ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าผิดหวัง 5 พรรคการเมืองไม่ฟังเสียงประชาชน เชื่อประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินจากความล้มเหลวการแบนบุหรี่ไฟฟ้า
7 มี.ค.2566 เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าผิดหวัง “สธ” อ้างข้อมูลบุหรี่ไฟฟ้าเพียงด้านเดียวสวนทาง 70 ทั่วโลก แนะทุกพรรคการเมือง “อย่าฟังความข้างเดียว” ให้ศึกษาข้อมูลหน่วยงานสาธารณสุขต่างประเทศบ้าง กร้าว 5 พรรคการเมืองที่ประกาศปิดประตูบุหรี่ไฟฟ้า เท่ากับไม่รับฟังเสียงคนสูบบุหรี่และใช้บุหรี่ไฟฟ้ากว่า 10 ล้านคนทั่วประเทศเชื่อประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน
นายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า กลุ่มลาขาดควันยาสูบ เผยภายหลังการรายงานข่าวมหกรรมวิชาการคลินิกฟ้าใส ครั้งที่ 13 ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานกล่าวเปิด พร้อมย้ำว่ายังไม่มีนโยบายให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมายว่า “น่าผิดหวังที่กระทรวงสาธารณสุขยอมให้เครือข่ายหมอเอ็นจีโอบางกลุ่มครอบงำการกำหนดนโยบาย และไม่ยอมศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งในอีก 70 กว่าประเทศให้เป็นสินค้าทดแทนการสูบบุหรี่ เพราะมีสารพิษน้อยกว่าบุหรี่มวน กรมควบคุมโรคของสหรัฐอเมริกา อย.สหรัฐอเมริกา หรือกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษ กระทรวงสาธารณสุขนิวซีแลนด์ก็ยังออกมาให้ข้อมูลประชาชนอย่างรอบด้าน พร้อมสนับสนุนผู้ที่ยังเลิกสูบบุหรี่ไม่ได้ให้หันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีการเผาไหม้แทน แต่ สธ. ไทยกลับยังคงให้ข้อมูลด้านเดียวกับประชาชนต่อไป”
นายมาริษ ยังกล่าวต่อว่า “5 พรรคการเมืองที่ออกมารับลูกเรื่องนี้ และคัดค้านการทำให้บุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย อ้างว่าต้องการช่วยให้คนสูบบุหรี่ลดลง อยากจะถามกลับไปว่านโยบายแบบเดิมๆ ที่นำเสนอมาช่วยให้คนเลิกบุหรี่หรือความอันตรายจากบุหรี่ได้จริงหรือไม่ เพราะถ้ามันมีประสิทธิภาพจริงๆ ทำไมจำนวนคนสูบบุหรี่ในบ้านเราถึงอยู่เกือบเท่าเดิมมาตลอดหลาย 10 ปี ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ที่บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย เช่น อังกฤษ หรือ นิวซีแลนด์ จำนวนผู้สูบบุหรี่ในประเทศของเขาลดลงได้อย่างมีนัยสำคัญ และการแบนบุหรี่ไฟฟ้าป้องกันเยาวชนได้จริงหรือ ทำไมเห็นออกข่าวว่าเยาวชนใช้กันมากมาย เพราะมันลักลอบซื้อขายใต้ดิน ในขณะที่บุหรี่มวนเรากลับออกกฎหมายควบคุมได้ถ้าแบนแล้วดีจริงแล้วทำไมคนใช้กันเต็มบ้านเต็มเมือง ถ้ากฎหมายมันใช้ไม่ได้จริง ก็ต้องมาทบทวนกันใหม่เพราะกฎหมายก็เขียนโดยคน”
“พรรคการเมืองที่นำเสนอนโยบายแบบเก่าๆ ไม่มีการพัฒนาให้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่หรือนวัตกรรมที่ก้าวไปข้างนี้ หากได้รับการเลือกตั้งเข้ามา ประเทศชาติก็คงจะเดินไปข้างหน้าไม่ได้แน่นอนแถมยังมีส่วนทำให้คนไทยต้องเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ทางอ้อมเพราะไม่ให้เขามีทางเลือกอื่นอีกด้วยนอกจากรับสารพิษจำนวนมากจากบุหรี่มวนต่อไป”
ด้านนายอาสา ศาลิคุปต ตัวแทน ECST อีกรายเสริมว่า “เราทราบว่ามียังมีหลายพรรคการเมืองที่สนใจจะนำเรื่องการปลดล็อคบุหรี่ไฟฟ้ามาเป็นนโยบายและพร้อมช่วยผลันดันเพื่อดูแลสุขภาพของผู้สูบบุหรี่ 10 ล้านคน และคนรอบข้างที่ต้องได้รับควันมือสองอีกกว่า 15 ล้านคน ซึ่งเราเชื่อว่าคนกลุ่มนี้พร้อมจะเทคะแนนให้พรรคการเมืองและผู้สมัครที่รับฟังและเข้าใจในความต้องการของพวกเรา”
ด้านชาวโซเชียลต่างพากันวิจารณ์กฎหมายการแบนบุหรี่ไฟฟ้าว่า "แบนเพราะอยากปกป้องเยาวชน แต่ทุกวันนี้ที่แบนอยู่ปกป้องได้มั้ย" "ย้อนแย้งได้โล่ห์ ดัดจริตที่หนึ่ง ตามโลกไม่ทันสักเรื่อง บุหรี่ไฟฟ้าก็เช่นกัน"หรือเปรียบเทียบกรณีบุหรี่ไฟฟ้ากับกฎหมายกัญชาและกระท่อม "อยู่ประเทศดัดจริตชีวิตต้องดูดกัญชา ซดน้ำท่อม แต่ห้ามสูบบุหรี่ไฟฟ้านะ" รวมถึงความเชื่อมโยงระหว่างพรรคการเมืองและกฎหมายบุหรี่ไฟฟ้า "พรรคที่อยากให้แบนต่อไปคืออยากให้ทุจริตต่อ?"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี