ไม่นานมานี้ บ้านเมืองเรามี “คำถาม” ที่ชวนให้อภิปรายกว้างขวาง “มีทหารไว้ทำอะไร”
แต่บางประเทศแทบไม่ต้องสงสัยว่า “มีนักการเมือง”ไว้ทำไม โดยเฉพาะ ถ้านักการเมือง “ตั้งเป้า” ไว้ชัดเจนและ “ทำได้” ตามคำพูด
อย่างประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกา Joe Biden ที่เคยให้สัญญาว่าจะฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ได้ 100 ล้านโดส ในเวลา 100 วันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง
แค่ 58 วัน ประธานาธิบดีที่อายุมากสุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ กลับกระฉับกระเฉง Joe Biden ทำได้ครบ 100 ล้านวัคซีน และแทนที่จะ “หยุด” สบายๆ ในทำเนียบ“อเมริกาคู่ฟ้า”
ผู้นำ “คนแก่” เพิ่ม “เป้า” เป็น 200 ล้านโดสใน 100 วันเลย 30 เมษายนนี้ก็จะได้เห็นกันเป็นวันที่ 100 ที่เข้ามารับตำแหน่งตามที่ “อาสา” เข้ามา
ที่น่ายกย่องชมเชยคือประธานาธิบดี “ป้ายแดง” ของประเทศมหาอำนาจสหรัฐอเมริกาผู้นำ ไม่ได้สร้างชื่อเสียงให้ตัวเองด้วย “การส่งเสียงดัง” หรือ “สร้างความขัดแย้ง” เพื่อเรียก Rating ในโลกที่ผู้คนสมัยใหม่หลงใหลกับรายการโชว์ต่างๆ
ประธานาธิบดี Joe Biden ได้รับคำชื่นชมยกย่องจากอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่ Joe เคยทำงานเป็นรองประธานาธิบดีถึง 2 สมัย
“โจ คุณเป็นพี่ชายผม ผมสำนึกในบุญคุณอยู่ทุกวันว่า คุณมีหัวใจและจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่...”
“นักการเมือง” อาวุโสท่านนี้ บอกปัด “สิทธิพิเศษ” ปฏิเสธ “ทางลัด” เป็นครอบครัวศรัทธาในการบังคับใช้กฎหมาย ไม่ยอมให้เอาชื่อของตัวไปเบ่งเป็น “เครื่องแลกเปลี่ยน” ฯลฯ
การตระหนักว่า “อะไรมีความสำคัญในชีวิต” และสำนึกในหน้าที่ความรับผิดชอบว่าจะต้องทำให้ชีวิต “พลเมือง” ดีขึ้น น่าจะทำให้ 100 วันแรก ดำเนินไปด้วยดีและครบเทอม 1,460 วัน มีอะไรให้ผู้คนได้พูดถึงและจารึกในประวัติศาสตร์ ประธานาธิบดีสหรัฐชราสุดจะนำพาประเทศผ่านวิกฤติสุดไปได้รอดฝั่งหรือไม่
ขณะนี้ในประเทศสหรัฐอเมริกา การบริหารการฉีดวัคซีนมีประสิทธิภาพ ประมาณว่าฉีดกัน 2.5 ล้าน Shots ต่อวัน คนอเมริกันเกือบ 50 ล้านคน ได้รับการฉีดวัคซีน ศูนย์ CDC (The Centers for Disease Control and Prevention) แสดงตัวเลขว่ามีวัคซีน COVID-19 กว่า 169 ล้านโดส ตุนไว้ในอเมริกา ฉีดไปแล้ว 133 ล้านวัคซีน
“วัคซีน” นี่เองที่ช่วยให้ผู้คนได้กลับมาใช้ชีวิตปกติ โรงเรียนเด็กเล็กเริ่มเปิดตามเป้า นักธุรกิจเดินทางมากขึ้น ฯลฯ
อีกฟากหนึ่งของโลก ประเทศที่เกือบตกแผนที่โลก NEW ZEALAND กลายเป็นจุดสนใจของนานาประเทศ เมื่อนักการเมืองสตรี “ดาวรุ่ง” Jacinda Ardern นายกรัฐมนตรีสาว บริหารประเทศที่ขายธรรมชาติ (Nature) และการท่องเที่ยวด้วย “ความสดใหม่และสติปัญญา”
การบริหารวิกฤติโควิด-19 ทำให้เธอก้าวขึ้นเป็น “ผู้นำ” นักการเมืองระดับแนวหน้าของโลก
ในสมัยแรกของการเป็นนายกรัฐมนตรีประเทศ NEW ZEALAND (2017-2020) เมื่อเจอกับ COVID-19 เธอประกาศ “มาตรการ” แข็งกร้าวทันที
หลังเที่ยงคืนวันที่ 15 มีนาคม 2020 ใครผู้ใดจะเข้าประเทศ NEW ZEALAND จะต้องกักตนเองเป็นเวลา 14 วัน
นายกฯ Jacinda Ardern ภาคภูมิใจในมาตรการนี้และอวดว่าเป็นมาตรการตรวจคน กันคนเข้าเมืองที่กว้างขวางและเข้มงวดที่สุด
5 วันต่อมา นายกฯหญิงประกาศเฉียบขาด พรมแดนประเทศจะปิดไม่ให้คนที่ไม่ใช่ “พลเมือง” และ Permanent Residents ของ NEW ZEALAND เข้าอย่างเด็ดขาด
และอีก 5 วัน รัฐบาลประกาศ Lock Down ทั้งประเทศ ก่อนเที่ยงคืนของวันที่ 25 มีนาคม 2020
สื่อในประเทศและนานาชาติต่างยกย่อง นายกรัฐมนตรี Jacinda Ardern ว่า “ฉับไว” ต่อปัญหาและ “ตัดสินใจ เด็ดขาด”
เธอไม่เคยเรียนเตรียมทหาร ไม่ได้จบ รร.นายร้อย หรือคุมกองทัพ แต่ปริญญาตรี Communication Studies จากมหาวิทยาลัย WAIKATO ในประเทศช่วยงานการเป็น “ผู้นำ” ประเทศได้มาก โดยเฉพาะในช่วงเวลาขณะนี้ที่ถือเป็น “วิกฤติ” ทั้งโลก
Jacinda Ardern ขยันให้สัมภาษณ์เพื่อสร้าง “ความเข้าใจ” และ “โน้มน้าว” ผู้คนให้ “ร่วมมือ” จัด Press Conferences และบริหาร Social Media จนหลายมหาวิทยาลัยทั่วโลกยกย่องเป็นแบบอย่างของ “ผู้นำ” ในการบริหาร Crisis Management
ผลงานที่ดีเด่น ได้ชื่อเป็น “ผู้นำ” ที่มีหัวก้าวหน้า บริหารงานภาครัฐได้อย่างเฉียบขาดรวดเร็ว (ไม่ปล่อยให้เกิดโรค “เช้าชามเย็นชาม”) ทำให้ Jacinda Ardern ได้คะแนนเสียงเป็น “นายกรัฐมนตรี” สมัยที่ 2 อย่างถล่มทลาย
ถึงแม้อายุยังน้อย และห่างจากประธานาธิบดี Joe Biden 30 กว่าปีแต่ Jacinda Ardern ดูเข้าใจใน “ความสำคัญของชีวิต” ไม่ต่างจากนักการเมืองอาวุโสของสหรัฐ
เธอมี “ความรัก” ในเพื่อนมนุษย์ ความเห็นอกเห็นใจในเพื่อนมนุษย์มาก่อน ชื่อเสียงและ “ปมเขื่อง” ของตนเอง
ล่าสุดเธอปล่อย VDO CLIP ที่ทำไว้เมื่อตอนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ 2 ปี ตอนอายุ 39 เธอรับคำท้าของทีมงานที่ให้สรุปผลงานที่ผ่านมา 2 ปี ใน 2 นาที (ฮา)
เธอพูดด้วย “ความสนุกสนาน” ไม่จริงจัง แต่ “ตัวเลข” ที่แสดงสะท้อนถึงความเบิกบานของ “ผู้นำ” และ “พลเมือง” ที่ได้อานิสงส์
“ใน 2 ปี เราสร้างงาน 92,000 สร้างบ้านของรัฐ 2,200 หลัง เราไล่นักลงทุนต่างชาติที่เก็งกำไรออกไปจากตลาด เราปลูกต้นไม้ 140 ล้านต้น (OMG) เรามีศูนย์รักษามะเร็งที่ดีขึ้นและถูกลง เราสร้างห้องเรียนเพิ่มขึ้นสำหรับนักเรียนแสนคน เรามีบุคลากรทางการแพทย์เพิ่มขึ้น 2,000 ตำแหน่ง เราสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กันกว่า 3 ล้านครัวเรือน...”
แต่ขนาดเร่งรีบสรุปผลงาน 2 ปี เธอเลยเวลากำหนด 2 นาที ไป 56 วินาที (ฮา)
ผู้ชมกด Like กันมากมาย และขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรีและทีมงานที่พยายามทำงานหนักเพื่อ “ประชาชน”
เสียงเชียร์บริสุทธิ์ (ที่ไม่ใช่มาจาก “คนรอบข้าง”) ตะโกนมาว่า
มี “ที่” เสมอสำหรับ “ผู้นำ” ที่ยิ่งใหญ่
กฤษณ์ ศิรประภาศิริ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี