วันศุกร์ ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
สกู๊ปพิเศษ : ‘เลี้ยงผึ้ง’ร้อยเชื่อมชุมชน  ‘อาชีพเสริม’วิถีธรรมชาติ

สกู๊ปพิเศษ : ‘เลี้ยงผึ้ง’ร้อยเชื่อมชุมชน ‘อาชีพเสริม’วิถีธรรมชาติ

วันพฤหัสบดี ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.
Tag :
  •  

“ความเชื่อของเราก็คือว่า คำว่าชุมชนมันจะเป็นฐานที่นำมาสู่การประกอบอาชีพหลายๆ เรื่องที่โดยระบบมันไม่ค่อยให้คุณค่า เพราะการศึกษาที่เป็นอยู่ก็คือเราส่งลูกไปเรียนการศึกษาขั้นพื้นฐานแล้วไปเรียนเพื่อประกอบอาชีพ แล้วก็นำไปสู่การหารายได้ การสร้างอาชีพตัวเอง แต่พอเด็กผ่านระบบการศึกษาไปถึงระดับอุดมศึกษา น้อยคนนักที่กลับมาสู่ฐานชุมชน ซึ่ง ณ วันนี้ ตัวฐานชุมชนที่เป็นแหล่งอาหาร เป็นยารักษาโรค เป็นแหล่งน้ำ

เขาเรียกว่าโลกยังต้องการสิ่งเหล่านี้อยู่ แต่ทุกคนกำลังเป็นการศึกษาที่วิ่งไปหาเงิน แล้วพ่อแม่ผู้ปกครองที่อยู่ในชุมชนก็คิดว่าจะส่งลูกเรียนไปเป็นแบบนี้เพื่อหลีกหนีความเป็นวิถีของตนเอง สิ่งที่เราเชื่อคือโครงการพัฒนาอาชีพโดยใช้ชุมชนเป็นฐานเราจะมาดูฐานชุมชนเหล่านี้เพื่อยกระดับ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันก็เป็นความรู้ทางวิชาการที่ในระบบการศึกษาเขากำลังเรียนรู้อยู่ แต่ว่าเขายังไปไม่ถึง”


สมพงษ์ หลีเคราะห์ หัวหน้าภาคใต้ โครงการพัฒนาอาชีพโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน กล่าวกับคณะสื่อมวลชนและคณะทำงานของ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ซึ่งลงพื้นที่เยี่ยมชม “เครือข่ายคนเลี้ยงผึ้ง อำเภอวิภาวดี จังหวัดสุราษฎร์ธานี” ตามโปรแกรมศึกษาดูงาน จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.นครศรีธรรมราช ช่วงปลายเดือน ก.ย.-ต้นเดือน ต.ค. 2565 ที่ผ่านมา ถึงความพยายามของชุมชนในการจัดการศึกษาโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อให้เกิดการสร้างอาชีพและใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติได้

ซึ่งโครงการพัฒนาอาชีพโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน มีหลักคิดสำคัญคือ “เอาฐานชีวิตเป็นตัวตั้ง” สมพงษ์ ขยายความในส่วนนี้ว่า คนเราวันหนึ่งมีเวลา 24 ชั่วโมง ใน 1 ปีหรือ 365 วัน จะมีเวลาทั้งสิ้น 8,760 ชั่วโมง แต่การศึกษาในโรงเรียนหากเป็นชั้นประถมจะอยู่ที่ประมาณ 800-1,000 ชั่วโมง ส่วนชั้นมัธยมจะอยู่ที่ 1,200 ชั่วโมง จึงเกิดเป็นคำถามว่าเวลาที่เหลืออีกกว่า 7,000 ชั่วโมงเหตุใดจึงไม่นำมาจัดการเรียนรู้ โดยมีพ่อแม่ทำหน้าที่เป็นครู มีชุมชนให้การสนับสนุน และตัวผู้เรียนเองที่ต้องสร้างแรงบันดาลใจขึ้นจากความชอบของตนเอง

สำหรับเครือข่ายคนเลี้ยงผึ้ง อำเภอวิภาวดี จังหวัดสุราษฎร์ธานีนั้น สง่า ทองคำ คณะทำงานเครือข่ายฯ เล่าว่า จุดเริ่มต้นมาจากการวิเคราะห์ “ทุนชุมชน” 4 ด้าน ประกอบด้วย1.คน ชาว อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี ไม่รอให้คนอื่นมาช่วย แต่จะเริ่มช่วยตนเองก่อน 2.เศรษฐกิจ มีกลุ่มอาชีพเสริม 3.ทรัพยากร สภาพธรรมชาติที่มีสามารถบริหารจัดการเพื่อการท่องเที่ยวได้ และ 4.สังคม เป็นเรื่องของการดูแลช่วยเหลือกัน

ไอรดา ม่วงพานิช ผู้บริหารโครงการเครือข่ายคนเลี้ยงผึ้ง อำเภอวิภาวดี จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การทำงานในพื้นที่เป็นความร่วมมือกันทุกฝ่ายทั้งท้องที่ ท้องถิ่น พัฒนาชุมชน กศน. และอีกหลายองค์กรในชุมชน จุดประสงค์เพื่อพัฒนากลุ่มเป้าหมาย ภายใต้โจทย์ “จะลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเสมอภาคได้อย่างไร?” โดยดำเนินโครงการมาแล้ว 3 ปี

วิทยา โสมะเกิด กำนันตำบลตะกุกใต้ อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี เป็นพื้นที่การเกษตร และเป็นพื้นที่ที่คนในชุมชนอยู่อย่างสามัคคี ภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่มมีแม่น้ำคลองยันไหลผ่าน เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงทั้งสวนยาง สวนปาล์ม สวนผลไม้ต่อมาแกนนำในชุมชนได้คิดกันว่าจะทำอะไรเป็นอาชีพเสริม จนมาได้ข้อสรุปกันที่การเลี้ยงผึ้ง

โกมล กุลวงศ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ต.ตะกุกใต้ อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี เล่าว่า โครงการเลี้ยงผึ้งในพื้นที่ อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี ดำเนินการในพื้นที่การเกษตรที่ไม่ใช้สารเคมีเพราะจะเป็นอันตรายต่อผึ้ง หลังพูดคุยกับหนึ่งในแกนนำก็เริ่มทดลองเลี้ยงบ้าง โดยเป็นการเลี้ยงในกล่องจำนวน 7 กล่อง สร้างรายได้ประมาณ 1 หมื่นบาท จึงคิดว่าจะทำอย่างไรให้เกิดการเลี้ยงผึ้งกันอย่างแพร่หลายในหมู่บ้าน

“บังเอิญไปเจอน้องไอรดา พี่สง่า คณะของ กสศ. ก็คุยเรื่องการส่งเสริม แล้วก็ลงมาช่วย ขยายจากหมู่ของผม ขยายไปหมู่ 1 หมู่ 2 หมู่ 3 ตอนนี้ขยายไปทั้งอำเภอ ลามไปยัง อ.ท่าฉาง อีก 1 ตำบล แล้วก็รู้สึกว่าผลตอบรับดีมาก ในเมื่อผลตอบรับดี เราจะทำอย่างไรให้เด็กและเยาวชนที่ขาดโอกาสทางการศึกษา ผมก็ปรึกษากับน้อง วิภาวดีมี กศน. การศึกษานอกระบบ เราก็เข้าไปคุยกับอาจารย์ที่ กสศ. คุยกับพัฒนาชุมชนของอำเภอ ให้ชักชวนน้องๆ เข้ามาศึกษา” ผู้ใหญ่โกมล ระบุ

สมคิด แก้วทิพย์ ผู้จัดการโครงการหนุนเสริมวิชาการและการจัดการความรู้สำหรับการพัฒนาทักษะเยาวชนและแรงงานนอกระบบ กล่าวว่า ความเหลื่อมล้ำเป็นงานที่ยากมากของประเทศไทย โจทย์ใหญ่คือการให้ทุกคนเรียนรู้และสามารถดูแลตนเองได้ ส่วนโจทย์ระยะยาวคือทำอย่างไรทุกคนจะเป็นผู้ที่เรียนรู้ตลอดชีวิต ขยายสู่ครอบครัวและชุมชนแห่งการเรียนรู้ขณะที่หน่วยงานต่างๆ มีโจทย์ว่าจะทำงานร่วมกันได้อย่างไร

“คำว่าบูรณาการมันอยู่ในห้องประชุมมานาน วันนี้ผมมาเห็นตัวแบบของการบูรณาการ เป็นตัวแบบของชีวิตชุมชนที่ลุกขึ้นมาจัดการการเรียนรู้ของตัวเองได้อย่างลงตัว แล้วมันมีชีวิตชีวา ที่ก้าวหน้ามากที่สุดก็คือการเห็นพื้นที่การเรียนรู้ทั้งที่กายภาพอย่างนี้ แล้วที่สำคัญ ที่อื่นที่ทำได้ไม่ค่อยเด่นเท่าที่นี่คือมิติเรื่องสภาองค์กรชุมชน สภาที่เป็นพื้นที่พูดคุย พื้นที่ปรึกษาหารือ พื้นที่นโยบาย น้อยมากที่จะทำได้ดี เดิมทีผมก็คิดว่าแนวคิดสภาองค์กรชุมชนมันล่องลอยไม่สำเร็จ แต่พอมาเห็นที่นี่ผมก็มีคำตอบว่าเขาทำได้ดี

เงื่อนไขอะไรทำให้ที่นี่ทำได้สำเร็จ ผมคิดว่าเครื่องมือการเรียนรู้ร่วมกัน และได้ลองทำ ทำแล้วก็ทบทวนไป แล้วทำมาหลายปีด้วย ปรากฏว่าทำไปๆ เดิมทีใช้ผึ้งเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ ตอนนี้ชุมชนที่นี่มีวิธีคิดแบบผึ้งไปแล้ว นั่นหมายถึงถ้าผึ้งจะอยู่รอดก็ต้องร่วมกันสร้างรวงรัง สะสมสิ่งเล็กสิ่งน้อยจากสิ่งที่ไม่มีค่าให้เป็นมีค่า และเป็นพื้นที่ที่สามารถยึดเหนี่ยว ดึงดูดเอาคนลูกหลาน เอามาทำงานร่วมกัน” สมคิด กล่าว

เพราะการศึกษาไม่ได้ถูกกำหนดตายตัวว่าจะต้องจัดในสถานศึกษาอย่างโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยเท่านั้น แต่ยังมีการศึกษาทางเลือกโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน กลับมาที่ สมพงษ์ ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทบาทของสถานศึกษาไว้ว่า “สถานศึกษาควรออกแบบวิธีการวัดประเมินโดยเชื่อมโยงการศึกษาจากฐานชุมชนเข้ากับกลุ่มสาระการเรียนรู้”(เช่น การพูด การเขียน การนำเสนอ อยู่ในวิชาภาษาไทย) โดยยังมีทักษะอื่นๆ เช่น การคิดคำนวณ การทำงานเป็นทีม ฯลฯ และสุดท้ายคือ “ทัศนคติ (Attitude)” ซึ่งทำให้พฤติกรรมของผู้เรียนค่อยๆ เปลี่ยนไป

“คนไม่เคยกินผักถามว่าอนาคตสุขภาพแบบไหน?แต่ถ้าเขาหันมาปลูกผักแล้วก็เรียนรู้แบบนี้ เขาก็กินผักมันเป็นการสร้างเสริมสุขภาพโดยที่ไม่ต้องใช้ยาในอนาคต”สมพงษ์ ยกตัวอย่างทิ้งท้าย

SCOOP@NAEWNA.COM

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • มองข่าวพิพาท‘ไทย-กัมพูชา’ ‘แรงงานข้ามชาติ’มุมนี้น่าคิด มองข่าวพิพาท‘ไทย-กัมพูชา’ ‘แรงงานข้ามชาติ’มุมนี้น่าคิด
  • อย่าสับสน! ปลาหมอคางดำไม่ใช่มลพิษ อย่าสับสน! ปลาหมอคางดำไม่ใช่มลพิษ
  • 3 โรคยอดฮิตของเด็ก ในช่วงฤดูฝน ผู้ปกครองไม่ควรมองข้าม 3 โรคยอดฮิตของเด็ก ในช่วงฤดูฝน ผู้ปกครองไม่ควรมองข้าม
  • ย้อนวิบากกรรม‘อิ๊งค์’ หยุดปฏิบัติหน้าที่แค่ยกแรก ‘มรสุม’เรื่องร้องรอถล่มอื้อ ย้อนวิบากกรรม‘อิ๊งค์’ หยุดปฏิบัติหน้าที่แค่ยกแรก ‘มรสุม’เรื่องร้องรอถล่มอื้อ
  • สกู๊ปพิเศษ : ถอดแนวคิดความมั่นคงชายแดน จากมุมมอง นักศึกษา ‘วปอ.บอ.’ 4 ด้าน สะท้อนเส้นแบ่งแห่งโอกาสและอนาคตร่วมกัน สกู๊ปพิเศษ : ถอดแนวคิดความมั่นคงชายแดน จากมุมมอง นักศึกษา ‘วปอ.บอ.’ 4 ด้าน สะท้อนเส้นแบ่งแห่งโอกาสและอนาคตร่วมกัน
  • เผยเส้นทางปริศนา\'เจ้าคุณอาชว์\'ลาสิกขาหลังกลับจากเดนมาร์ก ตำรวจยังไร้วี่แววในไทย เผยเส้นทางปริศนา'เจ้าคุณอาชว์'ลาสิกขาหลังกลับจากเดนมาร์ก ตำรวจยังไร้วี่แววในไทย
  •  

Breaking News

(คลิป) ‘ดร.เอ้’เปิดใจ! ลั่นเปลี่ยนเป้าเล่นการเมืองระดับประเทศ

'นฤมล'มั่นใจ แคมป์ ASC 2025 เป็นโอกาสสร้างแรงบันดาลใจด้านวิทยาศาสตร์ให้เด็กไทย

James Alyn ปล่อยอัลบั้มเดี่ยวชุดแรก '2019'ไดอารี่ดนตรีแห่งการเติบโต

(คลิป) ฝากตัวชาว‘วธ.’ ‘อิ๊งค์’ถือฤกษ์ 09.09 น.เข้า‘ก.วัฒนธรรม’วันแรก

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved