วันนี้ (9 ม.ค.64)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงนี้มีช้างตกงานที่มาจากพื้นที่ต่างๆ จำนวน 40 กว่าเชือก นางสาวบุญรัตน์ ศาลางาม อายุ 40 บ้านเลขที่ 207 ม.9 บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ได้ชักชวนพากลุ่มชาวช้างตกงานที่มาจากพื้นที่ ต่างๆ เช่น มาจาก ดำเนินสะดวก พัทยา ภาคเหนือ ภาคใต้  และอีกหลายๆแห่ง มารวมกันอยู่ที่วังทะลุ เพื่อรอต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่อยากมาดูช้างอาบน้ำ นั่งช้างชมไพร สัมผัสกับธรรมชาติ ริมฝั่งแม่น้ำ ซึ่งจุดนี้ก็ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในหมู่บ้านช้าง เพราะเป็นจุดที่แม่น้ำสองสายไหลมาบรรจบกัน และเป็นสถานที่สำคัญ ในช่วงเดือนพฤษภาคม จะมีงานประจำปี ประเพณีบวชนาคช้าง แล้วจะต้องแห่ช้างมาเพื่อนเซ่นไหว้ปู่ตาที่ปกปักรักษาชาวช้าง ที่วังทะลุ และมีดอนบวช ที่กลางแม่น้ำ ถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธ์ และเป็นที่เคารพบูชาของชาวช้างอย่างยิ่ง

นายประทีป ศาลางาม อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 ม.14 บ้านหนองบัว ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ตนได้นำช้างมาอยู่ที่นี่ เพราะจุดนี้เป็นจุดที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีป่าทาม มีแม่น้ำสองสายไหลมาบรรจบกัน และถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ทางองค์การบริหารส่วนตำบลกระโพ ได้สนับสนุนให้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เกี่ยวกับช้าง เพื่อให้ช้างและควาญช้างที่ตกงาน ได้มีรายได้  ก่อนหน้านี้นักท่องเที่ยวก็พอมีบ้าง พอโควิดรอบสองมาก็เงียบ ก็ได้แค่เพียงหาปูหาปลา เลี้ยงชีพไปวันๆ ตนอยากให้ภาครัฐช่วยบ้างเล็กๆน้อย เพื่อเป็นกำลังใจให้ชาวช้างตกงาน

ทางด้านนางสาวบุญรัตน์ ศาลางาม กล่าวว่า ตนเป็นผู้นำช้างมาไว้ที่วังทะลุ คนแรก  เพราะที่บ้านไม่มีสถานที่ในการผูกช้าง เพราะตนมีช้างตั้งสามเชือก และที่สำคัญ จุดนี้เป็นจุดที่เหมาะแก่การเลี้ยงช้าง มีป่าทาม มีแม่น้ำชีมูล ตนยังกว่าอีกว่า ก่อนหน้านี้ ก็มีนักท่องเที่ยว เข้ามาเที่ยวดูช้างเยอะอยู่ พอโควิดรอบสองมา นักท่องเที่ยวก็บางลง อาสัยว่า ตนได้ทำช่องยูทูป และมีแฟนคลับติดตามช่อง แฟนคลับที่สงสารช้างตกงาน ก็ได้ช่วยเลี้ยงช้างให้ค่าอาหารช้าง พอได้ปะทังชีวิตทั้งคนและช้างไปวันๆ  และก่อนกลับบ้านช้างทุกเชือกก็ได้ลงอาบน้ำเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน แล้วก็รวมตัวกัน ก่อนเดินกลับบ้าน