ปิดแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังภายในวัดสุวรรณคูหาหรือ "วัดถ้ำ" จังหวัดพังงา หลังพบนักท่องเที่ยวเข้าชมจำนวนมากพื่อป้องกันเชื้อไวรัส โควิค 19
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุวัชร์ ศรีเพชรพูล นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (นายก อบต.) กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อตำบลกระโสม นำหน้ากากอนามัยจำนวนหนึ่งแจกจ่ายให้กับพ่อค้า แม่ค้า ที่จำหน่ายสินค้าของที่ระลึก อาหาร และเครื่องดื่มภายในบริเวณวัดสุวรรณคูหา หรือวัดถ้ำ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญในพื้นที่ อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ในแต่ละวันไม่ต่ำว่า 500-700 คน เบื้องต้นพบว่ายังคงมีนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวรัสเซีย เข้าเที่ยวภายในถ้ำ ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐานพระนอนองค์ใหญ่ มีนักท่องเที่ยวเข้าสักการะจำนวนหนึ่ง
โดยก่อนหน้านี้ไม่นานนักทางวัดสุวรรณคูหา หรือ "วัดถ้ำ" ได้รับหนังสือจากเถระสมาคมให้ปิดแหล่งท่องเที่ยวภายในวัดเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโควิค-19 ซึ่งทางวัดได้ประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวดังกล่าวในวันที่ 22 มีนาคม 2563 นี้เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เพื่อเป็นมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อแก่ประชาชนในพื้นที่ นอกจากนี้ทาง อบต.กระโสม ได้เชิญชวนประชาชน ตลอดจนพ่อค้า แม่ค้า ร่วมกันบิ๊กคลีนนิ่ง หรือทำความสะอาดในช่วงเย็นวันที่ 21 มี.ค.63 นี้ด้วย
นายสุวัชร์ ศรีเพชรพูล นายก อบต.กระโสม ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อตำบลกระโสม กล่าวว่า ได้มีมติให้ทางวัดสุวรรณคูหาปิดแหล่งท่องเที่ยวภายในวัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิค ตามนโยบายทางจังหวัด พร้อมขอเชิญชวนให้ประชาชน พ่อแม่ พี่น้อง รวมถึง พ่อค้า แม่ค้า ร่วมทำความสะอาดภายในบริเวณวัดเพื่อฆ่าเชื้อไวรัสโควิค 19 ซึ่งต้องการให้ประชาชนในพื้นที่ไม่ประมาทและให้ความสำคัญกับการป้องกันเชื้อไวรัสโควิค 19 โดยการสวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยครั้ง ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี