ชำแหละชัดๆหมูเถื่อน!‘ชัชวาล’เปิดข้อมูลสุดอึ้ง ส่อลอบนำเข้าสุกร‘ขยะ’
6 ธ.ค. 2566 นายชัชวาล แพทยาไทย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย กล่าวในรายการ “แนวหน้าTalk” ทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” ซึ่งมี นายปรเมษฐ์ ภู่โต เป็นพิธีกร ในประเด็นการระบาดของเนื้อหมูเถื่อนที่ถูกลักลอบนำเข้ามาในประเทศไทย ว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นเพียง 1-2 ปีล่าสุด แต่มีมาตลอด เพียงแต่ช่วงปี 2564-2565 ที่ดูเหมือนมีจำนวนมากเพราะมีการตรวจจับ
แน่นอนว่า การนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนมีต้นทุนที่ถูกกว่า เพราะหากเนื้อหมูที่ผลิตในประเทศถูกกว่าก็จะไม่มีเนื้อหมูเถื่อนข้ามน้ำข้ามทะเลเข้ามา อย่างที่ตนเคยตรวจเจอคือหมูมาจากประเทศบราซิล ซึ่งเนื้อหมูชั่งหน้าฟาร์มที่นั่นอาจอยู่ที่ประมาณ 40 บาทต่อกิโลกรัม ในขณะที่เนื้อหมูที่ผลิตในไทยอยู่ที่ 60-65 บาทต่อกิโลกรัม ตรงนี้อาจมีคำถามว่า เมื่อบวกต้นทุนค่าขนส่งไปจนถึงการจ่ายเงินนอกระบบเพื่อนำตู้สินค้าออกมาจะคุ้มค่าจริงหรือ ซึ่งตนก็มองว่ากระบวนการนี้คงไม่ได้ทำให้ร่ำรวยมากเท่าใดนัก เว้นแต่ที่จะมีเนื้อหมูที่ไม่มีคุณภาพถูกนำเข้ามาด้วย
“ข้อน่าสังเกตที่ผมกำลังคิดอยู่นี้ หมูที่นำเข้ามาไม่ใช่แค่หมูเถื่อนอย่างเดียว มันเป็นหมูขยะ หมูที่เขาจะทิ้ง หมูที่ไม่มีใครต้องการ แน่นอนมันต้องมี ไม่เช่นนั้นไม่มีแรงจูงใจที่จะนำเข้ามาขนาดนี้ ถ้าเราลองมาคิดดู ถ้าต้นทุนหมูในประเทศอยู่ที่ 60 บาทต่อกิโลกรัม พวกนี้ต้องต่ำกว่าครึ่ง ก็คือ 30 บาท ต้องต่ำไปกว่านั้นอีก มันต้องเป็นหมูประเภทนั้น เพราะอย่าลืมว่าหมูเป็นสินค้ามีชีวิต มีอายุ อายุมันไม่ได้มาตรฐานในบางประเภท อาจจะรวบรวมกันมาแล้วก็มาเข้าที่ประเทศไทยเรา” นายชัชวาล กล่าว
นายชัชวาล กล่าวต่อไปว่า ในช่วงที่เริ่มมีข่าวเนื้อหมูเถื่อนระบาด เป็นช่วงคาบเกี่ยวกับที่เกิดสถานการณ์การระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะผู้ผลิตรายใหญ่อย่างประเทศจีน ซึ่งตอนแรกอาจมีความพยายามนำเนื้อหมูประเภทนี้เข้าจีน แต่เมื่อจีนสามารถแก้ปัญหาในชาติตนเองได้ เนื้อหมูนี้ที่ยังค้างอยู่จึงอาจเบนเป้าหมายถูกนำเข้ามาในประเทศไทย นอกจากนั้นยังมีข่าวว่า มีความพยายามให้กระจายเนื้อหมูออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านด้วย สะท้อนว่าไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการกระจายสินค้าในภูมิภาคนี้
นายชัชวาล ระบุว่า ในฐานะที่ตนป็นกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร พบว่าเรื่องเนื้อหมูมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมเจ้าท่า เพราะเนื้อหมูส่วนใหญ่ถูกขนส่งมาทางเรือเนื่องจากต้นทุนค่าขนส่งที่ถูกกว่าทางบกหรือทางอากาศ ต่อมาเป็น กรมศุลกากร ที่ต้องดูการสำแดงสินค้าว่าเป็นอะไร ซึ่งเมื่อลักลอบนำเข้าสิ่งใดก็จะไม่สำแดงว่าเป็นสิ่งนั้น เช่น ตามที่มีข่าวว่าลักลอบนำเข้าเนื้อหมูแต่สำแดงว่าเป็นหัวปลาแซลมอนหรือวัสดุโพลิเมอร์ เพราะสินค้า 2 ประเภทนี้ต้องเก็บในสภาพแช่เย็นตลอดจึงไม่เป็นที่น่าสงสัย
นอกจากนี้ หากสำแดงว่าเป็นหัวปลาแซลมอนก็จะต้องเป็นหน้าที่ของ กรมประมง ในการตรวจสินค้าก่อนปล่อย หรือหากสำแดงว่าเป็นหมู การตรวจสอบก็ยิ่งซับซ้อนขึ้นไปอีก เช่น หากสำแดงเป็นซากหมูก็เป็นหน้าที่ของ กรมปศุสัตว์ แต่หากสำแดงว่าเป็นเครื่องในหมู ก็จะเป็นหน้าที่ของ กรมการค้าภายใน หรือหากเป็นเนื้อหมูแปรรูปในสภาพพร้อมนำไปประกอบอาหารได้ทันที ก็จะเป็นหน้าที่ของ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นต้น
หรือย้อนกลับมาที่กรมศุลกากร หน่วยงานหน้าด่านแรก ตอนที่คณะกรรมาธิการได้เรียกหน่วยงานเข้ามา ก็พยายามที่จะสอบถามถึงมาตรการ กระบวนการในการนำเข้าและตรวจสอบทำอย่างไร เพราะชวนให้สงสัยว่าอยู่ดีๆ ตู้คอนเทนเนอร์ที่บรรจุซากหมูมาอยู่ดีๆ ผ่านเข้าไปได้อย่างไร ทางหน่วยงานก็บอกว่าจะเปิดทุกตู้ก็คงเป็นไปไม่ได้ แต่ก็มีเหมือนเครื่องสแกน เหมือนไปสนามบินแล้วตรวจกระเป๋า ซื้อน้ำนิดเดียวก็ต้องเก็บไปทิ้ง ก็เข้าใจว่ามันควรจะเป็นอย่างนั้น ตรงนี้ก็ชวนสงสัยว่าทำไมขั้นตอนถึงหละหลวมจนทำให้หมูมันผ่านเข้าไปได้
“แล้วประเด็นน่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง ยกตัวอย่าง 161 ตู้ที่เป็นข่าวขึ้นมา มันไม่ได้ถูกจับในขั้นตอนการตรวจสอบ มันถูกจับโดยตู้พวกนี้กองอยู่บนลานแล้วเสียบปลั๊กทิ้งไว้ไม่มีใครมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ ถึงมีการเปิดแล้วพบว่าเป็นหมูเถื่อน นั่นแสดงว่าปริมาณหมูเถื่อนที่ถูกลักลอบนำเข้าประเทศไทยไม่รู้มีปริมาณมากมายขนาดไหน นี่ DSI เพิ่งขยายผลบอกว่าจาก 161 ตู้ อาจมีส่วนเกี่ยวข้องอีก 2,385 ตู้ที่นำเข้ามาก่อนหน้านี้แล้ว ที่เรากินมา ผมเชื่อว่าทุกคนน่าจะได้ชิมลิ้มรส ผมลองคิดตัวเลข 2,385 ตู้ คูณ 26,000 (กิโลกรัม) ประมาณ 60 ล้านกิโลกรัม ” นายชัชวาล ระบุ
นายชัชวาล ยังกล่าวอีกว่า ส่วนคำถามเรื่องการย้ายอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) แต่ไม่มีการย้ายอธิบดีกรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่ DSI ไม่ใช่หน่วยงานด่านหน้า เรื่องนี้ทางกรรมาธิการจะเชิญทาง DSI เข้ามาให้ข้อมูลในสัปดาห์หน้า เพื่อรับฟังความคืบหน้าการดำเนินการ ซึ่งกรรมาธิการก็มีข้อห่วงใย เพราะประชาชนก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับกระบวนการยุติธรรม เพราะกระบวนการยุติธรรมจำเป็นต้องทำให้เกิดความชอบธรรมให้ได้ จึงจะขอฟังข้อมูลจากทาง DSI ก่อน ซึ่งตอนนี้ทุกคนก็คงจะสงสัยคล้ายๆ กัน
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี