ภายหลังฝนตกทั่วพื้นที่ของ จ.เชียงราย สร้างความชุ่มฉ่ำและทะเลหมอกที่สวยงาม เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวที่ได้เดินทางไปเยือน โดยเฉพาะที่เทือกเขาดอยยาว ดอยผาหม่น เขตติดต่อระหว่าง อ.เทิง และ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ชายแดนไทย-สปป.ลาว พบว่ามีทิวทัศน์ของเทือกเขาสลับซับซ้อนและสูงชันที่ก่อให้เกิดทะเลหมอกที่กว้างขวางและงดงามเป็นอย่างมาก 

โดยเฉพาะในช่วงเช้าและเย็น จะพบว่าเมฆหมอกที่หนาทั้งก่อนและหลังฝนตก จะสะท้อนแสงด้วยพระอาทิตย์ที่ขึ้นและลงในช่วงเวลาต่างๆ ทั้งตอนเช้า ตอนเย็นหรือแม้แต่ช่วงเวลากลางคืน จนทำให้เกิดสีสันที่สะท้อนออกมาแตกต่างกันไปประหนึ่งเป็นสีรุ้งหรือภาพวาดที่งามตาเป็นอย่างยิ่ง ทำให้ผู้คนที่เดินทางไปเยือนและนักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกในรูปแบบต่างๆ อย่างแปลกตา

ล่าสุดทางชาวบ้าน และหน่วยทหารในพื้นที่ รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐ ได้เข้าไปร่วมกันพัฒนาตามจุดสำคัญเพื่อให้เป็นจุดชมวิวของนักท่องเที่ยวที่จะไปเยือนหลังวิกฤติไวรัสโควิด-19 โดยมีการแผ้วถางหญ้าปลูกต้นไม้ ติดตั้งป้ายจุดชมวิวตรงส่วนยอดของดอยผมหม่น รวมทั้งสร้างระบบสาธารณูปโภคที่เป็นประโยชน์ต่อชาวบ้านในพื้นที่ด้วย โดยเฉพาะตรงยอดดอยผาหม่นที่อยู่จุดสูงสุดซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบได้อย่างกว้างขวางรวมทั้งยังเป็นดินแดนแห่งประวัติศาสตร์การสู้รบระหว่างรัฐบาลไทยและกองกำลังคอมมิวนิสต์ในอดีตกระทั่งกลายเป็นที่อยู่อาศัยของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย กลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ โดยเฉพาะชาวม้งอันเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย

โดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย ผู้สร้างศิลปะที่วัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย กล่าวว่า จ.เชียงราย มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายไม่ได้มีเฉพาะสถานที่พื้นราบที่มนุษย์สรรค์สร้างขึ้นเท่านั้น แต่ตามภูเขาสูงต่างๆ ทั้งภูชี้ฟ้า ดอยช้าง ดอยผาฮี้ ดอยผาหม่น ฯลฯ ต่างมีความงดงามในฤดูฝนอย่างมาก ดังนั้นนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะไทยเที่ยวไทยสามารถเดินทางไปเยือนตามาขุนเขาต่างๆ ได้เพราะทะเลหมอกในฤดูฝนนั้นมีความงดงามยิ่งกว่าทุกฤดูเสียอีก

ด้าน นายสุรชัย กตเวทีธรรม  ผู้ใหญ่บ้านบ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงรายกล่าวว่า ในปัจจุบันทางเจ้าหน้าที่ทหารโครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงในพื้นที่ดอยยาว ดอยผาหม่น ผาจิ(โครงการพระราชดำริ) เจ้าหน้าที่ทหาร ทพ.3106 ฉก.ทพ.31 กองกำลังผาเมือง เจ้าหน้าที่มูลนิธิโครงการหลวงผาตั้ง และชาวบ้านได้ร่วมกันพัฒนาพื้นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยการเดินทางใช้การนั่งรถขึ้นโดยจะมีรถบริการนักท่องเที่ยวของหมู่บ้านใช้เวลาเดินทางจากหมู่บ้านไปยังยอดดอยประมาณ 15 นาที จากนั้นเดินเท้าอีกเพียง 10 นาที ก็จะเห็นทิวทัศน์ของขุนเขากว้างใหญ่และแม่น้ำโขงที่ทอดยาวจากแผ่นดินไทย-สปป.ลาว ประมาณ 20 กิโลเมตร รวมทั้งเป็นจุดที่สามารถชมทะเลหมอกได้อย่างงดงามที่สุดด้วย