม่ดื่มเหล้าแล้ว ยังจะร่วมมือเพื่อเผยแพร่โครงการนี้แก่วัดอื่นในจังหวัดราชบุรีอย่างจริงจัง โดยการผลักดันของ สมาคมผู้ประกอบวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงราชบุรี และมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ภายใต้การสนับสนุนของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส.
นางสาวกนกพรรณ กล่าวอีกว่า เนื่องจากวัดเป็นศาสนสถานสำคัญ ที่มีประชาชนจำนวนมากมาประกอบกิจกรรมทางศาสนา ซึ่งเหมาะกับการเป็นสถานที่ส่งเสริมสุขภาพกายใจให้ปลอดจากสิ่งเสพติดทั้งหลาย และพระสงฆ์ก็เป็นผู้นำทางความคิดและเป็นที่นับถือแก่พุทธศาสนิกชน จึงควรปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี นอกจากนี้ทางวัดเองได้มีการรณรงค์ไม่ให้มีการถวายบุหรี่แก่พระสงฆ์ ด้วยวัดเป็นสถานที่ทางศาสนา ซึ่งเป็นสถาบันที่สำคัญยิ่งของสังคมไทย วัดและพระสงฆ์จึงควรเป็นผู้นำของสังคม ในการปลอดจากการเสพติดบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นพิษภัยทั้งต่อตนเองและต่อผู้อื่น
สำหรับการถวายตาลปัตร แก่วัดโขลงสุวรรณคีรี ในครั้งนี้ เพื่อต้องการให้วัดเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่และปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยตาลปัตรนี้ออกแบบพิเศษเพื่อใช้ในการรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ ชี้ให้เห็นถึงโทษและพิษภัยของบุหรี่ เป็นเครื่องเตือนสติให้กับพุทธศาสนิกชน ได้ตระหนักถึงอันตรายและหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ พร้อมด้วยมอบป้ายประชาสัมพันธ์วัดปลอดบุหรี่เพื่อแสดงสัญลักษณ์และเจตนารมณ์ ให้วัดเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่ตามกฎหมาย
โดยโครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างศาสนสถานปลอดบุหรี่ทั่วประเทศ เพราะบุหรี่ก่อให้เกิดพิษภัยต่อตัวผู้สูบและผู้อื่น ซึ่งกฎหมายเพื่อควบคุมพระพรหมบัณฑิตการบริโภคยาสูบ และมีบัญญัติไว้อย่างชัดเจนตามที่มีพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 มาตรา 42 ห้ามสูบบุหรี่ในเขตวัด และพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มาตรา 27 (1)
โดยขอความร่วมมือประชาชนได้ร่วมกันละเว้น งดการสูบุหรี่ ดื่ม และขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในวัดหรือสถานที่ปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา ซึ่งหากมีการฝ่าฝืนสูบบุหรี่ภายในวัด จะมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท และตามมาตราที่ 46 เจ้าของสถานที่มีหน้าที่ต้องประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือน ดูแลให้ไม่มีการฝ่าฝืนสูบบุหรี่ในเขตปลอดบุหรี่ หากฝ่าฝืนไม่ดำเนินการ เจ้าของสถานที่มีโทษปรับไม่เกิน 3,000 บาท และหากมีการฝ่าฝืนขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวัดหรือสถานที่ปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวัดหรือสถานที่สำหรับปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา เว้นแต่เป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมทางศาสนา มีความผิดตาม พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอ ฮอล์ มาตรา 31 (1) ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั่วโลกมีผู้เสพติดบุหรี่ 1,300 ล้านคน ในแต่ละปีมีชาวโลกเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ 5.4 ล้านคน หรือนาทีละ 10 คน สำหรับประเทศไทยเองในแต่ละปีมีผู้ที่เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ 50,170 คน หรือวันละ 139 คน โดยอายุเฉลี่ยของคนไทยที่เริ่มเสพติดบุหรี่คือ 18 ปี นอกจากนี้ยังพบว่า ในเยาวชนไทย 10 คน ที่ติดบุหรี่ 7 คน จะติดไปตลอดชีวิต และใน 3 คนที่เหลือ ต้องสูบบุหรี่เฉลี่ย 20 ปีก่อนที่จะเลิกได้
ในขณะที่แผนยุทธศาสตร์การควบคุมยาสูบแห่งชาติ พ.ศ. 2559-2562 มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการให้ประชาชนมีความตระหนักถึงภาวะเสพติดและพิษภัยร้ายแรงของยาสูบ ป้องกันไม่ให้เกิดผู้เสพหน้าใหม่ เฝ้าระวังธุรกิจยาสูบและบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์การควบคุมยาสูบแห่งชาติสู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่ ที่สำคัญคือ ความร่วมมือของทุกจังหวัดที่มีร่วมดำเนินการควบคุมยาสูบไปพร้อมๆ กัน โดยเน้นมาตรการ 3 ลด 2 เพิ่ม คือ ลดนักสูบหน้าใหม่ ลดจำนวนผู้สูบเดิมในชนบท ลดควันบุหรี่มือสองที่ทำงาน ที่สาธารณะ และที่บ้าน และเพิ่มผู้ขับเคลื่อนระดับพื้นที่ จังหวัดและท้องถิ่น รวมถึงการพัฒนาระบบบริการและเพิ่มบริการเชิงรุกเพื่อช่วยเลิกบุหรี่ นางสาวกนกพรรณ กล่าว
ทั้งนี้ ผู้ที่สูบบุหรี่สามารถขอรับคำปรึกษาเพื่อเลิกสูบบุหรี่ได้ที่ ศูนย์บริการสาธารณสุข และโรงพยาบาลทุกแห่ง หรือขอรับคำปรึกษาได้ที่ ศูนย์บริการเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์แห่งชาติ โทร.1600 ตลอด 24 ชั่วโมง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี