26 กันยายน 2564 ผมในฐานะรองประธานกรรมาธิการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรม คนที่ 1 ของสภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะ ได้เดินทางไปที่จังหวัดสกลนคร ในพื้นที่ อ.วานรนิวาส และ อ.บ้านม่วง เพื่อต่อยอดความสำเร็จใน “โครงการสกลนครโมเดล” สู่รูปแบบการท่องเที่ยวเชิงอาหารวัฒนธรรม (แห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) หรือ Esan Gastronomy Tourism
นอกเหนือไปจากการรับทราบการยกระดับของสายงานย่อยต่างๆ ที่สามารถสร้างรายได้เพิ่มให้แก่ชาวบ้านตามเป้าหมายที่วางไว้ 1 หมื่นบาทต่อเดือน ต่อครัวเรือนแล้ว พวกเราก็มาลงรายะเอียดเกี่ยวกับการขยายกรอบของเกษตรกรกลุ่มเป้าหมายออกไป เพื่อเปิดโอกาสให้ชุดความรู้ต่างๆ ที่ร่วมกันทำมาตลอด 1 ปี กระจายออกไปตามกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ต่างๆ รวมไปถึงแรงงานคืนถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ร่วมด้วยที่สำคัญ หน่วยงานในระดับจังหวัดก็ร่วมเข้าหารือถึงการสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวที่ควรจะเกิดขึ้นเมื่อสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ในความเป็นไปได้เกี่ยวกับสกลนครในฐานะเมืองแห่งการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอีสาน ทั้งในเรื่องอาหาร และผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเศรษฐกิจฐานรากที่น่าสนใจ
สำหรับความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากสายงานย่อยต่างๆ ในโครงการ อันเชื่อมโยงไปถึงความแข็งแรงของภาคการเกษตร และชุมชนท้องถิ่นของพื้นที่เป้าหมาย มีดังนี้
1. เราเริ่มต้นที่ปัญหาด้านการเพาะปลูก ด้วยลักษณะของดินที่นี่ ซึ่งเป็นดินลูกรังอันไม่เอื้ออำนวยทางการเกษตร การปรับปรุงดินจึงเกิดขึ้นด้วยองค์ความรู้
ทางวิทยาศาสตร์จากทีมงานสกลนครโมเดล จนได้ “นวัตกรรมดินมีชีวิต” ที่ประกอบไปด้วย ดินลูกรัง ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก ถ่านกัมมันต์ และหัวเชื้อจุลินทรีย์ท้องถิ่น
คู่แฝด มาผสมผสานเติมธาตุอาหารและคุณประโยชน์ให้กับดินในพื้นที่เป้าหมายของโครงการ ทำให้ผลิตผลทางการเกษตรเจริญงอกงาม และดิน ถ่านกัมมันต์ รวมไปถึงหัวเชื้อจุลินทรีย์ท้องถิ่นคู่แฝด ยังกลายเป็นสินค้าขายดีสำหรับเกษตรกรในพื้นที่ และนอกพื้นที่อีกด้วย
2. ส่วนเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ก็เป็นอีกโครงสร้างหลักของการทำเกษตรในโครงการ ทีมงานสกลนครโมเดลก็จะศึกษาพื้นที่เป้าหมาย ลักษณะทางภูมิศาสตร์ จำนวนไร่ ผลผลิต ความต้องการของเกษตรกร จากนั้นก็จะออกแบบแนวทางการใช้น้ำที่เหมาะสมออกมาตามปัจจัยที่กำหนด โดยนำนวัตกรรมสมัยใหม่เข้ามาประกอบเพื่อลดต้นทุนด้านค่าใช้จ่าย และแรงงาน ที่สำคัญ การใช้น้ำเท่าที่จำเป็น คือ หลักชัยของทีมงาน เพื่อสร้างความยั่งยืนของการเพาะปลูกแบบผสมผสานให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดปี ถึงตรงนี้ทุกความสำเร็จของการเพาะปลูก ก็มาจากระบบน้ำที่ได้รับการออกแบบไว้
3. การเพาะปลูกนั้น เราเลือกพืชผักสวนครัว และสมุนไพร เข้ามาเสริมพืชหลัก เพราะพืชผักสวนครัวสามารถปลุกได้ทุกฤดูกาล และสามารถเก็บผลผลิตมารับประทาน หรือมีตลาดรองรับในการนำมาขายเสมอ ส่วนสมุนไพร เราเริ่มต้นที่ “ฟ้าทะลายโจร” ด้วยดินมีชีวิต ระบบน้ำที่ได้รับการออกแบบ และมาตรฐานของกระบวนการดูแลที่แม่นยำ จึงทำให้เรามีสารสำคัญอย่างแอนโดรกราโฟไลด์สูงมากหลังผ่านการตรวจวิจัย ปัจจุบัน ชาวบ้านกลุ่มเป้าหมายสามารถสร้างรายได้จากสมุนไพรฟ้าทะลายโจรมหาศาล มีหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน มาเป็นคู่ค้าเพื่อรับผลผลิตในรูปแบบต่างๆ ส่วนทางโครงการกำลังเดินหน้าจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชน เพื่อสร้างตราสินค้าให้แก่ชาวบ้านกลุ่มนี้ต่อไป เพื่อรองรับฟ้าทะลายโจร และสมุนไพรตัวอื่นๆ ที่จะแนะนำ โดยจะขยับไปที่การเกษตรแบบสารสกัดมากขึ้นในปีต่อไป
4. ส่วนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่บริเวณป่า ซึ่งมีความสมบูรณ์ของธรรมชาติเหมาะสมอยู่แล้วนั้น การสร้างป่าครอบครัวด้วยการผลักดันการปลูกสมุนไพร การเลี้ยงมดแดง การเพาะเห็ด การเลี้ยงอึ่ง ปูนา ฯลฯ กลายเป็นกิจกรรมที่มีชีวิตของชาวบ้านในตอนนี้ไปเสียแล้ว เพราะความที่ผลผลิตสามารถหล่อเลี้ยงการดำเนินชีวิตได้
ความผูกพันที่มีต่อป่าจึงเหนียวแน่นยิ่งขึ้น ในปีต่อไปทางโครงการสกลนครโมเดล จะยกระดับต่อไปเป็นป่าเศรษฐกิจชุมชน โดยหยิบแนวทางของการท่องเที่ยวเข้ามาเสริม และใช้ช่องทางการตลาดในแบบต่างๆ เข้ามากระจายสินค้าที่ได้จากป่าให้กว้างขึ้น
5. มาตรฐานผ้าคราม ซึ่งถือว่าเป็นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแรงอยู่แล้วสำหรับชาวสกลนคร ในสิ่งที่ทีมงานได้ลงไปช่วยก็คือ การสร้างมาตรฐานของเฉดสีต่างๆ ให้เป็นสากล สามารถกำหนด และเลือกเฉดสีตามที่ตลาดต้องการได้อย่างแม่นยำ จากนั้นก็เพิ่มเติมเรื่องทักษะการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย เติมเต็มอัตลักษณ์ท้องถิ่นให้ผสมผสานกับความทันสมัยนิยมอย่างลงตัว เพื่อเปิดกว้างแก่กลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง หรือตลาดต่างประเทศ ได้เข้าถึง และมีความมั่นใจในคุณภาพ นอกจากนั้น ยังได้ส่งเสริมการบริหารช่องทางการตลาดต่างๆ ตามความเหมาะสม รวมไปถึงการรวมกลุ่มเพื่อสร้างตราสินค้า และการักษามาตรฐานมิให้ลดทอนลง
อันที่จริง นอกเหนือจากสายงานหลักๆ ตามที่เล่ามานี้ ยังมีสายงานย่อยๆ แตกแขนงออกไปอีกมากมาย ทั้งเรื่องของอาหาร สิ่งทอ หรือผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ต้องบอกว่า ทีมงานสกลนครโมเดล มีฐานของความเป็นชุมชนที่แข็งแกร่งมาก และด้วยตรงนี้เองที่ทำให้ความสำเร็จทุกอย่างขยับไปได้ไกลกว่าที่คาดหวังไว้ หลังจากที่พวกเราได้พิสูจน์ให้ชาวบ้านสามารถเชื่อใจได้ว่า ไม่ใช่แค่เอาเงินมาให้แล้วก็ไป แต่มาแล้วร่วมสร้างความยั่งยืนของสกลนครไปด้วยกัน
สิ่งเหล่านี้เป็นแนวทางที่ผมอยากฝากให้รัฐบาล และประชาชนคนไทยทุกคน ได้พิจารณามาเป็นเครื่องมือหนึ่งสำหรับนโยบายการฟื้นฟูประเทศทางด้านเศรษฐกิจฐานรากและการสร้างความมั่นคงให้กับคุณภาพชีวิตของประชาชน เพราะความสำเร็จที่เกิดขึ้นตามแนวทางที่นำเสนอมานั้น ได้รับการพิสูจน์จนกลายเป็นที่ประจักษ์แล้ว ผมจึงไม่เห็นเหตุผลอันใดที่รัฐบาลจะไม่ต่อยอดความสำเร็จที่เกิดขึ้นนี้ให้กลายเป็นต้นแบบของการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากในอีกหลายๆ พื้นที่ทั่วประเทศไทย เพื่อทำให้คุณภาพชีวิตของชาวบ้านตามท้องถิ่นต่างๆ ได้มีพัฒนาการไปในทางที่ดียิ่งขึ้น และนี่เป็นเหตุผลสำคัญ ที่ผมพยายามสื่อสารถึงแนวทางของโครงการ “จังหวัดโมเดล” อย่างต่อเนื่องและเป็นระบบในช่วงเวลาที่ผ่านมา ก็หวังว่าจะได้รับความสนับสนุนที่เพิ่มมากขึ้นจากทุกคนครับ
กนก วงษ์ตระหง่าน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี