วันจันทร์ ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2566
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
'พระพุทธศาสนา'ไม่ใช่เป็นที่มาขอดูดวง ไม่ใช่เป็นที่มาขอสะเดาะเคราะห์

'พระพุทธศาสนา'ไม่ใช่เป็นที่มาขอดูดวง ไม่ใช่เป็นที่มาขอสะเดาะเคราะห์

วันพุธ ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565, 19.09 น.
Tag : พุทโธ ภาวนา ศีล ทาน พระอาจารย์สุชาติ วัดญาณสังวราราม
  •  

"...พระพุทธศาสนาที่พวกเรามีความศรัทธามีความเชื่อ แต่ขอให้เราเชื่อด้วยเหตุด้วยผล เชื่อตามหลักของความเป็นจริง อย่าเชื่อแบบงมงาย การเชื่อแบบงมงายนี้ไม่ได้รับประโยชน์ที่พึงจะได้รับคือการหลุดพ้นจากความทุกข์ ให้เชื่อตามหลักของความเป็นจริง ให้รู้ว่าศาสนาพุทธนี้เป็นสถาบันการศึกษา เป็นที่มาร่ำเรียนวิธีที่จะดับความทุกข์ต่างๆ ที่มีอยู่ในใจให้หมดสิ้นไป

ไม่ใช่เป็นที่มาขอดูดวง ไม่ใช่เป็นที่มาขอสะเดาะเคราะห์ ไม่สบาย อยากจะให้หาย ก็มาหาพระพุทธศาสนา กิจการไม่เจริญก้าวหน้ารุ่งเรือง จะล้มละลาย ก็มาหาพระพุทธศาสนา ลูกออกมาอยากจะให้ลูกเป็นคนดี ก็มาให้โกนหัวให้ ให้ตัดผมให้ ชีวิตไม่ค่อยก้าวหน้ารุ่งเรืองก็มาขออาบน้ำมนต์ เรื่องราวเหล่านี้มันเป็นเรื่องของความงมงาย มันไม่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ไม่ทราบว่ามันเข้ามาได้อย่างไร มันแทรกเข้ามาทีละนิด จนกลายเป็นเนื้อหนังของศาสนาไป พอใครมาสอนว่านี่ไม่ใช่เป็นเรื่องของศาสนา ก็เลยกลายเป็นคนแปลกไป เอ๊ะ พูดอย่างนี้ได้ยังไง ศาสนาเขาทำกันอย่างนี้มาตั้งนาน เขาอาบน้ำมนต์กันมาตั้งนาน เขามาดูดวงกันที่วัด เขามาขอหวยขอเลขกัน ขอพรกัน แต่คนนี้มาบอกว่านี่ไม่ใช่หน้าที่ของศาสนา 


ก็เพราะว่าชาวพุทธเราส่วนใหญ่นี้ไม่ได้ศึกษากันอย่างแท้จริงนั่นเอง เรียนตามปากเปล่าที่เขาเล่ากันมา เขาเล่าว่า อ่ะ ไม่สบายเหรอ ไปวัดไป ไปขอน้ำมนต์หน่อย ไปดูดวงหน่อย อะไรหน่อย ไปแก้สะเดาะเคราะห์หน่อย ไปทำนู่นทำนี่หน่อยแล้วดวงจะดีขึ้น อะไรอย่างนี้ อันนี้ไม่ใช่หน้าที่ของศาสนาเลย มันเลยทำให้ความศักดิ์สิทธิ์หรือความวิเศษของศาสนา กลายเป็นของที่ไม่ศักดิ์สิทธ์ไป เป็นของที่ไม่น่านับถือ ไม่น่าเชื่อถือไป เนี่ยสมัยนี้ เด็กสมัยใหม่มันไม่เชื่อถือศาสนาแล้วนะ มันบอกมันไม่อยากจะมีศาสนา เพราะว่าไม่รู้มีศาสนาไว้ทำอะไร มันบอกว่ามันสามารถทำมาหากินของมันเองได้ เลี้ยงดูตัวมันเองได้ ไม่เห็นจำเป็นจะต้องมีศาสนาเลย ก็เพราะว่าไม่มีใครรู้ละสิว่าศาสนานี้เป็นอะไรกันแน่ คิดว่าศาสนาเป็นที่สะเดาะเคราะห์ เป็นที่ดูดวง เป็นที่อาบน้ำมนต์ อะไรต่างๆ เหล่านี้ จึงไม่มีใครนับถือศาสนากัน เพราะไม่รู้ความเป็นจริงของศาสนาว่า ศาสนานี้เป็นที่รักษาโรคจิตใจ 

ใครมีศาสนานี้ ใครปฏิบัติตามศาสนานี้ได้ รับประกันว่าไม่ฆ่าตัวตายอย่างแน่นอน จะไม่มีอาการซึมเศร้า จะไม่มีอัลไซเมอร์ ไม่มีความหลงความลืมอะไร เพราะศาสนานี้จะสอนให้มีสติตลอดเวลา สอนให้จิตมีความสุขตลอดเวลา จะไม่มีความซึมเศร้า จะไม่มีความรู้สึกว่าจะต้องคิดฆ่าตัวตายกัน แต่ถ้าไม่มีศาสนาเนี่ยเป็นสิ่งที่น่ากลัว ถึงแม้ตอนนี้อาจจะยังไม่ต้องพึ่งศาสนา เพราะตอนนี้ยังไม่มีความทุกข์ 

โดยเฉพาะเวลาที่เป็นหนุ่มเป็นสาวนี่ สามารถทำอะไรตามความอยากความต้องการได้ อยากมีความสุขทางตาหูจมูกลิ้นกายก็มีได้ อยากจะมีแฟนก็มีได้ อยากจะไปเที่ยวที่นั่นที่นี่ก็มีได้ ในตอนที่ยังเป็นหนุ่มเป็นสาวนี้ยังสามารถทำอะไรต่างๆ ได้อยู่ ก็เลยไม่เห็นความจำเป็นของศาสนาว่ามีไว้ทำไม แล้วยิ่งเห็นการปฏิบัติทางศาสนาว่ามีแต่พิธีกรรมอย่างเดียว ก็เลยยิ่งทำให้ไม่มีศรัทธาในศาสนา นี่เป็นเพราะว่าผู้ใหญ่ไม่สั่งสอนเด็ก ให้รู้จักว่าศาสนานี้มีหน้าที่อะไร ทำอะไร มีไว้ทำไม มีเพื่ออะไร เพราะว่าผู้ใหญ่ก็ไม่รู้ ผู้ใหญ่ก็ไม่มีผู้ใหญ่ของเขาสั่งสอนมา ปู่ย่าตายายเขาก็ไม่ได้สั่งสอนให้เขารู้ว่าพระพุทธศาสนานี้ มีหน้าที่ทำอะไรกันแน่ ก็เลยปฏิบัติทำอะไรกันมาตามธรรมเนียมตามประเพณี ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวกับการทำหน้าที่ของศาสนาพุทธเลย ศาสนาพุทธนี้มีหน้าที่สั่งสอน แล้วก็ให้ไปปฏิบัติเพื่อจะได้กำจัดความทุกข์ต่างๆ ให้หมดสิ้นไปจากใจ ถ้าสามารถกำจัดความทุกข์ได้แล้ว ชีวิตจะมีแต่ความสุขตลอดเวลา จะไม่มีความทุกข์อะไรเข้ามาเหยียบย่ำจิตใจเลย..."

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๕ (เพจ พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต) - 003

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ความโกรธไม่ดีเลย! \'ผู้โกรธจะผลาญสิ่งใดสิ่งนั้นทำยากก็เหมือนทำง่าย\' ความโกรธไม่ดีเลย! 'ผู้โกรธจะผลาญสิ่งใดสิ่งนั้นทำยากก็เหมือนทำง่าย'
  • เด็กที่ยังไม่รู้ว่าไฟร้อน ถ้าเชื่อคำสั่งสอนของผู้ใหญ่ไว้ก่อน จะไม่เป็นการเชื่ออย่างงมงาย เด็กที่ยังไม่รู้ว่าไฟร้อน ถ้าเชื่อคำสั่งสอนของผู้ใหญ่ไว้ก่อน จะไม่เป็นการเชื่ออย่างงมงาย
  • \'พระโสดาบัน\' คือผู้ที่ละปล่อยวางกายได้ใช่ไหม? รักสวยรักงามได้ไหม? 'พระโสดาบัน' คือผู้ที่ละปล่อยวางกายได้ใช่ไหม? รักสวยรักงามได้ไหม?
  • \'อยู่อย่างพระ ชนะโลก ไม่โศกศัลย์\' ธรรมะ \'หลวงปู่บุญกู้\' แห่งวัดอโศการาม 'อยู่อย่างพระ ชนะโลก ไม่โศกศัลย์' ธรรมะ 'หลวงปู่บุญกู้' แห่งวัดอโศการาม
  • \'ปัญหาของคนเราทุกวันนี้อยู่ที่อยู่เฉยๆ ไม่ได้\' 'ปัญหาของคนเราทุกวันนี้อยู่ที่อยู่เฉยๆ ไม่ได้'
  • ความแตกต่างระหว่าง \'ใจที่มีสมาธิ\' กับ \'ใจที่ไม่มีสมาธิ\' ความแตกต่างระหว่าง 'ใจที่มีสมาธิ' กับ 'ใจที่ไม่มีสมาธิ'
  •  

Breaking News

สะเทือนวงการ! 'บอม ธนิน'ออกมาแฉเบาๆ ถึงวงการเทนนิสไทย..ดันแต่เด็กเส้น

เร่งหาอีก 2 ราย! นทท.ต่างชาติสูญหายจากเหตุหิมะถล่มในนางาโนะ

ของกินเพียบ!'บ้านฉาง'เปิดงาน'สตรีทฟู้ดแอทหาดพยูน'กระตุ้นการท่องเที่ยว

แบไต๋‘ทักษิณ’ นิสัยถนัดถีบหัวส่ง ‘เสื้อแดง’โดนแล้ว ใครคิวต่อไป

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายประพันธ์ สุขทะใจ ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved