อาชีพหนึ่งที่ถือเป็นอาชีพยอดนิยม ที่คนทั่วไปให้ความสนใจเป็นอย่างมาก นั่นคือ “พยาบาล” ซึ่งเป็นอาชีพที่ต้องคอยดูแลผู้ป่วย ช่วยเหลือแพทย์ในการรักษาแต่กว่าจะมาเป็นพยาบาลได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องผ่านการเรียนหลักสูตรเฉพาะทาง และมีคุณสมบัติที่ตรงกับสายอาชีพเท่านั้น
และแม้ว่า จะมีผู้ที่ต้องการเข้ามาเป็นพยาบาลเป็นจำนวนมาก แต่ในปัจจุบันนี้ อาชีพพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ ก็ยังคงอยู่ในสภาวะขาดแคลน ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่โลกเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยมากยิ่งขึ้น ก็ยิ่งทำให้งานด้านการดูแลผู้สูงอายุยิ่งมีมากขึ้นตามไปด้วย
ในงานเปิดโครงการ “Open House มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต” ประจำปีการศึกษา 2564 ที่คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต วิทยาเขตปทุมธานี
(เชียงราก) ที่ผ่านไปเมื่อไม่นานมานี้ ก็ได้มีการพูดกันถึงเรื่องของวิชาชีพพยาบาลเช่นกัน
ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่เดินทางมาเป็นประธานเปิดโครงการนี้ได้กล่าวในเวทีเสวนา หัวข้อ “ทิศทางการสาธารณสุขไทย กับการพัฒนาวิชาชีพพยาบาล” ว่า รัฐบาลมีนโยบายพัฒนาประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางการดูแลสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ปัจจุบันเห็นได้ชัดเจนว่า ไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย (Aging Society) ไม่ได้หมายถึงเพียงมีอายุสูงมากขึ้น แต่ประชากรจะมีชีวิตอยู่นานขึ้น จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการดูแล และทำอย่างไรจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีตลอดชีวิต ไม่เป็นภาระกับสังคม
ขณะเดียวกัน บุคลากรทางการแพทย์และพยาบาล จะต้องมีจำนวนที่เพียงพอ ไม่ขาดแคลน ยิ่งไปกว่านั้นไทยยังมีความต้องการให้ผู้สูงอายุ ที่มีกำลังทางเศรษฐกิจสูงในต่างประเทศ มาใช้ชีวิตในไทย เพื่อเป็นอีกกลไกในการสร้างเศรษฐกิจศตวรรษที่ 21 เพราะไทยมีความพร้อมทุกด้าน รวมถึงมีแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะกับการใช้ชีวิตในวัยเกษียณ
“เราเป็นประเทศที่มีความเข้มแข็งด้านการให้บริการและการรักษาพยาบาล โดยเฉพาะทำได้ดีมากในสถานการณ์โควิด-19 จึงเห็นว่าการที่สภาการพยาบาล อนุมัติให้ทางมหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต เปิดหลักสูตรพยาบาลบัณฑิต ระยะเวลา 2 ปี 6 เดือนนั้น จะเป็นประโยชน์เกิดช่องทางสำคัญในการเพิ่มบุคลากรทางการแพทย์และการพยาบาลให้กับประเทศต่อไป” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าว
รองศาสตราจารย์ ดร.ทัศนา บุญทอง นายกสภาการพยาบาล กล่าวว่า หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิตในต่างประเทศมีมานานแล้ว เช่น อเมริกา ใช้เวลาเรียน 18 เดือน หรือ 1 ปี 6 เดือน สำเร็จการศึกษามากถึง 23,354 คน และปัจจุบันยังมีการสอนแบบออนไลน์ เช่นเดียวกับ แคนาดา ที่จบหลักสูตรเพียง 2 ปี และในส่วนของมหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต ได้ผ่านความเห็นชอบและประเมินความพร้อมจากสภาการพยาบาล หน่วยกิตการเรียนถือว่ามีทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่กำหนด
“นิสิตที่จบออกไป ถือว่ามีศักดิ์มีศรีเท่ากับพยาบาล 4 ปี และสามารถสอบขึ้นทะเบียนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการพยาบาลและผดุงครรภ์ได้เช่นกัน จึงขอให้มั่นใจในคุณภาพการจัดการศึกษา อีกทั้งสภาการพยาบาลจะคอยช่วยดูแล กำกับติดตาม จนกว่าจะมีบัณฑิตจบการศึกษา” นายกสภาการพยาบาล กล่าว
ศาสตราจารย์ ดร.มรรยาท รุจิวิชชญ์ คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต กล่าวว่า สำหรับหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต มีความโดดเด่นกว่าหลักสูตรอื่น คือรับนักศึกษาที่จบปริญญาตรี ที่รักในวิชาชีพพยาบาล เข้าศึกษาปีละไม่เกิน ٧٠ คน สามารถเรียนจบได้ภายใน 2 ปี 6 เดือน ระยะเวลาลดลง เพราะเทียบโอนรายวิชาศึกษาทั่วไป และวิชาเลือกได้ แต่ยังคงไว้ซึ่งคุณภาพของเนื้อหาการพยาบาล จึงเป็นความภาคภูมิใจของมหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต ที่ได้รับความไว้วางใจจากสภาการพยาบาลเป็นสถาบันแรกของประเทศ ที่อนุญาตให้จัดหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิตนี้
ศาสตราจารย์ ดร.มรรยาทกล่าวว่า เรามีอาจารย์ที่มากด้วยประสบการณ์การสอน การวิจัย และนวัตกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีความเชี่ยวชาญทางด้านการพยาบาลมาถ่ายทอดความรู้อย่างเต็มที่ และพร้อมเป็นที่ปรึกษาให้นักศึกษาสร้างนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์
“เราคาดหวังว่าจะผลิตและพัฒนาพยาบาลวิชาชีพที่มีคุณภาพระดับสากลเพื่อตอบสนองการขาดแคลนพยาบาลวิชาชีพของประเทศ โดยรับผู้ที่มีวัยวุฒิ และคุณวุฒิเข้าศึกษาตามหลักสูตรอย่างเข้มข้น ปลูกฝังทั้งคุณลักษณะ คุณภาพเชิงวิชาการ วิชาชีพ คุณธรรม นอกจากนี้ห้องเรียนของเรายังมีอุปกรณ์การเรียนที่ทันสมัย เรียนรู้จากสถานการณ์จำลองเสมือนจริง อาทิ Smart Classroom,Robot, Sim Mom, Sim Man และ Sim Baby อีกทั้งยังใช้วิธีการเรียนการสอน Transformative Learningสู่การปฏิบัติจริง และยังได้รับความร่วมมือกับแหล่งฝึกปฏิบัติที่หลากหลาย ทันสมัยได้คุณภาพ และมาตรฐาน HA” คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต กล่าว
ศาสตราจารย์ ดร.มรรยาทกล่าวว่า รุ่นแรกมีผู้เข้ามาเรียน ٥٥ คน เนื่องจากมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ภาวะระบาดของโรคโควิด-1٩ แต่เชื่อว่า คนที่เข้ามาศึกษา จบออกไปต้องมีงานทำแน่นอน ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีรวดเร็วมากต้องใช้ศาสตร์ความเป็นมนุษย์ เอไอแทนที่พยาบาลไม่ได้ ประกอบกับคนว่างงานมากขึ้น
“หลักสูตรพยาบาล ถือเป็นการช่วยเหลือประเทศ เพราะสังคมปัจจุบันเป็นสังคมผู้สูงวัย จำนวนเด็กลดลงผู้สูงอายุมีทั้งสุขภาพดี ติดเตียง มีปัญหาสุขภาพเรื้อรังจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีพยาบาลดูแล และคุณสมบัติของพยาบาลที่ดีต้องประเมินคนไข้ได้ ตกผลึกทางความคิด มีทักษะพยาบาลที่รวดเร็ว สร้างนวัตกรรมทางการพยาบาลใหม่ๆ ให้ก้าวหน้า รู้เท่าทัน ประสานประโยชน์ มีจิตเป็นพยาบาล มีคุณธรรมจริยธรรม” ศาสตราจารย์ ดร.มรรยาท กล่าว สำหรับผู้สนใจสามารถสมัครได้ที่คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต วิทยาเขตปทุมธานี(เชียงราก)
ทางด้านความคิดเห็นของผู้ที่เข้ารับการศึกษาในหลักสูตรดังกล่าว อาทิ ศรัญญา ประทุมเพชร ได้เปิดเผยว่าสาเหตุที่ตัดสินใจมาเรียนหลักสูตรพยาบาลที่นี่ เพราะเขารับสมัครไม่จำกัดอายุ จึงอยากมาเรียนเพื่อมีอาชีพที่มั่นคงเราจบบริหารมาก็อยากนำไปต่อยอดทำธุรกิจโฮมเฮลท์แคร์ซึ่งเราได้เตรียมความพร้อม ค้นคว้าข้อมูลศึกษาเพิ่มเติม ถือว่าหลักสูตรนี้จะมีประโยชน์อย่างมากกับสังคม เราเห็นผู้สูงอายุถูกทอดทิ้ง ไม่มีคนดูแล จึงอยากต่อยอดสิ่งนี้เพื่อช่วยเหลือสังคมได้
ส่วน วิษณุ บุญโห้ กล่าวว่า จบวิทยาศาสตร์มา และตอนนี้มีธุรกิจส่วนตัวเปิดคลินิก จึงมาเรียนเสริมหลักสูตรพยาบาล เพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจด้านการแพทย์ มั่นใจ
ที่นี่เพราะมีสภาการพยาบาลรองรับ หลักสูตรกระชับ สั้นลง สามารถวางเป้าทำธุรกิจศูนย์บริหารดูแลผู้สูงอายุ
ขณะที่ ปิยะธิดา บุตดา กล่าวเสริมว่า เพิ่งเรียนจบบริหารจัดการธุรกิจ และยังหางานทำไม่ได้ จึงทำให้ตัดสินใจมาเรียนต่อที่นี่ เพราะอาชีพพยาบาลหางานง่าย ป้าก็เป็นพยาบาล ป้าไม่เคยตกงาน และความฝันอยากเรียนให้จบเพื่อไปทำงานที่ต่างประเทศ และมหาวิทยาลัยแห่งนี้ก็ตอบโจทย์ มีความพร้อม จบมามีงานทำแน่นอน ตอนนี้ก็เริ่มเรียนมีเพื่อนใหม่ๆ เรียนสนุก เนื้อหาอัดแน่น เราต้องขยันอ่านให้มากขึ้น คิดว่าจะปรับตัวในการเรียนได้
นี่เป็นจุดเล็กๆ จุดหนึ่งที่จะช่วยส่งเสริมทั้งในเรื่องของปริมาณและคุณภาพของพยาบาลไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี