การทำบุญ ไม่จำเป็นต้องมีเงินทองข้าวของตั้งแสนตั้งล้านมาทำ เราทำด้วยน้ำใจ เรามีมากน้อยทำตามกำลังศรัทธาความสามารถของเรา เช่น ให้ทาน เรามีอะไรเราก็ทาน น้ำใจเป็นสำคัญมาก วัตถุเป็นเครื่องประกอบ ถ้าวัตถุของเราไม่ดีไม่เยี่ยมสมใจที่อยากมี เอ๊า เรามีอะไรก็ทานอันนั้น ด้วยน้ำใจที่รักบุญรักทาน ก็ได้บุญมากเช่นเดียวกัน ข้อสำคัญอยู่ที่น้ำใจ เอ้า วัตถุดีด้วย น้ำใจดีด้วย ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีกและภาวนาพุทฺโธ ธมฺโม สงฺโฆ อย่าละอย่าวาง อยู่ที่ไหนก็นึกพุทโธ ถึงองค์ศาสดาได้ ผลที่ปรากฏขึ้นมาก็คือความรู้ได้แก่ใจของเรานี้เด่นดวง
เราระลึกถึงพระพุทธเจ้าไม่ได้หมายจะเอาความสุขความสบาย ผลประโยชน์อันใดน้อมถวายพระพุทธเจ้า เราระลึกถึงพระพุทธเจ้าคือพุทธะ ก็หมายถึงความระลึกรู้จิตตัวเอง ที่มีอยู่กับตัวเรานี้แลให้เป็นความรู้ที่เด่นดวงขึ้นมา แต่อาศัยพระนามของพระพุทธเจ้า ชื่อของพระพุทธเจ้า เข้ามาบริกรรมภายในจิตใจ ว่าพุทโธๆ เพื่อส่งเสริมจิตของเราต่างหาก เมื่อพุทโธ กับความรู้ของเรากลมกลืนกันอย่างสนิทแล้ว คำว่าพุทโธอันแท้จริง ก็คือความรู้ของเราที่เด่นดวงอยู่ในเวลานั้นนั่นแล อันเป็นผลมาจากการภาวนาพุทโธ นี่ก็เป็นบุญอันหนึ่ง เป็นความผาสุกเย็นใจไม่มีสิ้นสุด ตามแต่ผู้ภาวนาได้มากน้อย ให้พากันบำเพ็ญคุณงามความดีดังที่กล่าวมา ใจจะมีที่ยึดที่เกาะ ใจจะไม่ว้าเหว่เคว้งคว้าง ใจจะมีความสุข ความอบอุ่นประจำตนในที่ทุกสถานตลอดกาลทุกเมื่อ
อย่าตำหนิติเตียนตนเองว่าบุญน้อยวาสนาน้อย ว่าทุกข์ว่าจน คนเราถ้าพูดถึงเรื่องทุกข์แล้ว ทุกข์ด้วยกันทุกคน ทุกๆ คนทั้งคนมีคนจน คนโง่ คนฉลาด เกิดมาทีแรกผ้าผืนหนึ่งก็ไม่ได้ติดตัวมา มีแต่ร่างเปล่าๆ เท่านั้น สิ่งเหล่านี้มีอยู่กับโลก ร่างกายนี้ก็คือธาตุสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ ผสมกันเข้า มีจิตเข้าไปเป็นตัวการยึดครองเป็นเจ้าของ ก็แปรรูปมาเป็นหญิงเป็นชายเป็นสัตว์เป็นบุคคลดังที่เห็นกันอยู่นี่แล เวลาจะตายก็ต้องสละสิ่งเหล่านี้ไว้ตามโลกเดิมธาตุเดิมของเดิมของเขา
สมบัติเงินทองข้าวของมีมากน้อย เสื้อผ้าที่อยู่ที่อาศัยปัจจัยต่างๆ ตลอดร่างกายของเรา ก็ต้องมอบไว้เป็นสมบัติเดิมของโลกไป ใครจะยึดจะถือจะหอบจะแบกจะหามไปด้วยไม่ได้ นอกจากคุณงามความดีที่เราอาศัยสิ่งสมมุติเหล่านี้เป็นเครื่องมือทำไว้ในเวลามีชีวิตอยู่เท่านั้น เช่นอาศัยวัตถุเหล่านี้เป็นทาน อาศัยร่างกายอันนี้บำเพ็ญกุศล ผลที่เกิดขึ้นจากการกระทำด้วยวัตถุใดก็เป็นความดี เป็นบุญหลั่งไหลเข้าไปเป็นสมบัติของใจ สิ่งนี้แลที่จะติดสอยห้อยตามเราจริงๆ คือบุญนี้แล นี้เป็นของแท้ เป็นสมบัติแน่ใจ เป็นสมบัติที่ฝากเป็นฝากตายฝากผีฝากไข้ได้ไม่สงสัย ฉะนั้นจงอย่าได้นอนใจ อย่าได้ตำหนิติเตียนตนว่าเป็นคนทุกข์คนจนแล้วไม่สร้างบุญ จะขาดทุนร่ำไป คนจนนั่นแลสร้างบุญ คนมีนั่นแลสร้างบุญ เพราะต้องการความสุขความเจริญด้วยกัน
พูดถึงเรื่องมี มีด้วยกัน จนด้วยกัน ใครไม่ได้เป็นเศรษฐีมาตั้งแต่อยู่ในท้อง เกิดมาค่อยเป็นเศรษฐี เมื่อมีสมบัติมาก สกุลร่ำรวย วาสนาอำนวย ผู้เป็นคนจนก็ไม่ควรเสียใจ เพราะนั่นเป็นกรรมนิยมต่างๆ กัน สมบัติเกิดมีมากน้อยนั้นแล้วแต่บุญแต่กรรมที่เราเคยสร้างไว้แต่กาลก่อน ไม่ต้องไปตำหนิ ถ้าตำหนิก็ตำหนิเรานี่แหละ การตำหนิเราไม่ใช่ตำหนิเพื่อให้ท้อถอย เช่นสมมุติว่าชาตินี้เรามีวาสนาน้อย เอ้า เราสร้างความดี ไม่มีวัตถุเป็นเครื่องมือที่จะสร้าง ก็ให้สร้างด้วยจิตตภาวนา คือ พุทฺโธ ธมฺโม สงฺโฆ ให้เป็นเครื่องอบอุ่นภายในจิตใจ ก็เรียกว่าคนมีบุญเหมือนกัน เป็นบุญเหมือนกัน เพราะบุญวาสนานั้นเกิดได้หลายทางจากผู้ขวนขวาย เกิดจากการให้ทาน เกิดจากรักษาศีล เกิดจากภาวนา รวมแล้วก็เป็นกองมหากุศลเช่นเดียวกัน จึงสำคัญอยู่ที่การขวนขวาย
......................................
หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด เมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๑๙
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี