"ทุกข์เพราะกรรมเก่ามาให้ผลควรทำใจอย่างไร?" วิสัชนาธรรมโดย หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต วัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร
ปุจฉา : ขอหลวงปู่เมตตาดิฉันด้วยนะเจ้าคะ ตอนนี้จิตใจดิฉันไม่สงบสุขเลย อันเนื่องมาจากเรื่องราวทุจริตในที่ทำงาน ผลสรุปอาจจะกระทบมาถึงด้วยในแง่ดิฉันควบคุมลูกน้องไม่ดี น่าสงสารสำหรับเด็กคนนั้น เขาไม่น่าเห็นผิดเป็นชอบเลย เพราะเขาได้สร้างบาปให้กับคนอื่นอีกหลายคนที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ พลอยให้ได้รับการลงโทษไปด้วย
ส่วนตัวดิฉันเองเหมือนฝันร้าย ยังไม่รู้ว่าจะได้รับการลงโทษแบบไหน เฉพาะขั้นที่ดูแลควบคุมภายในไม่ดีก็ไม่ขึ้นเงินเดือน แต่ก็ทำให้ลูกเสียใจไปอีกนาน เมื่อคืนขณะไหว้พระสวดมนต์ก่อนนอนก็เผลอร้องไห้ออกมาเอง ต้องปลอบใจตัวเองว่านั่นเป็นวิถีชีวิตของกฎแห่งกรรม ลูกอาจจะสร้างกรรมอะไรมาจากอดีต เศษกรรมมันตามมาทัน ก็ขอให้ใจสบาย จิตสงบ ให้จิตมีความสงบ อย่าทุกข์ และยิ้มรับผลสนองทั้งดีและร้ายเสมอดีกว่า
วิสัชนา : หลวงปู่และคุณหนูมิได้เห็นหน้ากันก็จริง แต่ก็ได้เห็นตาปัญญากันในจดหมายที่เขียนไป เป็นปัญญาจักขุ จักขุคือปัญญา และก็เป็นปัญญาที่ธรรมของพระพุทธศาสนาเป็นหลักอยู่ เป็นแว่นเป็นบรรทัดเป็นเครื่องวัดเครื่องตวงให้จิตใจคำนึงพึงพอใจ ในการพิจารณาอันไม่เลยเถิดจากธรรมะ หลวงปู่ชอบใจความเห็นและธรรมแผนกนี้เป็นอย่างยิ่ง ผลรายรับตอนสุดท้ายก็มีองอาจกล้าหาญ ไม่บิดพลิ้วต่อกรรมและผลของกรรมนี้ ผู้ที่เชื่อกรรมและผลของกรรมก็ไม่ใช่อื่นไกลเลย ก็คือผู้เชื่อธรรมของพระพุทธศาสนานั่นเอง
กรรมและผลของกรรมนี้ เราจะมองเห็นได้ด้วยตาปัญญาอันชัดบ้างก็แต่เฉพาะปัจจุบันชาติเท่านั้น แม้ชาติก่อนๆ ที่เคยสร้างมาก็ไม่ค่อยรู้จักละเอียดลออเท่าใดนัก หรือไม่รู้เลยก็ว่าได้ เป็นเพียงยอมเชื่อด้วยศรัทธาอันแรงกล้าในพระพุทธศาสนาเท่านั้น ก็เว้นไว้แต่พระอรหันต์ผู้สำเร็จปุพเพนิวาสานุสสติญาณ แต่ถึงอย่างนั้นแต่ละองค์ๆ ก็มีละเอียดลออกว่ากันตามฐานะที่สร้างมา กรรมและผลของกรรมที่เกี่ยวข้องกับท่านผู้อื่นเป็นตัวเหตุตัวผล บางทีก็เป็นกรรมเก่ามาแต่ภพก่อนบ้าง บางทีเราก็มาก่อใหม่มาเกยมาพาดโดยที่เราไม่ได้นึกฝัน แม้จะเป็นกรรมเก่ากรรมใหม่ก็ตาม เรามีหน้าที่ทางเดียวที่จะปลดเปลื้อง คือจะไม่จองเวรแบบองอาจกล้าหาญและพอใจให้อโหสิกรรมตะพึดไป ปรบมือ มือเดียว มือหนึ่งไม่เอามารับ เสียงดังของการปรบมือก็ไม่เกิดขึ้น การชนะเวรภัยก็ชนะไปในตัวฉันนั้น
อันนี้แหละเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ทั้งอดีต ทั้งอนาคต ทั้งปัจจุบันด้วย เราจะสมประสงค์หรือไม่สมประสงค์ในอามิสก็ตาม เราจะพยายามหัดใจหัดจิตไม่ให้ติดอยู่ในเงื่อนทั้งสองจนเหลิงเจิ้ง เพราะสิ่งทั้งหลายแหล่ในไตรโลกธาตุมีพระอนิจจังกวาดล้างอยู่ ไม่มีกาล ไม่มีเวลา ไม่จบเกษียณและไม่มีวันอาทิตย์ วันเสาร์เลย เรามีหน้าที่ที่จะพยายามสร้างสติปัญญาและใจให้สมดุลกันให้สูงขึ้นไปจากสิ่งเหล่านี้ทั้งนั้น อันนี้ก็เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลายดังที่กล่าวมาแล้วนั้น
หลวงปู่ย่อมยินดีพอใจเพื่อจะสังสรรค์และต้อนรับผู้ที่สนใจในธรรม เพื่อพ้นทุกข์ในสงสารของพระพุทธศาสนา และเป็นประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันไปในตัว กับทั้งได้ปล่อยมานะความถือตัวไปในตัวด้วย
สุดท้ายด้วยเดช พุทธ ธรรม สงฆ์ จงพ้นจากกองทุกข์ทั้งปวงทุกถ้วนหน้าอยู่ทุกเมื่อนั่นเถิด
คัดมาจาก...หนังสือ หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต ตอบปัญหาธรรมะ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๒๐, เดือนกันยายน ๒๕๕๓ ขอบคุณลานธรรมจักร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี