วันพฤหัสบดี ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
สกู๊ปพิเศษ : สอวช.จับมือเครือข่าย ผลักดัน FUTURE FOOD  รับมือวิกฤตอาหารโลก/ชี้ปี’66 ไทยส่งออก1.4แสนล้าน

สกู๊ปพิเศษ : สอวช.จับมือเครือข่าย ผลักดัน FUTURE FOOD รับมือวิกฤตอาหารโลก/ชี้ปี’66 ไทยส่งออก1.4แสนล้าน

วันอาทิตย์ ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2567, 06.00 น.
Tag : สกู๊ปพิเศษ
  •  

ระบบอาหารของโลกมีความเปราะบางและไม่เพียงพอต่อความต้องการของมวลมนุษยชาติ และเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรโลก ไม่ได้รับอาหารเพื่อสุขภาพ โดยปัญหาเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง ทั้งสงคราม ความขัดแย้ง ภาวะโลกระบาด ความผันผวนทางเศรษฐกิจ ตลอดจนภาวะโลกร้อนที่ทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น

อาหารแห่งอนาคต (Future Food) ถูกหยิบยกมาพูดในวงกว้าง ด้วยมองว่าเป็นทางเลือกและทางรอดของมวลมนุษยชาติ ในยุคที่โลกมีความผันผวนในหลากหลายมิติจากเหตุปัจจัยดังกล่าวข้างต้น เพราะอาหารแห่งอนาคตผลิตจากแหล่งโปรตีนที่มีกระบวนการผลิตที่มีความปลอดภัย สามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มา และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปลอดภัยต่อสุขภาพ โดยภาครัฐหลายหน่วยงานได้มีการวางแผนสนับสนุนอาหารแห่งอนาคตตามเทรนด์อาหารและกระแสความยั่งยืนของโลก


เมื่อหันกลับมามองศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทยจะพบว่า รัฐบาลมีนโยบาย “ครัวไทยครัวโลก” ที่ประกาศมานานกว่า 10 ปี และตอกย้ำด้วยนโยบาย IGNITE THAILAND ที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศไปเมื่อเร็วๆ นี้ โดยการหยิบยกตัวเลขการคาดการณ์จากสำนักงานด้านประชากรขององค์การสหประชาชาติ ว่าในปี 2593 ทั่วโลกจะมีจำนวนประชากรทั้งหมดเกือบ 10,000 ล้านคน ซึ่งมากกว่าในปัจจุบันเกือบ 2,000 ล้านคน ดังนั้นเมื่อมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นก็ย่อมต้องการอาหารมากขึ้นเช่นกันซึ่งไทยสามารถผลิตอาหารได้ตั้งแต่ต้นน้ำในภาคเกษตรกรรม จนไปถึงการแปรรูปส่งออกไปยังตลาดโลกได้ โดยรัฐบาลจะพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต การวิจัยพัฒนาอาหารโปรตีนสูงจากพืช ตลอดจนการพัฒนาอาหารที่แปลกใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเป็นกระแสของตลาดโลกในอนาคต

ขณะที่ สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.)ได้ทำการรวบรวมข้อมูลและพบว่า ในปี 2566 ไทยส่งออกอาหารอนาคต (Future Food) มูลค่ากว่า 144,000 ล้านบาท สัดส่วนส่งออกมากที่สุดคือ อาหารสุขภาพ และสารประกอบเชิงฟังก์ชั่น 89% ของมูลค่าส่งออกทั้งหมด ทั้งนี้ กลุ่มอาหารอนาคตมีสัดส่วนส่งออก 11% ของมูลค่าการส่งออกอาหารทั้งหมดของไทยและคาดการณ์ว่าภายในปี 2570 การส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารอนาคตจะมีมูลค่าถึง 220,000 ล้านบาท

จากข้อมูลสะท้อนให้เห็นว่า อุตสาหกรรมอาหารอนาคตเป็นอุตสาหกรรมใหม่ที่จะเป็นกลไกสำคัญเพื่อยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารไทย ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และตอบรับเทรนด์การเปลี่ยนแปลงการบริโภคของโลก

นางสาวสิรินยา ลิม ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจนวัตกรรม สอวช. กล่าวว่า ปัจจุบันไทยส่งออกอาหารเป็นอันดับที่ 12 ของโลก โดย 90% เป็นอาหารแปรรูปและไม่แปรรูป เช่น ไก่ ทูน่ากระป๋อง สับปะรด มันสำปะหลัง เป็นต้น และอีก 10% เป็นอาหารแห่งอนาคต ซึ่งเป็นกลุ่มอาหารที่เราอยากส่งเสริมให้เติบโตในอนาคต

โดยกลุ่มอาหารเดิมที่ส่งออก จำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงด้านผลิตภาพ หรือ Productivity เพิ่มขึ้นเนื่องจากประเทศไทยต้องพึ่งพาการนำเข้าทั้งปุ๋ย อาหารสัตว์ มูลค่ามหาศาลต่อปี ซึ่งมีความเปราะบาง ดังนั้นทิศทางที่เราจะสนับสนุนคือ ด้านความปลอดภัยและความยั่งยืน และไม่พึ่งพาการนำเข้า โดยการผลิตให้เพียงพอ เพิ่มผลิตภาพโดยการใช้เทคโนโลยีในการปรับปรุงพันธุ์

สอวช. ได้วางกรอบแนวคิดในการขับเคลื่อนอาหารอนาคตของไทยด้วย การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อววน.) ร่วมกับเครือข่ายหน่วยงานของรัฐ เอกชน และสถาบันอุดมศึกษา ผ่าน 4 แนวทาง ได้แก่

1. สร้างคอนเซอร์เทียมวิจัยวัตถุดิบต้นน้ำ ผ่านการบริหารจัดสรรทุนวิจัย

2. สร้างแพลตฟอร์มถ่ายทอดเทคโนโลยี และศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (Localization & Transfer) ประเมินเทคโนโลยี ตลาด วิจัยกระบวนการผลิต โรงงานต้นแบบ บริการตรวจวิเคราะห์ตลอดจนสนับสนุนการขึ้นทะเบียนสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ

3. ส่งเสริมหน่วยบ่มเพาะสตาร์ทอัพ Foodtech & Biotech ยกระดับเป็น Smart Regulation Zone

4. พัฒนากำลังคนรองรับอุตสาหกรรม โดยวิเคราะห์ความต้องการกำลังคนเพื่ออุตสาหกรรมอนาคต นำมาออกแบบหลักสูตรเพื่อพัฒนาทักษะ ทั้งในรูปแบบ Degree และ Non-Degree นำไปสู่การปฏิบัติงานจริงในสถานการประกอบการต่อไป

ผอ.สิรินยา ยังระบุด้วยว่า จากข้อจำกัดทั้งเรื่องการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง เรื่องของเงินลงทุน และเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมกลางน้ำที่ต้องลงทุนด้านนวัตกรรม อย่างเรื่องสารสกัดต่างๆ อีกมาก ทำให้มีภาคเอกชนจำนวนไม่กี่รายที่มีความพร้อม ขณะเดียวกันการส่งเสริมให้ภาคเกษตรกรพัฒนาพืชผลทางการเกษตร สมุนไพรให้ได้มาตรฐาน สามารถนำมาต่อยอดในการผลิตสารสกัดได้ก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน

สอวช. ได้มีการสร้างความร่วมมือกับหลายภาคส่วน ทั้งภาคเอกชน ภาคการศึกษา ภาครัฐในกระทรวงต่างๆอาทิ สมาคมการค้าอาหารอนาคตไทย หอการค้าไทยในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต หรือ Future Food ของไทยให้สามารถยกระดับสินค้า และเพิ่มมูลค่าการส่งออกมากขึ้น โดยสนับสนุนและส่งเสริมให้ทั้งภาคการศึกษา ภาคเอกชน และสตาร์ทอัพในการผลักดันให้อุตสาหกรรม Future Food เติบโตมากขึ้น เพราะปัจจุบันสังคมไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ การต่อยอดอุตสาหกรรมอาหาร จะช่วยลดภาระทางการแพทย์ ข้อมูลพบว่า รัฐใช้งบประมาณ 10,000 ล้านบาทในการดูแลผู้ป่วยกลุ่ม NCDs ซึ่ง 57% ของผู้บริโภคทั่วโลกสนใจเกี่ยวกับสุขภาพ

“อว. มีกองทุนวิจัย มีหน่วยงานที่ให้ทุนต่างๆ และมีโจทย์ที่ชัดเจนจากภาคอุตสาหกรรม การให้ทุนวิจัยจึงเป็นแบบพุ่งเป้าอย่างชัดเจน ซึ่งตอนนี้เรื่องของ Future Food รวมถึงสารสกัดต่างๆ มีนักวิจัยทั่วโลกเริ่มต้นในเรื่องนี้ ผู้ประกอบการไทยและนักวิจัยสามารถต่อยอดสิ่งที่ทั่วโลกมีอยู่แล้ว อีกทั้งยังมีระบบนิเวศ มีการนำเครื่องมือ หรือแพลตฟอร์มเข้ามาประสานให้แหล่งทุนเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการและนักวิจัยมากขึ้นด้วย” นางสาวสิรินยา กล่าวทิ้งท้าย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สกู๊ปพิเศษ : กาง 9 มาตรการ ‘รับมือฝน’ ปี 2568 ‘เฝ้าระวัง-คุมเข้ม’ พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก สกู๊ปพิเศษ : กาง 9 มาตรการ ‘รับมือฝน’ ปี 2568 ‘เฝ้าระวัง-คุมเข้ม’ พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก
  • ยกโมเดล‘หาดบางแสน’ปลอดเหล้า-บุหรี่ สู่การสร้างเครือข่ายตะวันออกบอกรักทะเล ยกโมเดล‘หาดบางแสน’ปลอดเหล้า-บุหรี่ สู่การสร้างเครือข่ายตะวันออกบอกรักทะเล
  • สกู๊ปพิเศษ : กินเที่ยวสุดฟิน@ตะวันออก สัมผัสเสน่ห์การกิน ‘ฉะเชิงเทรา – ชลบุรี’ สกู๊ปพิเศษ : กินเที่ยวสุดฟิน@ตะวันออก สัมผัสเสน่ห์การกิน ‘ฉะเชิงเทรา – ชลบุรี’
  • สกู๊ปพิเศษ : ชู‘เทศบาลเมืองมหาสารคาม’ ต้นแบบควบคุมยาสูบยั่งยืน สกู๊ปพิเศษ : ชู‘เทศบาลเมืองมหาสารคาม’ ต้นแบบควบคุมยาสูบยั่งยืน
  • สกู๊ปพิเศษ : ‘MUT – Imperial SABER Lab’ สร้างเครือข่ายนักวิจัยรุ่นใหม่ ขับเคลื่อนไทยสู่ศูนย์กลางนวัตกรรม สกู๊ปพิเศษ : ‘MUT – Imperial SABER Lab’ สร้างเครือข่ายนักวิจัยรุ่นใหม่ ขับเคลื่อนไทยสู่ศูนย์กลางนวัตกรรม
  • สกู๊ปพิเศษ : ตีโจทย์ขายเหล้าวันพระใหญ่ ที่ไหนทำได้-ทำไม่ได้ สกู๊ปพิเศษ : ตีโจทย์ขายเหล้าวันพระใหญ่ ที่ไหนทำได้-ทำไม่ได้
  •  

Breaking News

ภูมิใจไทยเอฟเฟกต์! ‘ภราดร’ นัดแถลงไขก๊อก ‘รองประธานสภาฯ คนที่2’ วันนี้

'เพื่อไทย'ยืนยันภารกิจปกป้องอธิปไตย ยึดหลักสันติแก้ปัญหา ปลุกพลังสามัคคี

'แทค ภรัณยู'เดือดจัด! ลั่น'กูคือคนไทย อยู่เคียงข้างแผ่นดินไทย' พร้อมให้กำลังใจ'มทภ.2'

'บิ๊กป้อม' จี้ 'นายกฯ อิ๊งค์' ลาออก เพื่อรับผิดชอบ ซัดอ่อนแอ ขาดชั้นเชิงเจรจา พาชาติเสียเปรียบ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved