วิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 ระลอกใหม่ในประเทศไทยได้ทวีความรุนแรงอย่างมาก อันเนื่องมาจากเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 กลายพันธุ์ โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลต้าซึ่งแพร่กระจายเชื้ออย่างรวดเร็ว ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ส่งผลกระทบต่อประชาชนทุกกลุ่มไม่เว้นแม้แต่คนพิการไม่ว่าจะเป็นคนพิการทางการมองเห็น พิการทางการได้ยิน พิการทางการเคลื่อนไหว/ร่างกาย และพิการทางสติปัญญา ซึ่งยากต่อการเผชิญหน้ากับโรคระบาดนี้ได้เพียงลำพัง
สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) ผสานกำลังนำจุดแข็งที่เป็นความเชี่ยวชาญของแต่ละหน่วยงาน ทั้งองค์ความรู้ทางการแพทย์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการดูแลคนพิการ รวมถึงการรับมือโรคโควิด-19 ประกอบกับความเป็นมืออาชีพในการสนับสนุนสวัสดิการและการช่วยเหลือคนพิการมาใช้เป็นฐานทุนในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธรเพื่อคนพิการครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2564 เพื่อให้บริการคนพิการที่ป่วยโรคโควิด-19 (กลุ่มสีเขียว) ได้พักฟื้นรักษาตัว กระทั่งวันที่ 27 กันยายน ได้ส่งผู้ป่วย 3 รายสุดท้ายกลับบ้านอย่างปลอดภัย และได้ยุติการดำเนินงานอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา
ผลลัพธ์จากการดำเนินงานอย่างแข็งขันของบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนตลอดระยะเวลา 120 วัน และเกือบตลอด 24 ชั่วโมงของทุกวัน ไม่ได้เพียงช่วยให้คนพิการที่ป่วยโควิด-19 ได้รับการรักษาและหายป่วยกลับบ้านอย่างปลอดภัย ทว่าทุกบทบาทและปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นยังกลายเป็นบทเรียนหน้าใหม่ให้แก่ทีมสหวิชาชีพทุกหน่วยงาน อันจะนำไปสู่การสร้างต้นแบบโรงพยาบาลสนามเพื่อดูแลคนพิการในยามเผชิญโรคระบาดของโรคอุบัติใหม่ในอนาคต
น.ส.สราญภัทร อนุมัติราชกิจ
น.ส.สราญภัทร อนุมัติราชกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า เนื่องด้วยโควิด-19 เป็นสถานการณ์ของโรคระบาดใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้น พก. จึงตั้ง “ทีมเรามีเรา” ขึ้นมาเฉพาะกิจ ซึ่งประกอบด้วยนักสังคมสงเคราะห์ นักพัฒนาสังคมที่ทำหน้าที่เชิงรุกในการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ในการคุ้มครองดูแล เนื่องจากการรับมือกับโรคโควิด-19 จะต้องมีการดูแลร่วมกันทั้งด้านการแพทย์ ด้านสวัสดิการและสิ่งอำนวยสะดวกสำหรับคนพิการควบคู่กันไป การบูรณาการร่วมกันของทั้ง 3 หน่วยงาน ทำให้ช่วยแบ่งเบาภาระในการทำงาน มีนวัตกรรมช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการทุกประเภท ทั้งอุปกรณ์ลดความเสี่ยงในการสัมผัสเพื่อเลี่ยงการติดเชื้อ และเครื่องมือสื่อสารที่เหมาะสมอย่างครบถ้วน
ตอบโจทย์ ทั้งการบริการคนพิการและทำให้ระบบสาธารณสุขประหยัดทรัพยากรได้มาก
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโรงพยาบาลสนามบ้านวิทย์ฯ จะหยุดดำเนินการ แต่“ทีมเรามีเรา”ยังคงเดินหน้าช่วยเหลืคนพิการในสถานการณ์โควิด-19 อย่างต่อเนื่อง รวมถึงยังมีโรงพยาบาลสนามราชานุกูล ซึ่งดูแลเฉพาะสำหรับกลุ่มคนพิการออทิสติกด้านสติปัญญาและการเรียนรู้ รวมถึงคนในครอบครัว นอกจากยังนี้ยังมีระบบกักแยกผู้ป่วยในชุมชน(Community Isolation) ของกลุ่มคนพิการทางเห็น ซึ่งสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยและโรงเรียนสอนคนตาบอดยังเปิดรับคนตาบอดและครอบครัวที่ป่วยโรคโควิด-19 บริหารจัดการโดยโรงพยาบาลรามาธิบดี
ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)กล่าวว่า เดิมบ้านวิทยาศาสตร์ สิรินธรเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ฝึกทักษะและพัฒนาศักยภาพทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทว่าเมื่อเกิดการระบาดโควิด-19อย่างต่อเนื่องและมีผู้ป่วยจำนวนมาก การเปลี่ยนพื้นที่เป็นโรงพยาบาลสนามบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธรเพื่อคนพิการ จึงเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นเร่งด่วน
ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล
ดร.ณรงค์ กล่าวว่า เราปรับปรุงพื้นที่เพิ่มเติมตามที่บุคลากรทางการแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านแนะนำตั้งแต่ทางเดิน ห้องน้ำ ระบบบริการล่ามทางไกลสำหรับผู้พิการทางการได้ยิน รวมทั้งมีผลงานวิจัยซึ่งพัฒนาโดยทีมวิจัย สวทช. เช่น เครื่องเอกซเรย์ดิจิทัลแบบเคลื่อนที่ได้ (BodiiRay M) อุปกรณ์ป้องกันและฆ่าเชื้อโรค เช่นหน้ากากอนามัย Safie Plus และหน้ากาก N95 n-Breeze เครื่องกำจัดเชื้อโรคด้วยแสงยูวีซี(GirmZaber UV-C Sterilizer)แบบ Robot และแบบ Station รถส่งของบังคับทางไกล“อารี”และหุ่นยนต์ส่งของ“ปิ่นโต 2” (กรมวิทยาศาสตร์บริการเข้ามาร่วมสนับสนุน) หมวกแรงดันลบและแรงดันบวก nSPHERE เปลแรงดันลบเคลื่อนย้ายผู้ป่วย PETE เพื่อลดความเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
นอกจากนั้น ยังได้นำซอฟต์แวร์ ระบบติดตามสุขภาพผู้ป่วยทางไกล สำหรับโรงพยาบาลสนาม (A-MED Telehealth)เพื่อให้เกิดการสื่อสารระหว่างผู้ป่วยกับแพทย์ในโรงพยาบาลสนาม และนำไปบริหารจัดการข้อมูลผู้ป่วยโควิด-19 ที่แยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) เหล่านี้เป็นตัวอย่างที่ทำให้เห็นถึงการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของคนไทยเข้าไปช่วยดูแลผู้ป่วยและช่วยอำนวยความสะดวกกับบุคลากรทางการแพทย์ อย่างสมบูรณ์ ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นได้เพียงชั่วข้ามคืน แต่เป็นการวางแผน การสั่งสมองค์ความรู้ความสามารถเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด
“วิกฤตโควิด-19 พิสูจน์ให้เห็นว่าองค์ความรู้เหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญมาก วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีจึงเป็นการมองอนาคต ทั้งการเตรียมความพร้อมองค์ความรู้และการเข้าถึงองค์ความรู้ใหม่ๆ รวมถึงความพร้อมด้านเครือข่ายการวิจัยทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นอาวุธลับสำคัญที่ทำให้เราสามารถติดตามพัฒนาการต่างๆ ของโรคระบาด อุปกรณ์ป้องกันโรครวมทั้งยาและวัคซีนได้อย่างทันท่วงที ซึ่งจะทำให้เราเกิดความมั่นคงด้านการแพทย์และประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น” ดร.ณรงค์ กล่าว
พญ.บุษกร โลหารชุน
พญ.บุษกร โลหารชุน รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ กรมการแพทย์ ในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลสนามบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธรเพื่อคนพิการ กล่าวว่า ทีมสหวิชาชีพของสถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูฯ ตระหนักถึงประเด็นปัญหาที่ว่าจะทำอย่างไรให้คนพิการและครอบครัวเข้าถึงบริการและได้รับการดูแลอย่างปลอดภัยได้มาตรฐาน ภาพรวมตลอด 4 เดือนสิ่งที่ทำอาจจะไม่ได้หนักมาก แต่สิ่งที่ได้มากกว่าคือ เราได้ถอดองค์ความรู้ทั้งหมด และพร้อมที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้ไปยังหน่วยงานต่างๆ หากเกิดโรคระบาดเช่นนี้อีกในอนาคต เพื่อให้คนพิการทั่วประเทศได้มีโอกาสเข้าถึงการดูแลและรักษา เพื่อความปลอดภัยและความมั่นคงทางด้านสวัสดิการสังคมและสุขภาพ
“หากเกิดวิกฤตอีกในระลอกหน้า เราสามารถนำเอาองค์ความรู้ ความร่วมมือและปัจจัยความสำเร็จต่างๆ ก้าวข้ามวิกฤตไปได้ เพราะว่าทุกอย่างนั้นบางครั้งหากเรากลัวจนเกินไปเราจะมองไม่เห็นทางออก แต่โรงพยาบาลสนามบ้านวิทย์ฯ เราพิสูจน์มาแล้วว่า เมื่อเรามั่นใจในประสิทธิภาพและพลังของความร่วมมือจะนำพาให้เราประสบความสำเร็จ แล้วจะทำให้สิ่งที่เราวิตกหรือหวาดกลัวนั้นสิ้นสุดลงได้ เป็นการสร้างพลังรวมให้เกิดเป็นพลังหมู่และก้าวข้ามอุปสรรคไปได้ในที่สุด” พญ.บุษกร กล่าว
สำหรับการเปิดดำเนินตลอด 4 เดือนที่ผ่านมาของโรงพยาบาลสนามบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธรเพื่อคนพิการ ได้มีคนพิการติดเชื้อโควิด-19 ที่เป็นกลุ่มผู้ป่วยสีเขียวเข้ารับการรักษาจำนวนทั้งสิ้น 650 คน ได้รับการรักษาหายป่วยกลับบ้าน 590 คน และส่งต่อไปรักษากับโรงพยาบาลขนาดใหญ่อีก 60 คน
อย่างไรก็ตามคนพิการที่เป็นผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ ยังสามารถติดต่อผ่านช่องทางต่างๆ ในการเข้ารับบริการได้ในสถานที่ปกติของหน่วยงานรัฐ ผ่านบริการศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 สายด่วน สปสช. 1330 สายด่วนคนพิการ 1479 หากอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลสามารถติดต่อสถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูฯ ซึ่งยังให้บริการตรวจ RT-PCR และบริการการกักตัวที่บ้าน Home Isolation
พญ.บุษกร เปิดเผยด้วยว่าโรงพยาบาลสนามบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งเป็นกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานในทุกกลุ่ม นอกจากนี้พระราชทานกำลังใจในการปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มความสามารถแก่บุคลากรพระองค์ท่านได้เห็นถึงความตั้งใจของทีมทำงาน ทรงทราบถึงความทุกข์ยากของพสกนิกร และทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ พระราชทานอาหาร รวมถึงทรงติดตามความคืบหน้าของการดำเนินการซึ่งทางสถาบันฯ ได้ถวายรายงานให้ทรงทราบเป็นระยะว่าปัจจุบันดำเนินการอย่างไร มีคนพิการกี่ราย ครอบครัวกี่รายที่ได้รับความช่วยเหลือ นำมาซึ่งความปลื้มปีติและเป็นขวัญกำลังใจแก่ทีมงานได้ปฏิบัติภารกิจสำเร็จลุล่วงด้วยความเรียบร้อยสมบูรณ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี