เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2565 ณ ศาลาประชาคม บ้านยางคำ หมู่ 4 ต.หนองบ่อ อ.นาแก จ.นครพนม นายฉลอง สูญราช ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านนากุงยางคำ/รองประธานสภาวัฒนธรรมตำบลหนองบ่อ พร้อมพระครูรัตนกิตติญาณ รองเจ้าคณะตำบลฯ/เจ้าอาวาสวัดศรีนครานุรักษ์ บ้านดงบัง หมู่ 3 ต.หนองบ่อ ตลอดจนกลุ่มชาวบ้านให้การต้อนรับ นายคมสิน ศรีมานะศักดิ์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครพนม และคณะในการแนะนำชุมชนท่องเที่ยว พร้อมกระบวนการเรียนรู้ในฐานเรียนรู้ต่างๆในชุมชน อาทิ ฐานเรียนรู้ชุมชน ฐานเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง และฐานเรียนรู้การทำอาหารพื้นถิ่น โดยเฉพาะขนมต้มตดหมา ซึ่งถือเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีมาแต่ครั้งอดีต
นางสุริยาวดี ปิยะราช อายุ 56 ปี หัวหน้ากลุ่มแม่บ้านทำขนมต้มตดหมา เปิดเผยว่าเครือตดหมาเป็นพืชไม้เลื้อยพันหลัก มีทั้งแบบใบเรียวเล็กยาว และใบใหญ่หนา มีชื่ออื่นๆ ที่คนเรียกต่างๆ ไป เช่น เถาตดหมา ตูดหมูตูดหมา กะพังโหม เครือไส้ปลาไหล พบเจอได้ตามหัวไร่ปลายนาหรือในป่า หรือกระทั่งริมถนนเขตชานเมืองซึ่งยังพอมีที่รกร้างอยู่ หากนำใบมาขยี้แล้วลองดมก็จะรู้เลยว่ากลิ่นเหม็นคล้ายตดจริงๆ
ชาวบ้านละแวกนี้ รู้จักการนำเครือตดหมามาทำเป็นขนมนานแล้ว เริ่มจากนำรากมาหั่นเป็นแว่นๆตากแดดไว้ ก่อนจะนำมาต้มได้น้ำเครือตดหมาเป็นสีดำ โดยมีส่วนผสมของแป้งข้าวเหนียว น้ำตาล มะพร้าวทึนทึก และเกลือเล็กน้อย ทั้งหมดนี้ผสมกับน้ำเครือตดหมา คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน แล้วตักใส่ใบตองห่อคล้ายขนมต้มทั่วไป นำไปนึ่งประมาณ 45-60 นาที ก็จะได้ลิ้มรสขนมต้มตดหมาอันแสนโอชา
ส่วนสรรพคุณของเครือตดหมา ช่วยลดความดันโลหิตสูง เบาหวาน และสำคัญว่ากันว่าเป็นยากระตุ้นสมรรถภาพอีกด้วย ซึ่งชาวบ้านนิยมทำขนมต้มตดหมาเฉพาะงานประเพณีสำคัญทางพระพุทธศาสนา แต่ถ้าต้องการลิ้มลองรสชาติ ก็สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 093-5689550 นางสุริยาวดี ปิยะราช หัวหน้ากลุ่มแม่บ้านขนมต้มตดหมา
นอกจากนี้ มีข้อมูลเพิ่มเติมว่า บ้านนาโพธิ์ ต.บ้านผึ้ง อ.เมืองนครพนม อดีตนำเครือตดหมามาใช้แทนใบย่านางในกรณีแกงหน่อไม้ โดยมีรสชาติที่อร่อยไม่แพ้กัน ซึ่งปัจจุบันเครือย่านางมีแพร่หลาย ชาวบ้านจึงหันมาใช้แทนเครือตดหมา
ทั้งนี้ แถบจังหวัดบุรีรัมย์และศรีสะเกษ ขนมตดหมาก็เป็นขนมท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อ เรีนกตามภาษาถิ่นว่าเวือระพอม แต่กรรมวิธีไม่เหมือนกันตรงที่ชาวอีสานใต้บุรีรัมย์และศรีสะเกษนิยมนำมาปิ้ง ขณะที่ทางจังหวัดนครพนมนำมานึ่ง
- 006