“ปีแรกที่อาตมาเดินเท้าในโครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา อาตมาไม่เคยลำบากมาก่อน เพราะพ่อเลี้ยงอย่างดี ไม่เคยให้ลำบาก เมื่อเรียนจบก็รับราชการ ต่อมาได้ลาออกมาเพื่ออุปสมบท และ พอมีโอกาสบวชอยู่ที่ลาว สักพักก็ได้ยินข่าวว่า มีโครงการที่นำพระสงฆ์ไปเดินเท้าที่ประเทศไทย,อินเดีย และ เนปาล จึงมาสมัคร ซึ่งปีแรกนั้น อาตมาเดินวันแรก อาตมาร้องไห้คิดถึงพ่อ เพราะวันนั้นพ่ออาตมาเสียชีวิตแล้ว อาตมาก็คิดว่า การเดินทุกก้าวที่ผ่านความยากลำบาก ก็ต้องการให้เป็นบุญอุทิศให้กับพ่อ และ คิดถึงตอนที่ท่านมีชีวิตอยู่ว่า ตอนนั้นไม่ได้ทำหน้าที่ตอบแทนดูแลท่านอย่างเต็มที่” นี่คือคำบอกเล่าของพระอาจารย์คำมั่น คมฺภีรปัญฺโญ ที่เล่าด้วยเสียงเครือและน้ำตาคลอด้วยความปีติใจระหว่างที่นั่งอยู่ในพื้นที่พุทธคยาเจดีย์ เมืองคยา ประเทศอินเดีย
“พระอาจารย์คำมั่น คมฺภีรปัญโญ” เป็นพระชาวเวียงจันทน์ ประเทศลาว ปัจจุบันอายุ 31 ปี อายุพรรษา 8 พรรษา โดยเข้าร่วมโครงการจาริกธรรมฯมา 4 ปีแล้ว และ อุทิศชีวิตเพื่อพระพุทธศาสนา ซึ่งมีโครงการจาริกธรรมฯเป็นแรงบันดาลใจให้ปัจจุบันยังทำหน้าที่ “พระสงฆ์” เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา และ อุทิศกายและใจเพื่อถวายงานแด่พระครูธีรธรรมปราโมทย์ หรือ หลวงพ่อสำเริง ธมฺมธีโร เจ้าอาวาส วัดดอยเทพนิมิต ตำบลป่าซาง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย และในฐานะประธาน “โครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา” โดยนำพาคณะสงฆ์ที่ประเทศลาวเข้าร่วมโครงการทุกปี และเมื่อพระสงฆ์ชาวลาวเข้าร่วมโครงการเรียบร้อยแล้วในแต่ละปี ได้กลับไปทำหน้าที่อย่างงดงาม ด้วยการพลิกฟื้นวัดร้างในลาวให้กลับมามีชีวิตใหม่ ซึ่งเดิมเฉพาะในเมืองเวียงจันทน์ ประเทศลาว มีวัดร้างถึง 113 วัด
แต่เมื่อพระสงฆ์ในโครงการจาริกธรรมฯกลับไปยังถิ่นฐานบ้านเกิด ได้เนรมิตวัดร้างถึง 49 วัด ให้เป็นวัดที่มีพระสงฆ์ประจำวัด บางรูปกลับไปเป็นเจ้าอาวาส เป็นผู้นำฆราวาสทำงานพระพุทธศาสนา ทั้งในวันสำคัญต่างๆ และ วันธรรมดาที่จะต้องมีกิจของสงฆ์ในการสืบทอดงานด้านพระพุทธศาสนา เช่น บิณฑบาต , ทำวัตรเช้าและเย็น , สวดมนต์บำเพ็ญจิตตภาวนา เดินจงกรม นั่งสมาธิ และ ฯลฯ
ที่ผ่านมา มีพระสงฆ์ชาวลาวเข้าร่วม "โครงการตามรอยบาทพระศาดา" ตั้งแต่ครั้งที่ 5-9 จำนวน 194 รูป และพระอาจารย์คำมั่นฯตั้งใจจะไปจาริกธรรมที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงเข้าพรรษาปีนี้
ปัจจุบัน “พระอาจารย์คำมั่น” ตั้งใจทำหน้าที่เป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยนาลันทา เมืองนาลันทา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย โดยจะต้องศึกษาทั้งภาษาบาลี, ภาษาสันสกฤต, ฮินดี, อังกฤษ และ ข้อกฎหมายที่ทางพุทธศาสนาที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชาวอินเดียและกฎหมายของประเทศอินเดีย
รวมทั้งเป็นผู้ประสานงานให้กับโครงการจาริกธรรมฯ ในการให้ “วัดลาวอินเตอร์เนชั่นแนล” (WAT LAO INTERNATIONAL BODHGAYA) ประเทศอินเดียเป็นเสมือนกองทัพหนุนให้กับ “โครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา” ในประเทศอินเดียและเนปาล เพื่ออุปัฏฐากดูแลคณะสงฆ์ ทั้งในเรื่องอาหาร และ เรื่องต่างๆที่ขาดแคลนในระหว่างการเดินเท้าในอินเดียและเนปาล
“โครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา” ดำเนินงานเข้าสู่ปีที่ 9 จึงมีผลลัพธ์ของโครงการที่เห็นเป็นรูปธรรม โดยสามารถผลิตพระสงฆ์ หรือ ปั้นพระสงฆ์ใจเพ็ชรให้มีกำลังใจอยู่ต่อในบวรพระพุทธศาสนา ด้วยหัวใจที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง เพื่อบำเพ็ญขันติบารมีและวิริยะบารมีอย่างอาจหาญแกล้วกล้า โดยขันติธรรมและวิริยะบารมีนี้เปรียบเสมือนกำแพงหินอันงดงามที่เป็นเกราะป้องกันภัยให้พระสงฆ์รอดพ้นจากหมู่มารที่ต้องการทำลายพระสงฆ์ในทุกรูปแบบ
ขอบคุณภาพ : ทีมงานโครงการ “จาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา ครั้งที่ 9”