วันจันทร์ ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
เพิ่งผ่านพ้นวัน “ฮาโลวีน” หรือเทศกาลปล่อยผีของฝรั่งไปหมาดๆ ตำนานว่าไว้เป็นการเฉลิมฉลองปล่อยปีไม่ให้ออกมาทำร้ายประชาชน แต่ถ้าพูดถึง “ผีบุหรี่-บุหรี่ไฟฟ้า” อันนี้ร้ายยิ่งกว่าร้าย อย่าได้ปล่อยให้ออกมาอาละวาด เพราะสุดท้ายจะนำไปสู่ความตาย แถมยังเจ็บป่วยได้รับความทรมานก่อนสิ้นลม
ดังนั้น ทาง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงได้ร่วมกับ เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง สำนักป้องกันและบำบัดการติดยาเสพติด สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร มูลนิธิเด็ก เยาวชน และครอบครัว จัดกิจกรรมรณรงค์เทศกาลฮาโลวีนประจำปี 2568 Active Youth “Halloween city หยุดผีบุหรี่ไฟฟ้า” เพื่อสร้างความตระหนัก และลดการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็กและเยาวชน โดยก่อนเริ่มกิจกรรมภาคีเครือข่ายซึ่งสวมชุดดำได้ร่วมยืนสงบนิ่ง แสดงความอาลัยถวายแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สสส. เปิดเผยว่า ไทยเผชิญปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้า ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ล่าสุด ปี 2567 พบคนไทยสูบบุหรี่ไฟฟ้าสูงขึ้น 11.44 เท่า จากปี 2564 ที่มีผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้า 78,742 คน เพิ่มเป็น 900,459 คน ในปี 2567 เป็นกลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 15-24 ปี มากถึง 251,625 คน
ขณะนี้มีบุหรี่ไฟฟ้ารูปแบบใหม่ พร้อมใช้กลยุทธ์การตลาดผ่านสื่อออนไลน์ เข้าถึงและจูงใจให้เยาวชนอยากลองใช้ 1.ทอยพอด บุหรี่ไฟฟ้ารูปลักษณ์คล้ายของเล่น หรือตุ๊กตา 2.พอดจมูก สูบผ่านจมูกคล้ายยาดม 3.นิโคตินพาวช์ (Nicotine Pouch) หรือถุงซองนิโคติน ใช้เหน็บไว้ระหว่างเหงือกกับริมฝีปาก 4.พอดเค บุหรี่ไฟฟ้าแปลงร่างเป็นยาเสพติด ที่เปลี่ยนหัวพอดเป็นน้ำยาผสมเคตามีน หรือยาสลบ สูบแล้วเคลิ้มฝัน เมา มีผลกระทบต่อสุขภาพรุนแรง เช่น ประสาทหลอน นำไปสู่โรคจิตเภท ทำให้กล้ามเนื้อขาดออกซิเจน อาจหมดสติ และเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ สารนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตราย ส่งผลต่อพัฒนาการสมอง เพิ่มความเสี่ยงโรคปอดอักเสบรุนแรง และภาวะซึมเศร้า
“การระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า ถือเป็นสถานการณ์เร่งด่วนที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันสร้างการรับรู้ให้เด็กและเยาวชนตระหนักถึงอันตรายและรู้เท่าทันบุหรี่ไฟฟ้า สามารถปฏิเสธสิ่งยั่วยุได้อย่างมั่นใจ สสส. จึงหนุนเสริมและสานพลังภาคีเครือข่าย ขับเคลื่อนป้องกันและลดการสูบบุหรี่ทุกชนิด โดยจัดกิจกรรมรณรงค์อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ในครั้งนี้ใช้เทศกาลฮาโลวีน ซึ่งอยู่ในความสนใจของเด็กและเยาวชน เป็นเวทีสื่อสารสร้างสรรค์ สร้างการรับรู้เท่าทันบุหรี่ไฟฟ้า สะท้อนผลกระทบและความสูญเสีย เจาะลึกผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ พร้อมสร้างแกนนำเยาวชนเพื่อหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในโรงเรียน เพื่อร่วมสร้างสรรค์สังคมไทยปลอดบุหรี่ไฟฟ้าอย่างยั่งยืน ซึ่งในวันนี้จะมีการจัดกิจกรรมขึ้นใน 18 จังหวัดทั่วทุกภาค โดยเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน (ขสย.) และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ อาทิ จ.พิษณุโลก จ.พะเยา จ.อำนาจเจริญ จ.สกลนคร จ.สงขลา และ จ.นครศรีธรรมราช”
.jpg)
ขณะที่ นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อำนวยการสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค 3 สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ระบุว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นเรื่องใหญ่ที่ทุกหน่วยงานทั้ง สสส. บุคลากรการแพทย์ หน่วยงานภาครัฐ สคบ.ในฐานะที่เป็นเจ้าของกฎหมายห้ามผลิต นำเข้า จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเป็นสินค้าที่กระทบสิทธิผู้บริโภคแน่นอน ทำลายสุขภาพทั้งคนสูบ และคนที่ไม่ได้สูบ จึงเป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาล และทุกภาคส่วนที่ต้องเร่งป้องกันปราบปราม ให้ความรู้เกี่ยวกับโทษของบุหรี่ไฟฟ้า
“ทุกวันนี้เราต้องต่อสู้กับข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือนจากคนขาย หรือสนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้า อ้างว่าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวน รวมถึงตัวผลิตภัณฑ์ที่เปลี่ยนมาเป็นแบบเล็กๆ พกง่าย ดังนั้น เราต้องเติมความรู้เหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงสกัดกั้น บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด”
ที่ผ่านมา สคบ.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าจนถึงปัจจุบันมีประมาณ 200 กว่าคดี คิดเป็นมูลค่าของกลางพันกว่าล้านบาท ทั้งนี้ สถานการณ์การขายตอนนี้อาจจะดีขึ้นกว่าแต่ก่อน ในแง่ว่าไม่มีการซื้อขายหน้าร้านที่เด็กเข้าถึงง่าย แต่มีการหลบไปขายผ่านออนไลน์ ซึ่งเยอะขึ้นและเป็นเรื่องยากในการไล่ตรวจจับ โดยเฉพาะช่องทางต่างประเทศเพราะเราไปใช้อำนาจสั่งปิดยาก ต้องขออนุญาตหลายขั้นตอน ตรงนี้เราพยายามคุยกับหลายภาคส่วนเพื่อขอความร่วมมือในการสกัดกั้น เช่น บริษัทขนส่ง และคุยแพลตฟอร์มตลาดออนไลน์ ในการปิดกั้นการขายบุหรี่ไฟฟ้า
“บุหรี่ไฟฟ้านี่หลอกคนยิ่งกว่าผีอีก ผีหลอกเรายังมีชีวิตอยู่ต่อได้ แต่บุหรี่ไฟฟ้าถ้าไปเชื่อคนที่หลอกเราว่าดีนั้น มีแต่ทำลายสุขภาพเราลงไปเรื่อยๆ ดังนั้น ไม่ควรไปแตะต้องมันเลย ใครที่สูบอยู่นั้นหากเลิกได้ก็เลิกเสีย ตอนนี้ปัญหาสุขภาพมีมาก สามารถสืบค้นได้ง่าย แต่การเลือกเสพสื่อ ควรเสพในสิ่งที่เป็นประโยชน์ เพราะการสื่อสารบางอย่างออกมาจากคนที่มีผลประโยชน์แอบแฝง ซึ่งก็จะสื่อสารไปอีกมิติ”
.jpg)
นางสาวศุภัคชญา สุขใบเย็น หรือ วันเดอร์เฟรม แร็พเปอร์ นักร้อง และนักแต่งเพลง ระบุว่า บุหรี่ไฟฟ้ามันอาจดูเท่ในสายตาหลายคน แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นของที่ “หลอกเราให้ชินกับสิ่งที่ทำร้ายตัวเอง” มากกว่า มันทำให้คนรู้สึกว่าไม่อันตราย แต่ในความจริงมันยังมีนิโคตินและสารเคมีหมือนเดิม แค่กลบกลิ่นไว้ให้ดูน่ารักขึ้น ซึ่งอันตรายของมันไม่ได้ลดลงเลย การเป็นศิลปินเฟรมรู้ว่าภาพเรามีผลต่อคนดู โดยเฉพาะเด็กๆ เพราะฉะนั้นเฟรมอยากใช้ภาพนั้นส่งต่อสิ่งที่ดีมากกว่าการทำร้ายตัวเองในรูปแบบที่ดูแฟชั่น
“ตอนนี้เด็กเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าได้ง่ายมาก มันมีสี กลิ่น และดีไซน์ที่จงใจให้ดูเหมือนไม่อันตราย เหมือนขนมหรือของเล่น แต่จริงๆ แล้วมันกำลังทำลายสุขภาพตั้งแต่อายุยังน้อย แล้วก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเสพติดอย่างอื่นได้ด้วย ที่น่ากลัวคือเด็กบางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสูบนิโคตินในระดับสูงมากอยู่ เพราะมันมีกลิ่นผลไม้ กลิ่นหวานๆ หลอกให้รู้สึกว่าปลอดภัย”
ทั้งนี้ มีคนใกล้ชิดที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าเช่นกัน หลายคนคิดว่ามันปลอดภัยกว่า หรือช่วยคลายเครียด แต่พออยู่ใกล้ๆ ไปนานๆ เฟรมรู้เลยว่ามันส่งผลกับอารมณ์และพลังงานของคนคนนั้นจริงๆ เขาจะหงุดหงิดง่าย สมาธิสั้น หรือบางครั้งดูเหนื่อยตลอดเวลา เฟรมว่ามันทำให้คนเสียบาลานซ์ ทั้งทางกายและใจ
“เฟรม” ฝากย้ำไปถึงเด็กเยาวชนว่า “อย่าให้สิ่งของแค่นี้มาทำให้เราดูเท่” เพราะความเท่จริงๆ มันคือการควบคุมตัวเองได้ ไม่ใช่การต้องพึ่งอะไรเลยเพื่อให้รู้สึกดีขึ้น ถ้าอยากดูเท่ อยากดูมีพลัง ใช้ความสามารถ ใช้ความฝันของเราเถอะ มันเท่กว่าการพ่นควันเยอะเลย และถ้าใครกำลังพยายามเลิกอยู่ อยากบอกว่าไม่ต้องอายที่จะเริ่มใหม่ ทุกคนล้มได้แต่ลุกให้ได้ก็พอ
.jpg)
ด้าน น้องเอ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี กล่าวว่า เริ่มสูบบุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่อายุ 15 ปี เพราะเห็นว่าเป็นของใหม่ จึงอยากรู้อยากลอง โดยซื้อจากร้านใกล้บ้าน และเริ่มติดรสชาติของบุหรี่ไฟฟ้า หลังจากสูบได้ไม่นานก็เริ่มใช้ชีวิตลำบาก หายใจไม่สะดวก เจ็บหน้าอก ไอ บางครั้งมีเลือดปนออกมา และเหนื่อยง่าย ซึ่งช่วงก่อนสูบบุหรี่ไฟฟ้าไม่เคยมีอาการเหล่านี้ แต่พอสูบแล้วเจ็บหน้าอกเหมือนถูกทุบ จึงไปตรวจ คุณหมอได้อธิบายว่าสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ตนรู้สึกกลัวจนตั้งใจจะเลิกให้ได้
“ขอส่งกำลังใจให้ทุกคนที่อยากจะเลิกเพราะรู้ว่าต้องใช้ความพยายามอย่างมาก กำลังใจจากคนรอบข้าง คนในครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ เชื่อว่าหากตั้งใจจริงก็จะสามารถเลิกได้อย่างแน่นอน เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเราเองด้วยตอนนี้เลิกมาได้หนึ่งปีแล้ว ชีวิตดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คนรอบข้างก็ไม่ต้องมารับพิษภัยจากควันบุหรี่ไฟฟ้าเพราะเราด้วย”
เอาเป็นว่า เห็นกันชัดแล้วว่า ภัยจากผีบุหรี่ไฟฟ้ามันร้ายแค่ไหน เป็นไปได้ช่วยกันจับใส่หม้อถ่วงน้ำ อย่าให้มาอยู่ในสังคมแล้วคอยกัดเซาะสุขภาพของคนสูบ คนไม่สูบได้อีก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี