นวัตกรรมใหม่!! รักษา'โรคข้อเสื่อม'ไม่ต้อง'ผ่าตัด'

นวัตกรรมใหม่!! รักษา'โรคข้อเสื่อม'ไม่ต้อง'ผ่าตัด'

วันอาทิตย์ ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2565, 19.30 น.

25 ก.ย.65 ที่โรงพยาบาลศูนย์หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นพ.สุนทร  ศรีสุวรรณ์ อาจารย์แพทย์งานศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์  ได้กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างเต็มรูปแบบ โดยโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุเกือบทุกคน  หนึ่งในนั้น คือ โรคข้อเสื่อม  และ "การฉีดน้ำเลี้ยงไขข้อเทียม" เป็นวิธีหนึ่งในการรักษาโรคข้อเสื่อม ซึ่งได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน การฉีดน้ำเลี้ยงไขข้อเทียม" เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่เป็นมาตราฐาน  มีความปลอดภัยสูง อีกทั้งยังให้ผลการรักษาที่ดี ทั้งยังมีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่เชื่อถือได้มากมายทางการแพทย์  วิธีการรักษาแบบนี้สามารถฉีดเพื่อทำการรักษาภาวะข้อเสื่อมได้ทั้ง ข้อเข่า  ข้อไหล่ ข้อเท้า เป็นต้น 

หลักการในการดูแลรักษา คือ ใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ ทำการสังเคราะห์น้ำเลี้ยงไขข้อเทียมโดยให้มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับน้ำเลี้ยงข้อในธรรมชาติ และให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำการฉีดน้ำเลี้ยงไขข้อเทียมดังกล่าวเข้าในข้อเข่าที่เสื่อมสภาพ โดยหวังผลเพิ่มการหล่อลื่นในข้อเข่า ประสิทธิผลที่ได้ คือ ลดแรงกระแทก  ลดการอักเสบภายในข้อ ซึ่งช่วยลดอาการปวดข้อเวลาใช้งาน และอาจช่วยเพิ่มพิสัยการงอเหยียดของข้อได้ดียิ่งขึ้น 


 

 

นอกจากนี้แล้ว ยังมีงานวิจัยในต่างประเทศรองรับด้วยการทดลองทำการฉีดน้ำเลี้ยงไขข้อเทียมในผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมเป็นประจำทุก 6 เดือน หรือทุก 1 ปี ผลจากการทดลองที่ได้คือ ช่วยชะลอความเสื่อมของข้อเข่าในระยะยาว ลดโอกาสการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมโดยไม่จำเป็นในอนาคตอีกด้วย 

ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญมากสำหรับการรักษาด้วยวิธีการฉีดนี้ จะต้องอาศัยทักษะความแม่นยำและมั่นใจว่า น้ำเลี้ยงไขข้อเทียมดังกล่าวได้เข้าไปยังภายในข้อต่อนั้นๆ ที่เป็นจุดบ่งชี้ถึงปัญหาของโรคได้อย่างถูกต้อง มีความแม่นยำเฉพาะจุด 

โดยปกติแล้วทางการแพทย์จะใช้ตำแหน่งทางกายวิภาค ( Anatomical Landmark ) ในการกำหนดจุดฉีดยาเพื่อเข้าข้อต่อที่มีความแม่นยำในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีโอกาสที่ยาอาจจะเข้าไปตรงจุดที่แพทย์ต้องการไม่ได้ ในเทคโนโลยีล่าสุดทางการแพทย์ปัจจุบัน จึงได้มีการนำอัลตร้าซาวนด์ทางกระดูกและข้อ (Musculoskeletal  Ultrasound) มาช่วยนำวิถีในการฉีดยาเข้าข้อต่างๆ ในร่างกาย  ซึ่งวิธีนี้มีประโยชน์ต่างๆ มากมายในการรักษา  อาทิ เช่น 

 



1.ใช้ตรวจประเมินข้อต่อ กล้ามเนื้อ และเส้นเอ็นโดยรอบข้อต่อนั้นๆ  ในเบื้องต้นเพื่อเป็นการแยกโรคอื่นๆ  ที่อาจฉีดน้ำไขข้อเทียมไม่ได้ เช่น  ข้อเข่าอักเสบติดเชื้อ ซึ่งเป็นโรคที่อาจจำเป็นต้องเปลี่ยนวิธีการรักษาไปเป็นการผ่าตัดแทน 

2.ใช้ตรวจประเมินข้อต่อก่อนพิจารณาฉีดน้ำเลี้ยงไขข้อเทียม  โดยปกติบ่อยครั้งมากที่จะพบว่าในกรณีของผู้ป่วยโรคข้อเสื่อมจะตรวจพบว่ามีน้ำที่เกิดจากการอักเสบภายในข้อ หากพบข้อจำกัดเช่นนี้ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องดูดออกก่อนเสมอ  มิเช่นนั้นแล้ว น้ำไขข้อเทียมที่ฉีดเข้าไป จะถูกเจือจางและลดประสิทธิภาพลงโดยไม่จำเป็น 

 



3.ใช้นำวิถีขณะฉีดยา ( Ultrasound Navigation) เพื่อกำหนดจุดฉีด  โดยสามารถสังเกตจากตำแหน่งปลายเข็มฉีดยา และสามารถเห็นตัวยาขณะเดินเข็มฉีดยาได้แบบ Real-time  ทำให้แพทย์สามารถฉีดยาตรงจุดที่มีปัญหาได้อย่างแม่นยำ 

4.ใช้ตรวจประเมินผลหลังฉีดยา โดยสามารถตรวจดูภาวะการอักเสบในข้อ , การทำงานของเส้นเอ็น และกล้ามเนื้อรอบๆ ข้อได้ 

กล่าวโดยสรุปแล้ว  การรักษาโดยการฉีดน้ำเลี้ยงไขข้อเทียมร่วมกับการใช้อัลตร้าซาวน์นำวิถี  จะช่วยให้แพทย์สามารถรักษาได้ตรงจุด และก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เห็นผลในการรักษาได้เป็นอย่างดี. -008 

  

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top