20 ก.ค. 2564 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) และกรมสุขภาพจิต จัดเสวนาออนไลน์ “ความจำเป็นต่อการสร้างเสริมสุขภาพจิตของเจ้าหน้าที่และผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและ SME ด้วยวิธีการ สร้างวัคซีนใจ” พร้อมเปิดตัวนวัตกรรมเครื่องมือดูแลจิตใจ “เว็บไซต์วัคซีนใจ” เครื่องมือประเมินสุขภาพจิตเบื้องต้น เพื่อคัดกรองความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจิต พร้อมแนวทางดูแลสุขภาพจิต โดยเฉพาะผู้ประกอบการและบุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่ได้รับผลกระทบสูงสุดจากสถานการณ์โควิด-19 และสำหรับประยุกต์ใช้ในทุกอาชีพต่อไป
นายชาติวุฒิ วังวล ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ สสส. กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ทั่วโลกต้องจำกัดการเดินทางเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคซึ่งสร้างผลกระทบอย่างรุนแรงโดยตรงกับเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบ 100% เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีหนี้สินเพิ่มจากการดำเนินธุรกิจต่อเนื่อง แรงงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวถูกเลิกจ้าง ทั้งธุรกิจเกี่ยวกับร้านค้า ที่พัก บริการท่องเที่ยว และบริการขนส่ง จากข้อมูลคนว่างงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ปี 2563 โดยสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) พบว่า มีแรงงานว่างงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวถึง 25% ของแรงงานว่างงานทั้งหมด หรือกว่า 4 ล้านคน ต้องขาดรายได้ กระทบต่อเศรษฐกิจในครัวเรือน นำไปสู่ความเครียดสะสม เกิดปัญหาสุขภาพจิต เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายในที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลเหตุปัจจัยของการฆ่าตัวตายปี 2563 โดยกรมสุขภาพจิต พบว่า ผลกระทบจากภาวะเครียดเรื่องเศรษฐกิจ เป็น 1 ใน 3 เหตุปัจจัยสูงสุดของการฆ่าตัวตาย ปี 2563 ความเครียดจึงถือเป็นเหตุของปัญหาสุขภาพที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน
นายชาติวุฒิ กล่าวว่า สสส. เห็นความสำคัญของปัญหาสุขภาพจิตที่ต้องเร่งยกระดับการสร้างเสริมสุขภาพจิตคนไทยอย่างเร่งด่วน จึงร่วมกับ มศว. และกรมสุขภาพจิต ริเริ่มโครงการพัฒนาสุขภาวะด้านจิตใจในกลุ่มผู้ประกอบการและพนักงานของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในกลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยว พร้อมพัฒนานวัตกรรมเครื่องมือเว็บไซต์วัคซีนใจ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการในประเทศไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการและบุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่ได้รับผลกระทบสูงสุดจากโควิด-19 ฟื้นฟูจิตใจตัวเองด้วยแบบทดสอบง่ายๆ เข้าถึงได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยขั้นตอนมีดังนี้ 1.วัดระดับสภาพจิตใจ 20 ข้อ 2.พัฒนาเป้าหมายและส่งต่อแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น และ 3.ประเมินตนเอง ค้นหาข้อดี และเห็นความสำคัญของคนรอบข้าง โดยจะมีการแจ้งเตือนให้ผู้เข้าร่วมทำแบบทดสอบทุกๆ 30 วัน
ผศ.ดร.ศรัณย์ พิมพ์ทอง รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการจัดการความรู้ สถาบันวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ มศว. และผู้จัดการโครงการพัฒนาสุขภาวะด้านจิตใจในกลุ่มผู้ประกอบการและพนักงานของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในกลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยว สนับสนุนโดย สสส. กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีมากว่า 2 ปี ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของไทยอย่างหนัก โดยในปี 2563 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยลดลงถึง 82.5% เมื่อเทียบกับปี 2562 กระทบถึงรายได้ที่เกิดจากนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงกว่า 1.34 ล้านล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่า ธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวหดตัวอย่างต่อเนื่องและรุนแรง ที่น่าห่วงคือธุรกิจ SME บางกลุ่มต้องเลิกกิจการ แต่สำหรับกลุ่มที่ยังคงประกอบธุรกิจอยู่ก็ได้รับผลกระทบ ส่งผลให้ผู้ประกอบการและพนักงานเกิดความเครียดสะสม หมดกำลังใจ ท้อแท้ ซึ่งกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการดูแลสุขภาพด้านจิตใจอย่างเร่งด่วนและทั่วถึง โดยภายในปีนี้ตั้งเป้าหมายสานพลังร่วมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เพื่อขยายพื้นที่พัฒนาสุขภาพจิตผู้ประกอบการและบุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยอย่างกว้างขวางไปทั่วประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี