วอนช่วยกลุ่มคนไทยพลัดถิ่นกว่า 4 หมื่นคน ตกงาน-ไร้ต้นทุน ชุมชนไร่เคราหน้าด่านสิงขรวิกฤตหนักกำลังไร้ข้าวกิน
26 เมษายน 2563 นายภควินทร์ แสงคง ที่ปรึกษาเครือข่ายคนไทยพลัดถิ่น และอดีตคณะกรรมการรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่น กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มคนไทยพลัดถิ่นซึ่งอาศัยอยู่ใน 4-5 จังหวัด อาทิ ประจวบฯ ระนอง ชุมพร ประมาณ 4 หมื่นคนกำลังเผชิญความเดือดร้อนเนื่องจากไม่สามารถทำมาหากินได้ ทั้งในส่วนของคนที่ได้บัตรประชาชนและยังไม่มีบัตรประชาชน โดยคนที่มีบัตรประชาชนก็ไม่สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือของภาครัฐ ส่วนคนที่ไม่มีบัตรยิ่งลำบาก
“คนไทยพลัดถิ่นไม่มีต้นทุนใดๆที่จะได้มาซึ่งผลผลิตอะไรเลย เพราะเขาไม่มีที่ดิน ส่วนใหญ่กินค่าจ้างรายวัน เมื่อแต่ละเมืองมีการล็อคดาวน์ พวกเขาส่วนใหญ่ที่ทำงานรับจ้างต่างก็ตกงาน ภาครัฐควรเร่งส่งความช่วยเหลือโดยผ่านกลไกของกระทรวงมหาดไทย เพราะคนไทยพลัดถิ่นจำนวนมากได้ขึ้นทะเบียนไว้แล้ว ส่วนคนที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน รัฐบาลต้องสร้างความร่วมมมือกับองค์กรพัฒนาเอกชนในพื้นที่ เพราะเขารู้จำนวนคน” นายภควินท์ กล่าว
นายบุญเสริม ประกอบปราณ ผู้ประสานงานเครือข่ายคนไทยพลัดถิ่น จ.ประจวบฯ กล่าวว่า ขณะนี้คนไทยพลัดถิ่นที่อาศัยอยู่ที่บ้านไร่เครา หน้าด่านสิงขร อ.เมือง จ.ประจวบฯ กว่า 200 ครอบครัว กำลังประสบความเดือดร้อนมากนับตั้งแต่มีการปิดด่านสิงขร ทำให้คนที่มีรายได้จากการเป็นลูกจ้างหรือการค้าขาย ต่างตกงานโดยสิ้นเชิง ตอนนี้แทบไม่เหลือข้าวสารกินแต่ยังดีที่ก่อนหน้านี้ผู้ใหญ่บ้านนำข้าวสารมาแจกครอบครัวละ 5 กิโลกรัม พอช่วยประทังความเดือดร้อนไว้ได้ชั่วคราว แต่อีกไม่นานข้าวสารก็จะหมด
นายบุญเสริม กล่าวว่า คนไทยพลัดถิ่นในพื้นที่อื่น อาจไม่ลำบากเท่ากับคนไทยพลัดถิ่นที่ไร่เครา เพราะหลายพื้นที่ยังรับจ้างในสวนเกษตรต่างๆ เช่น สวนมะพร้าว สวนยางพารา แต่คนที่ไร่เคราไม่สามารถไปรับจ้างที่ไหนได้เลย ที่น่ากังวลคือจำนวนไม่น้อยอาศัยอยู่ในบ้านเช่า ดังนั้นเมื่อถึงสิ้นเดือนแล้วไม่มีเงินจ่ายค่าเช่า เจ้าของบ้านเช่าจะไล่ออกหรือไม่ก็ยังไม่รู้
“ความต้องการเร่งด่วนคือพวกถุงยังชีพ พวกอาหารที่นำมาเลี้ยงปากเลี้ยงปากท้องได้ บางคนที่เคยขายของก็พยายามขอความช่วยเหลือจากมาตรการของรัฐบาล 5,000 บาท แต่ก็ไม่ได้ คนที่ยังไม่มีบัตรยิ่งแล้วใหญ่เพราะออกไปไหนไกลก็ไม่ได้” นายบุญเสริม กล่าว
นางสุมาลี ประกอบปราณ อายุ 31 ปี ชาวบ้านไทยพลัดถิ่นในชุมชนไร่เครา กล่าวว่าเดิมทีมีอาชีพรับจ้างทั่วไปอยู่ที่หน้าด่านสิงขร แต่เมื่อปลายเดือนมีนาคม ตนได้คลอดลูกซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ไวรัสโควิด-19 กำลังแพร่ระบาด ทำให้ต้องเดือดร้อนอย่างหนักเพราะเงินที่เก็บสะสมไว้ก็หมดไปกับการคลอดลูก แถมยังต้องตกงานเพราะด่านสิงขรปิดตัวลง ขณะที่แฟนก็ป่วยจนทำงานหนักไม่ได้ จึงแทบไม่มีข้าวสารกิน ยังดีที่ได้รับแจกมาจากผู้ใหญ่บ้าน 5 กิโลกรัม แต่ตอนนี้ก็หมดแล้ว อาศัยว่าน้องสามีส่งเงินมาให้ 500 บาท จึงยังอยู่ได้ถึงวันนี้ แต่เขาก็มีครอบครัวและสามารถจะช่วยเหลือเราได้บ่อยๆ “ฉันเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ลูก 3 คนก็ยังเล็ก แฟนก็ป่วย แม้เขาจะมีบัตรประชาชนคนไทย แต่ขอความช่วยเหลือ 5 พันบาทตามมาตรการของรัฐบาลก็ไม่ได้ ตอนนี้ขอแค่มีข้าวสารให้ลูกๆได้กินก็พอ ส่วนกับข้าว หาปลาและเก็บผักบุ้งแถวนี้เอาก็ได้”นางสุมาลี กล่าว
นางสุมาลี กล่าวว่า เดิมทีตนเองเป็นคนไทยที่อาศัยอยู่บ้านสิงขรในฝั่งพม่า และได้อพยพข้ามมาอยู่ฝั่งไทยเมื่อกว่า 10 ปีก่อนซึ่งที่ผ่านมาได้ทำเรื่องขอคืนสัญชาติไทยมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้ ทำให้เข้าไม่ถึงบริการใดๆของรัฐบาล แม้แต่การเดินทางออกไปนอกพื้นที่ก็ทำไม่ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี