สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ขานรับแคมเปญ “ให้ ฟรี ลด แรงงานสุขใจ” นโยบายมอบของขวัญปีใหม่ 2566 โดยกระทรวงแรงงาน ซึ่ง นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า สปส. ได้ขานรับนโยบายมอบของขวัญปีใหม่ 2566 สำหรับผู้ประกันตน มีดังนี้ 1.ให้!..สินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตนดอกเบี้ยต่ำ ไม่เกินรายละ 2 ล้านบาท วงเงิน 30,000 ล้านบาท โดยร่วมมือกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ เพื่อให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 สามารถใช้สิทธิในการไถ่ถอนจำนองที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงินอื่น และลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่อาศัยในบัญชีเงินกู้ที่กู้อยู่กับธนาคารเดิม
โดยมีวงเงินโครงการ 30,000 ล้านบาท และปล่อยกู้ให้ผู้ประกันตนไม่เกินรายละ 2 ล้านบาท และลดภาระดอกเบี้ยของผู้ประกันตนลดลงตลอดระยะเวลาการกู้ ดังนี้ ปีที่ 1-5 อัตราดอกเบี้ย 1.99% ต่อปี คงที่ 5 ปี ปีที่ 6-8 อัตราดอกเบี้ย MRR-2.00% ต่อปี และปีที่ 9 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ย MRR-0.5% ต่อปีผู้ประกันตนสามารถยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ ตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค. 2565-19 ธ.ค. 2566 หรือจนครบวงเงินที่ได้รับอนุมัติตามโครงการฯ สำหรับคุณสมบัติผู้ขอสินเชื่อ สถานะเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ภายใน 12 เดือน ก่อนเดือนที่เข้าร่วมโครงการฯ
2.ให้!..เข้าถึงการรักษา 5 โรค ตามโรงพยาบาลที่กำหนด สำนักงานประกันสังคม มีแนวคิดการพัฒนาระบบบริการทางการแพทย์ เพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงการรักษา โดยการปรับแนวทางการเข้ารับบริการทางการแพทย์ ให้ผู้ประกันตนที่ป่วยและมีความจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดหรือทำหัตถการ นำร่องในกลุ่มโรคที่มี
ผู้ประกันตน เข้ารับการรักษามากที่สุด เพื่อลดการรอคอยการผ่าตัด ลดระยะเวลาการพักฟื้นซึ่งจะส่งผลให้ผู้ประกันตน สามารถกลับไปทำงานได้อย่างรวดเร็วและดำเนินชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยเชิญชวนโรงพยาบาลที่มีศักยภาพ ตามมาตรฐานที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดทำบันทึกความตกลง เพื่อให้ผู้ประกันตนไม่ต้องรอคอยการผ่าตัด หรือการส่งตัวจากโรงพยาบาลตามสิทธิการรักษา และสำนักงานประกันสังคมจะจ่ายค่าบริการทางการแพทย์โดยตรงกับสถานพยาบาลที่บันทึกความตกลง โดยผู้ประกันตน
ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรับบริการ ถือเป็นแนวทางที่ส่งเสริมและดึงดูดให้สถานพยาบาลที่มีศักยภาพและได้มาตรฐานในการรักษาเข้าร่วมบริการผู้ประกันตน
โดยมีการเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงการรักษาด้วยการผ่าตัดหรือทำหัตถการนำร่องในกลุ่ม 5 โรค ได้แก่ 1.โรคมะเร็งเต้านม 2.ก้อนเนื้อที่มดลูก 3.โรคนิ่วในไตหรือ ถุงน้ำดี 4.โรคหลอดเลือดสมอง และ 5.โรคหัวใจและหลอดเลือด ทั้งนี้ เมื่อดำเนินโครงการแล้ว สำนักงานประกันสังคมจะต้องมีการติดตามและประเมินผล เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดการบริการอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อผู้ประกันตนต่อไป ซึ่งคาดว่า จะมีผู้ประกันตนมาใช้บริการทั้งสิ้นจำนวน 7,500 คน
3.ฟรี..ค้นหาความเสี่ยงโรคหลอดเลือดและโรคหัวใจในสถานประกอบการนำร่อง ใน 7 จังหวัด โครงการดูแลสุขภาพผู้ประกันตนในสถานประกอบการ โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมและดูแลสุขภาพของผู้ประกันตนในเชิงรุก โดยร่วมมือกับสถานประกอบการที่ผู้ประกันตนทำงานอยู่ และสถานพยาบาลในพื้นที่ เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมโรค ค้นหาความเสี่ยงด้านสุขภาวะเพื่อนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมป้องกันการเจ็บป่วย
ลดอาการเจ็บป่วยที่จะส่งผลกระทบต่อการทำงานและคุณภาพชีวิตของผู้ประกันตน เพื่อขับเคลื่อนการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในสถานประกอบการให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพ โดยดำเนินการนำร่องใน 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสมุทรปราการ ชลบุรี นนทบุรี ปทุมธานี ระยอง พระนครศรีอยุธยา และสมุทรสาคร ได้รับการตรวจสุขภาพ โดยใช้โมเดลเชิงรุก ดังนี้ 3.1 เน้นการค้นหาความเสี่ยงโรคหลอดเลือดและหัวใจ 3.2แบ่งกลุ่มตามความเสี่ยง เสี่ยงสูง ปานกลาง และน้อย
3.3 โรงพยาบาลนัดหมายประเมินเรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมรายบุคคลระยะเวลา 6 เดือน และ 3.4 ติดตามผลระบบ Telemedicine และดำเนินการปรับพฤติกรรม มีเป้าหมาย ผู้ประกันตน300,000 คน ได้รับการตรวจสุขภาพเพื่อค้นหาความเสี่ยงด้านสุขภาวะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมป้องกันการเจ็บป่วย เกิดต้นแบบด้านการบริการและป้องกันโรคในสถานประกอบการ โดยสามารถลดค่าใช้จ่ายของผู้ประกันตนต่อหัวเฉลี่ยรายละ 910 บาท (กลุ่มเสี่ยง) 340 บาท(กลุ่มไม่เสี่ยง) วงเงิน 187.50 ล้านบาท
“ในนามของสำนักงานประกันสังคม ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการมอบของขวัญ ปีใหม่ 2566 ในครั้งนี้สำนักงานประกันสังคม จะเป็นส่วนหนึ่งในการได้ดูแลผู้ประกันตน ทุกท่านในทุกช่วงของการเกิดวิกฤตการณ์ ขอให้พี่น้องผู้ประกันตน ลูกจ้าง นายจ้าง รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่เปรียบเสมือนครอบครัวประกันสังคมทุกคน มั่นใจว่า ผมและเจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคมทุกคนทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ
พร้อมมุ่งมั่นทำงานหนัก ทำงานเชิงรุก และต่อเนื่องเพื่อให้สำนักงานประกันสังคม เป็นองค์กรที่ประชาชน ยอมรับเชื่อมั่น ไว้วางใจ ในการสร้างหลักประกัน ความมั่นคงในการดำรงชีวิตแก่ผู้ประกันตน” ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยความห่วงใยและสร้างกำลังใจให้กับผู้ประกันตนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ”นายบุญสงค์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี