พ่อแม่ที่ส่งบุตรหลานที่รักเข้าศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาคือ “เจ้าชีวิต” ด้วยการฟูมฟัก อบรม เลี้ยงดู ส่งเสีย เพื่อให้ “เด็กน้อย” ไปถึง“ฝั่งฝัน” จบการศึกษา มีงาน มีการทำ เพื่อกลับมาสนองคุณบุพการี ในยามที่พ่อแม่แก่เฒ่า เรี่ยวแรงหดหาย
ทุกชีวิตของเยาวชนเด็กน้อยที่เข้าสู่สถาบันการศึกษา จึงควรได้รับความรัก การดูแลให้สมกับความหวัง ความตั้งใจ ของพ่อแม่ผู้ปกครอง ผู้ส่งเสีย
อนิจจา เราได้ข่าวเศร้าไร้สาระทุกปีจากประเพณี “การรับน้อง” ในสถาบันการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขั้น “อุดมศึกษา”
“รุ่นพี่” ได้ทำตัวเป็น “เจ้าชีวิต” ใช้ “อำนาจ” อันป่าเถื่อน “อำนาจ” ที่คิดเองว่า “มี” ทำร้าย “รุ่นน้อง” จนถึงขั้นเสียชีวิต จากความเชื่อที่ว่า “การรับน้อง” จะทำให้ “น้อง” แข็งแกร่ง จะทำให้ “น้องๆ” เมื่อเห็น “รุ่นพี่” รังแกข่มเหง จะรักใคร่สามัคคีในหมู่พวกตน อันจะเป็นประโยชน์ต่อการร่วมมือกันทำงานในอนาคต
ประเพณี “รับน้อง” นี้ก็เหมือน “หลายเรื่อง” ที่ไทยรับมาจากต่างประเทศ โดยรับมาไม่หมด รับมาแบบไม่รู้จริง ยิ่งตกทอดมาหลายรุ่น หลาย Generation “รุ่นพี่” ก็ได้เพิ่มเติมสีสัน เพิ่มความสนุกสนาน บางแห่งเพิ่ม Sadism เข้าไปในประเพณีที่แสนดี
บางคนจำขี้ปากคำว่า SOTUS ระบบริเริ่มการรับน้องที่สถานศึกษาไทยรับมาจากประเทศอังกฤษ
“โซตัส” ฟังดูเท่ดี มาจากคำภาษาอังกฤษ 5 คำ ได้แก่
Seniority (ความอาวุโส)
Order (ระเบียบ)
Tradition (ประเพณี)
Unity (ความสามัคคี)
และ Spirit (จิตวิญญาณ หรือความมีน้ำใจ)
เป็นคำและความคิดดีๆ ทั้งนั้น ถ้าทำให้เกิดในตัว “น้องใหม่” และหมู่คณะรุ่นพี่รุ่นน้อง
แต่ที่ผ่านๆ มา “รุ่นพี่” มักเน้นแต่ข้อแรกคือ Seniority ระบบอาวุโสอันศักดิ์สิทธ์ิและคิดว่า “รุ่นพี่ถูกเสมอ” มีความชอบธรรมที่จะใช้อำนาจของ “รุ่นพี่”
เคยเป็น “รุ่นน้อง” ที่ถูกรังแกมา (จาก “รุ่นพี่” โรคจิตบางคน) ก็ขอมาใช้กับ “รุ่นน้อง” บริสุทธิ์ที่ “เคราะห์ร้าย” และพลาดพลั้งไม่ตายก็พิการ
เชื่อว่าการสร้าง “ความกลัว” ให้เกิดจะเป็นแรงสำคัญที่ “น้องๆ” จะเคารพ “พี่ๆ” เคารพ “อาวุโส”
เครื่องมือสำคัญที่ “รุ่นพี่” ใช้กับ “น้องๆ” กันแพร่หลายคือ “ระบบการว้าก”
“การว้าก” ที่เอามาใช้กับ “น้องๆ” รุ่นพี่ (เบาปัญญา) เชื่อว่าเป็นการ “ละลายพฤติกรรม” (ลองมาจากมหาวิทยาลัยระดับ IVY League ของสหรัฐอเมริกา) การละลายพฤติกรรม เป็น “โจทย์” สำคัญของ “ระบบการรับน้อง” ทุกแห่ง คิดเอาเองว่า การตะคอกใส่เด็กดีๆ เด็กที่มาจากครอบครัวดีๆ ควรจะรู้ภาษา-ความถ่อยของ “รุ่นพี่” (ที่มาจากแหล่งชุมชนแออัดกระมัง?)
อาจารย์พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ ให้ความรู้จริงใน SOTUS ว่า “จุดมุ่งหมายคือการสร้างความสัมพันธ์รุ่นพี่รุ่นน้อง และความรักพวกพ้องที่เหนียวแน่น เพื่อประโยชน์ต่อการสร้างระบบอุปถัมภ์ในชีวิตการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบราชการ
ส่วนอาจารย์มหาวิทยาลัยก็ได้ประโยชน์จาก SOTUS เป็นการใช้อำนาจควบคุมนักศึกษาผ่านรุ่นพี่ทำให้เชื่อง”
ประเพณี “รับน้อง” ได้ระบาดเข้าไปถึงมหาวิทยาลัยเอกชน ลงไปถึงมัธยมศึกษาเด็กๆ
การไปบังคับนิสิตนักศึกษาในมหาวิทยาลัยของรัฐนั้น พอเข้าใจได้เพราะ “ค่าเล่าเรียน” ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ เอาว่า “น้องใหม่” ต้องใช้เวลาส่วนหนึ่งมาเป็น “ลูกไล่” (ซึ่งที่จริงก็ไม่ควรเพราะทารุณกรรมของการรับน้องจะเป็น “บาดแผล”ในใจของ “น้องๆ” ไปอีกนาน)
ที่ลามปามไปถึงมหาวิทยาลัยเอกชน ค่าเล่าเรียนแพง อย่าลืมว่า “น้องๆ” บางคนต้องใช้เวลาไปหางาน Part Time ทำ หาเงินมาช่วยค่าเล่าเรียน ฯลฯ
เคยเห็น “รุ่นพี่” ข่มขู่ “น้อง” ในมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง ไม่ให้ออกไปทำงานพิเศษ เลิกเรียนแล้ว ต้องอยู่ซ้อมเพลงเชียร์(อันไร้สาระ)
“ความรัก ความนับถือ ความสามัคคี” สร้างได้ด้วย “ศิลปะ” หาใช่ด้วย ทารุณกรรม วจีกรรม (ว้าก) ไม่
ชักอยากฟังเพลง “คืนความสุขให้มหาวิทยาลัย”แล้วสิครับ (ฮา)
กฤษณ์ ศิรประภาศิริ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี