สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เชิญชวน “นายจ้าง-ผู้ประกันตน”ลงทะเบียนใช้สิทธิ “เลือกตั้งผู้แทนฝ่ายนายจ้างและผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน” เป็นกรรมการในคณะกรรมการประกันสังคม โดย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจัดการเลือกตั้งผู้แทนฝ่ายนายจ้างและผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตนเ กล่าวเมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2566 ว่า ตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2558 กำหนดให้คณะกรรมการประกันสังคม ซึ่งเป็นผู้แทนฝ่ายนายจ้างและฝ่ายผู้ประกันตน ฝ่ายละ 7 คน มาจากการเลือกตั้ง
โดยกำหนดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง คือ นายจ้าง และผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ซึ่ง คกก.ประกันสังคมที่มาจากการเลือกตั้งนั้น จะมีบทบาทอำนาจหน้าที่ในการเสนอความคิดเห็นต่อรัฐมนตรีเกี่ยวกับนโยบาย พิจารณาให้ความเห็นต่อรัฐมนตรีในการตรากฎหมาย วางระเบียบวาระเกี่ยวกับการรับเงิน การจ่ายเงิน และการเก็บรักษาเงินของกองทุนโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง
วางระเบียบเกี่ยวกับการจัดหาผลประโยชน์ของกองทุนประกันสังคมโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง พิจารณางบดุลและรายงานการรับจ่ายเงินของกองทุนและรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปีของสำนักงานประกันสังคม ให้คำปรึกษาและแนะนำคณะกรรมการ/สำนักงานประกันสังคม ปฏิบัติการอื่นใดตามกฎหมายหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานมอบหมายอีกด้วย
ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคม ได้กำหนด “จัดการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 24 ธ.ค. 2566 เวลา 08.00-16.00 น.” โดย“ผู้ที่จะใช้สิทธิเลือกตั้งต้องลงทะเบียนในวันที่ 12-31 ต.ค. 2566” สามารถลงได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.sso.go.th หรือที่สำนักงานกรุงเทพมหานคร สำนักงานพื้นที่/จังหวัด/สาขาทั่วประเทศ ซึ่ง “คุณสมบัติของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง” แบ่งเป็น“ผู้ประกันตน” คือ 1.เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ที่มีสัญชาติไทย
2.ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนติดต่อกันไม่น้อยกว่า 6 เดือนก่อนเดือนที่มีการประกาศให้มีการเลือกตั้ง (เดือน มี.ค.-ส.ค. 2566) และ 3.จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมไม่น้อยกว่า 3 เดือน (ภายใน 6 เดือนก่อนเดือนที่ประกาศเลือกตั้ง) ขณะที่ในส่วนของ “นายจ้าง” จะต้องเป็นนิติบุคคลผู้จะใช้สิทธิต้องอยู่ในฐานะผู้มีอำนาจ/กรณีเป็นผู้มีอำนาจในนิติบุคคลมากกว่า 1 นิติบุคคลต้องเลือกใช้สิทธิได้เพียงแห่งเดียว
จากนั้น “ในที่ 25-31 ต.ค. 2566 จะเป็นวันสมัครรับเลือกตั้งผู้แทนฝ่ายนายจ้างและผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน” โดยกำหนด “คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้ง” คือ 1.จะต้องมีสัญชาติไทย มีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปีบริบูรณ์ นับถึงวันปิดสมัครรับเลือกตั้ง 2.ส่งเงินสมทบติดต่อกันไม่น้อยกว่า 36 เดือน นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง 3.ไม่เป็นคนวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
4.ไม่เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต 5.ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ 6.ไม่เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติหรือทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ 7.ไม่เคย
ถูกไล่ออก ปลดออกหรือเลิกจ้างจากหน่วยงานของรัฐหรือสถานประกอบกิจการของเอกชนเพราะทุจริตต่อหน้าที่
8.ไม่เป็นคู่สัญญาหรือมีประโยชน์ได้เสียในกิจการที่เป็นคู่สัญญา หรือมีธุรกิจเกี่ยวข้องกับสำนักงานไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม และ 9.ไม่เป็นหรือเคยเป็นข้าราชการการเมืองผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น หรือกรรมการที่ปรึกษาของพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ของพรรคการเมืองเว้นแต่จะได้พ้นจากตำแหน่งดังกล่าวแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี และ“วันที่ 10 พ.ย. 2566 สปส. จะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง” ผ่านทางเว็บไซต์ www.sso.go.th หรือที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด
“ขอเชิญชวนนายจ้าง ผู้ประกันตน ทั่วประเทศลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้ง ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ต.ค. 2566 เพื่อเป็นตัวแทนในการดูแลสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตน และบริหารกองทุนประกันสังคมให้มีเสถียรภาพ อันจะนำไปสู่การยกระดับพัฒนาคุณภาพชีวิตของนายจ้าง ผู้ประกันตน สามารถสอบถามรายละเอียด และคำแนะนำในการจัดการเลือกตั้งเพิ่มเติม ได้ที่ ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งผู้แทนฝ่ายนายจ้างและผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตนเป็นกรรมการในคณะกรรมการประกันสังคม (ศอ.กต.นจ.ผปต.) โทร. 02-9562222ในวันและเวลาราชการ” นายบุญสงค์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี