"มะพร้าวเส้นทางรวย" ดร.สมชอบ นิติพจน์ นายก อบจ.นครพนม พร้อมรอง ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ ติดตามผลการปลูกมะพร้าว พืชเศรษฐกิจตัวใหม่แห่งอีสาน เกษตรกรสั่งแล้วกว่า 1 หมื่นต้น
ความคืบหน้ากรณีองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครพนม โดย ดร.สมชอบ นิติพจน์ นายก อบจ.นครพนม นำคณะประกอบด้วยสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) นครพนม เกษตรอำเภอในแต่ละอำเภอ หอการค้าจังหวัดนครพนม ตลอดจนเกษตรกรเดินทางไปศึกษาดูงานสวนมะพร้าวน้ำหอม จังหวัดราชบุรี และ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แบบลุยถึงไร่ถึงสวนจากเช้ายันค่ำ เพื่อศึกษาดูงานเกี่ยวกับการปลูกมะพร้าว (มะพร้าวใหญ่หรือมะพร้าวที่นำมาทำกะทิ คนพื้นที่เรียกว่ามะพร้าวแกง), มะพร้าวน้ำหอม, ขนุนพันธุ์ทองประเสริฐ พันธุ์ทองมาเล พันธุ์เพชรราชา โดยมีนายชาตรี จันทร์วีระชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม (ในขณะนั้น) เป็นผู้ประสานการศึกษาดูงานทั้งสองจังหวัด
ล่าสุด นายชาตรี จันทร์วีระชัย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เดินทางมาพร้อมกับ นางสาวจินตนา ชิ้นปิ่นเกลียว รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม เพื่อร่วมงาน"รวมน้ำใจให้กาชาดจังหวัดนครพนม" รับมอบสิ่งของ และเงินสนับสนุนจากอำเภอ หน่วยงานส่วนราชการ และภาคเอกชน ทุกภาคส่วน นำไปออกฉลากมัจฉากาชาดในงานประเพณีไหลเรือไฟและกาชาดจังหวัดนครพนม ประจำปี 2563 ระหว่างวันที่ 25 กันยายน-4 ตุลาคม 2563
จากนั้นนายชาตรี จันทร์วีระชัย รองผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ ดร.สมชอบ นิติพจน์ นายก อบจ.นครพนม ดร.มานพ เหมพลชม รองประธานหอการค้าจังหวัดนครพนม และ นางกาญจนา จ่อยร่อย เจ้าของกิจการโรงงานมะพร้าวขาว บริษัทนิลทองแท้โคโคนัทฯ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เดินทางไปยังสวนมะพร้าวน้ำหอมของนายสมพงษ์ ชัยยิ้ม หรือเฮียป้อม เพื่อติดตามและประเมินผลจากปลูกมะพร้าวว่าถูกต้องหรือไม่ โดยสวนดังกล่าวเฮียป้อมลงมะพร้าวน้ำหอมเบื้องต้น 1,000 ต้น บนเนื้อที่ 24 ไร่ ตั้งระบบส่งน้ำตามท่อพีวีซีแบบหัวฉีดสปริงเกอร์ แรงดันน้ำ 30 แรงม้า สามารถจ่ายน้ำในคราวเดียวกันได้ 2,000 ต้น
นายสมพงษ์ ชัยยิ้ม เปิดเผยว่า ตนเหมือนเป็นทัพหน้าในการไปศึกษาดูงานที่จังหวัดราชบุรีและประจวบฯ ร่วมกับหอการค้าจังหวัดนครพนม โดยมีนายชาตรี จันทร์วีระชัย ครั้งดำรงตำแหน่งเป็นรองผู้ว่าฯ นครพนม เป็นผู้ประสานงานกับเกษตรกร เห็นการปลูกมะพร้าวทั้งน้ำหอมและมะพร้าวแกง พบว่าที่ดินในจังหวัดนครพนมเหมาะแก่การปลูกมาก แต่เพื่อความมั่นใจจึงเชิญนายสายชล จ่อยร่อย เจ้าของสวนมะพร้าวที่ใหญ่สุดในอำเภอทับสะแก มาตรวจดินในแปลงเกษตรของตนว่าสามารถปลูกมะพร้าวได้หรือไม่ ซึ่งนายสายชลการันตีว่าเหมาะกว่าที่จังหวัดประจวบฯเสียอีก และยังไปศึกษาดูงานอีกรอบกับ อบจ.นครพนม ก่อนจะสั่งพันธุ์มะพร้าวน้ำหอมมาปลูกเบื้องต้น 1,000 ต้น เว้นระยะห่าง 8x8 ระหว่างกลางจะปลูกต้นโกโก้เสริม อีกสองปีข้างหน้ามีผลผลิตเป็นที่น่าพอใจ ก็จะลงมะพร้าวน้ำหอมและมะพร้าวแกง เต็มพื้นที่ทั้ง 300 ไร่ทันที พร้อมเปิดตลาดส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม และจีนตอนใต้
ต่อจากนั้นก็เดินทางไปยังบ้านสร้างแป้น หมู่ 5 ต.นางาม อ.เรณูนคร ซึ่งเป็นสวนมะพร้าวของ น.ส.รัตนาพร ไกรษร เกษตรกรที่ได้เดินทางไปศึกษาดูงานกับ อบจ.นครพนม รุ่นแรก พร้อมกับนายภักดี สุขรี ส.อบจ.นครพนม เขต 2 อ.เรณูนคร ประธานสภา อบจ.ฯ ซึ่งหลังจากได้ลงไปศึกษาดูงานถึงสวนเกษตรกรมะพร้าวที่จังหวัดประจวบฯ ก็ระดมความคิดจากกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ อ.เรณูนคร และร่วมกับ อ.ปลาปาก มีนายสมปอง เชื้อสูงเนิน เป็นตัวแทน งวดแรกส่งมะพร้าวแกงพันธุ์สวีชุมพร และเหลืองมาลายู จากสวนของนายสายชล จ่อยร่อย จำนวน 4,000 ต้น และมีงวดสองอีกประมาณ 5,000 ต้น
ซึ่งนางกาญนา ภรรยาของนายสายชล ได้กล่าวว่า การลงพื้นที่จังหวัดนครพนมครั้งนี้ เพื่อติดตามการปลูกมะพร้าวของเกษตรกร พร้อมให้ข้อมูลรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับการดูแลรักษา การให้ปุ๋ย และการกำจัดศัตรูพืช โดยเฉพาะตัวด้วง ไม่เกิน 3 ปี มะพร้าวแกงชุดนี้ก็ให้ผลผลิต ทางโรงงานก็จะมารับซื้อถึงที่ แต่ตนเชื่อว่าคงไปไม่ถึงโรงงานที่ประจวบฯ เพราะลำพังการบริโภคของคนในพื้นที่ก็ไม่เพียงพอกับความต้องการแล้ว อีกอย่างการปลูกมะพร้าวตลาดไม่ตัน ทุกวันนี้มะพร้าวขาดตลาดมาก ทางโรงงานจึงต้องสั่งนำเข้ามะพร้าวมาจากประเทศเวียดนามและอินโดนีเซีย วันละเกือบ 200 ตัน
ด้าน ดร.สมชอบ นิติพจน์ นายก อบจ.นครพนม กล่าวว่าในจังหวัดนครพนมเราเคยทดลองปลูกยางพาราก็ทำกันมาแล้ว อยากจะให้เกษตรกรหันมาทดลองปลูกมะพร้าวน้ำหอมและมะพร้าวแกง พืชเศรษฐกิจที่มีความยั่งยืนปลูกครั้งเดียวอยู่ได้เป็นร้อยปี การบำรุงรักษาก็ไม่ยุ่งยาก ตนในฐานะนายก อบจ.นครพนม พร้อมให้ความสนับสนุนอย่างเต็มที่ ในปีงบประมาณ 2564 ก็จะจัดคณะเกษตรกรไปศึกษาดูงานอีก เชื่อว่าอนาคตจังหวัดนครพนมจะเป็นเมืองแห่งมะพร้าว ที่มีเกษตรกรร่ำรวยอย่างยั่งยืนเหมือนจังหวัดประจวบฯและราชบุรี
ขณะที่ นายชาตรี จันทร์วีระชัย รอง ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ครั้งดำรงตำแหน่งเป็นรอง ผวจ.นครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม มอบหมายงานให้ดูแลด้านการเกษตร พบว่าเกษตรกรส่วนใหญ่ยังคงทำเกษตรแบบดั้งเดิมของบรรพบุรุษ จากนั้นก็ปล่อยพื้นที่การเกษตรรกร้าง ทั้งๆที่มีแหล่งน้ำธรรมชาติอยู่อย่างเพียงพอ ต่างจากจังหวัดประจวบและราชบุรี ที่เกษตรกรต้องผันน้ำเข้ามาในพื้นที่เอง จึงจุดประกายความคิดเชิญชวนหอการค้าจังหวัดนครพนมเป็นทัพหน้าไปศึกษาดูงาน
ต่อจากนั้น อบจ.นครพนม เห็นว่าเกษตรกรได้ประโยชน์ตรงนี้สูง จึงจัดคณะไปศึกษาดูงานมาแล้ว 2 ชุดใหญ่ และ ผวจ.นครพนม ให้การสนับสนุนร่วมสมทบทุนส่วนตัวเป็นค่าใช้จ่ายอีกจำนวนหนึ่งด้วย วันนี้จึงแวะมาติดตามผล เห็นแล้วรู้สึกดีใจ เพราะเกษตรกรพร้อมที่จะพลิกการเกษตรแบบดั้งเดิม สู่เกษตรกรปลูกพืชเศรษฐกิจแบบยั่งยืน มีตลาดรองรับแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี