โครงการทุนสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงแห่งประเทศไทย และสถาบันเทคโนโลยีแห่งโตเกียว (TAIST-Tokyo Tech : Thailand Advanced Institute of Science and Technology – Tokyo Institute of Technology) เป็นโครงการทุนการศึกษาหลักสูตรนานาชาติสำหรับระดับปริญญาโท ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สถาบันเทคโนโลยีแห่งโตเกียว (Tokyo Institute of Technology: Tokyo Tech) จากประเทศญี่ปุ่น และสถาบันการศึกษาชั้นนำของไทย ได้แก่ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง(สจล.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.)สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร (SIIT) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) และมหาวิทยาลัยมหิดล (มม.)
วัตถุประสงค์ของโครงการนี้ มีขึ้นเพื่อเสริมความแข็งแกร่งและสร้างเครือข่ายจัดการศึกษา วิจัยและพัฒนาในหลักสูตรการศึกษานานาชาติที่มีคุณภาพ เพื่อพัฒนาบุคลากรวิจัยและวิศวกรรมทักษะสูงในระดับบัณฑิตศึกษา (ปริญญาโท)เพื่อรองรับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมใน 3 สาขา ได้แก่ วิศวกรรมยานยนต์และระบบขนส่งขั้นสูง (Automotive and Advanced TransportationEngineering) ปัญญาประดิษฐ์และอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง(Artificial Intelligence and Internet of Things) และวิศวกรรมพลังงานและทรัพยากรเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Energy and Resources Engineering) และหลักสูตรประกาศนียบัตรระบบขนส่งทางราง (Rail Transportation Certificate)
โครงการ TAIST-Tokyo Tech ได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2550 โดยระยะที่ 1 พ.ศ. 2550–2554, ระยะที่ 2 พ.ศ. 2555 -2559 และระยะที่ 3 พ.ศ.2560 -2564 ล่าสุด เมื่อวันที่ 19เมษายน 2565 ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงการดำเนินการโครงการฯในระยะที่ 4 (พ.ศ. 2565-2567) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยในครั้งนี้ ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงฯ พร้อมด้วย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่องผู้อำนวยการ วช., Prof. Dr. Kazuya Masu (ศ.ดร.คะซึยะ มาซึ)อธิการบดี Tokyo Tech , รศ.ดร.สมยศ เกียรติวนิชวิไล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. ในฐานะผู้แทนอธิการบดี สจล., รศ.ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดี มจธ., ศ.ดร.พฤทธา ณ นครผู้อำนวยการ SIIT, ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ อธิการบดี มก., ศ.นพ.บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดี มม., และ ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุลผู้อำนวยการ สวทช. ร่วมลงนาม และในโอกาสนี้ Mr. Oba Yuichi, Deputy Chief of Mission อัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ได้ร่วมแสดงความยินดีด้วย
ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัด อว. กล่าวว่า อว. ทำหน้าที่ดูแลนโยบายและดำเนินการทางด้านการอุดมศึกษา การวิจัยและการพัฒนา เพื่อการพัฒนาของชาติและเพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขัน โดยเสริมสร้างการวิจัยและการพัฒนากำลังคนของประเทศให้มีทักษะและความสามารถสูง ผลักดันประเทศสู่ความเป็นThailand 4.0 โดยมีกลไกขับเคลื่อนการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจที่เน้นคุณค่าและเป็นเฟืองสำคัญในการปรับเปลี่ยนสู่ประเทศฐานนวัตกรรม ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง อว. ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนากำลังคนและการสร้างนวัตกรรมเป็นลำดับแรก ในด้านการศึกษา อว. ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเพื่อปรับปรุงหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการของโลกและการพัฒนาประเทศ
ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มีการปรับเปลี่ยนมากมาย โดยเฉพาะการปรับปรุงหลักสูตรในมหาวิทยาลัยรวมถึงการจัดตั้งกองทุนเพื่อสนับสนุนการศึกษา อว. จึงได้พยายามสร้างความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาทั้งไทยและต่างประเทศและหน่วยงานภาคเอกชนเพื่อผลิตกำลังคนที่มีศักยภาพและสอดคล้องกับความต้องการของภาคเอกชน และแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมเป้าหมาย
ปลัด อว. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2565 คณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้อนุมัติข้อเสนอโครงการเพื่อก่อตั้งกองทุนพัฒนาการอุดมศึกษา ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับการขับเคลื่อนการพัฒนากำลังคนและความเป็นเลิศทางวิชาการของประเทศ โดยมีความเป็นไปได้ที่โครงการที่มีความคล้ายคลึงกับ TAIST-Tokyo Tech จะได้รับการสนับสนุนภายใต้ทุนด้านการอุดมศึกษานี้ เมื่อมีการดำเนินการเต็มรูปแบบแล้ว
“ครม.ได้อนุมัติงบประมาณ 143.73 พันล้านบาท ให้ อว. สำหรับปีงบประมาณ 2566 โดย อว. เป็น 1 ใน 6 ของหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณมากที่สุด ประกอบด้วยงบประมาณด้านการอุดมศึกษา 114.63 พันล้านบาท และเป็นงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 29.1 พันล้านบาท โดยมีแนวทางการจัดสรรและบริหารงบประมาณเป็นแบบเงินก้อนและต่อเนื่องหลายปี ซึ่งนับเป็นข่าวดีของแวดวงวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม งบประมาณเหล่านี้จะนำไปใช้เพื่อขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ เช่นการขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ BCG และการสร้างความสามารถในการแข่งขันเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ กล่าว
ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า สวทช. ได้สนับสนุนทุนเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่อาชีพวิจัยให้แก่เด็กและเยาวชนผ่านรูปแบบต่างๆ ได้แก่ โครงการพัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสำหรับเด็กและเยาวชน (JSTP) โครงการทุนสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไทย (TGIST) โครงการสร้างปัญญาวิทย์ ผลิตนักเทคโน (YSTP) โครงการทุนพัฒนาบัณฑิตวิจัยคุณภาพสูงด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่าง สวทช.และมหาวิทยาลัย และโครงการทุนสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงแห่งประเทศไทยและสถาบันเทคโนโลยีแห่งโตเกียว (TAIST-Tokyo Tech) แม้แต่ละโครงการจะมีกลไกที่แตกต่างกันแต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ เพื่อเสริมสร้างกำลังคนทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้แก่ประเทศและโครงการ TAIST-Tokyo Tech เป็นโครงการเดียวที่เป็นหลักสูตรนานาชาติ
สำหรับการดำเนินงานโครงการภายใต้สายงานพัฒนากำลังคนของ สวทช.เป็นที่ยอมรับจากผู้เกี่ยวข้องเพิ่มมากขึ้น เช่น ในปี 2557 นักเรียนทุน สวทช. ซึ่งมีนักศึกษาจากโครงการ TAIST-Tokyo Tech ได้รับเลือกจากกระทรวงการต่างประเทศเพื่อเป็นตัวแทนทูตเยาวชนทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้าร่วมเยี่ยมชมหน่วยงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรวมทั้งศึกษาวัฒนธรรมในหลายประเทศ ได้แก่ จีน อิสราเอล เกาหลี ไต้หวันและญี่ปุ่น นอกจากนี้นักศึกษา TAIST-Tokyo Tech ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการJENESYS 2.0 ซึ่งเป็นโครงการของรัฐบาลญี่ปุ่นสำหรับเยาวชนในเอเชียและภาคพื้นแปซิฟิกเพื่อส่งเสริมความน่าสนใจต่อประเทศญี่ปุ่น
“ในอนาคต คาดหวังอยากเห็นบทบาทของโครงการ TAIST-Tokyo Tech ในการผลิตกำลังคนที่มีคุณภาพระดับสูงเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโครงการยุทธศาสตร์ประเทศ เช่น การพัฒนาเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก และเป็นเรื่องน่ายินดีที่ทุกหลักสูตรภายใต้โครงการ TAIST-Tokyo Tech มีเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกับการพัฒนาเศรษฐกิจ BCG เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้เห็นโครงการ TAIST-Tokyo Tech ประสบความสำเร็จในการพัฒนานักวิจัยและวิศวกรที่มีคุณภาพทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนต่อไป” ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าว
ดร.ชฎามาศ ธุวะเศรษฐกุล รองผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ วช. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่สนับสนุนทุนสำหรับการทำกิจกรรมหรือโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนากำลังคนทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ได้ให้การสนับสนุนงบประมาณซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมการศึกษาและค่าใช้จ่ายรายเดือนสำหรับนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนในแต่ละหลักสูตร และมหาวิทยาลัยไทยร่วมสนับสนุนงบประมาณในบางส่วนสำหรับนักศึกษาในสังกัดมหาวิทยาลัยนั้นๆ Tokyo Tech สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเดินทางของอาจารย์ผู้สอน (ญี่ปุ่น) มายังประเทศไทยสำหรับการสอนและการให้คำปรึกษานักศึกษา สวทช.เป็นผู้บริหารจัดการโครงการในภาพรวมและส่งมอบเงินทุนที่ได้รับจาก วช. ให้แก่มหาวิทยาลัยไทย
โครงการ TAIST-Tokyo Tech ประสบความสำเร็จในการพัฒนาบุคลากรวิจัยและวิศวกรรมระดับปริญญาโทสาขาวิศวกรรมศาสตร์ มากกว่า 460 คน โดยผู้สำเร็จการศึกษาจากโครงการกว่า 60% ทำงานในภาคอุตสาหกรรม 20%ทำงานในองค์กรภาครัฐ และ14%ศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกทั้งในและต่างประเทศ ประกอบกับการที่ วช. ได้เห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาบุคลากรวิจัยและวิศวกรรมทักษะสูง เพื่อรองรับการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมในประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแห่งอนาคต (S-Curve, New S-Curve) และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับ BCG จึงให้การสนับสนุนโครงการ เพื่อดำเนินการต่อในระยะที่ 4 โดยมุ่งเน้นการพัฒนากำลังคนที่มีคุณภาพ มีความรู้ความสามารถและทักษะตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน โดยการสนับสนุนทุนการศึกษา 70 คนต่อรุ่น
นอกจากนี้ โครงการฯ ยังได้สร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการ วิจัย และการจัดการศึกษา ระหว่างหน่วยงานวิจัยคือ สวทช. กับสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศไทย และสถาบันการศึกษาชั้นนำของต่างประเทศคือ Tokyo Tech ซึ่งได้รับการจัดลำดับจาก QS World University Rankings เป็นมหาวิทยาลัยลำดับที่ 3 ของประเทศญี่ปุ่น และ อันดับที่ 56 ของโลกในปี 2564 โดยดึงจุดเด่นของสถาบันการศึกษาทั้งไทยและต่างประเทศที่มีความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมศาสตร์ขั้นสูงมาร่วมกันพัฒนาหลักสูตรควบคู่กับการเรียนรู้และเพิ่มประสบการณ์ทำงานวิจัยอย่างจริงจัง ทำให้สามารถจัดการศึกษาที่มีคุณภาพและมีความเป็นเลิศทางวิชาการในระดับนานาชาติ
โครงการTAIST-Tokyo Tech ได้สร้างบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ เข้าสู่องค์กรต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นการพัฒนาหน่วยงาน สถาบัน และประเทศชาติในอนาคต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี