วันเสาร์ ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
รายงานพิเศษ : ‘ชุมชนแป้นทองสัมพันธ์’  สืบสานอัตลักษณ์ชาวมอญ

รายงานพิเศษ : ‘ชุมชนแป้นทองสัมพันธ์’ สืบสานอัตลักษณ์ชาวมอญ

วันอาทิตย์ ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2567, 06.00 น.
Tag : รายงานพิเศษ
  •  

มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เปิดเผยผลการวิจัย “นวัตกรรมการพัฒนาและยกระดับการสื่อสารผลิตภัณฑ์ชุมชนเชิงสร้างสรรค์ เพื่อเพิ่มมูลค่าการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมบนฐานอัตลักษณ์ท้องถิ่นริมน้ำเขตคลองสามวา สำหรับผู้ประกอบการสูงวัย” ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณด้านการวิจัยจากกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุนส่งเสริม ววน.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกสว.) ประจำปีงบประมาณ 2566

โดยเป็นงานวิจัยที่การสนับสนุนแนวคิด “ต่อยอดอดีต” นำอัตลักษณ์วัฒนธรรมของชุมชนมอญวัดแป้นทอง คลองสามวา ซึ่งมีรากฐานจากประเพณีและวิถีชีวิตดั้งเดิม มาประยุกต์ใช้ร่วมกับนวัตกรรมการสื่อสารผลิตภัณฑ์ชุมชนให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคผ่านสื่อดิจิทัลพร้อมสนับสนุน “การปรับปัจจุบัน”ยกระดับความสามารถในการเล่าเรื่องของผู้ประกอบการใน “ชุมชนแป้นทองสัมพันธ์ (มอญวัดแป้นทองคลองสามวา)”ผ่านการแต่งกาย อาหาร หรือ วัฒนธรรมที่แฝงอยู่ในชุมชน บอกเล่าเรื่องราวผ่านวีดีโอคลิปในสื่อสังคมออนไลน์


หนึ่งในตัวอย่างของอัตลักษณ์ชุมชนแห่งนี้คือ “สไบมอญ” ซึ่ง อำพร แก้วจรัส ชาวชุมชนแป้นทองสัมพันธ์ เล่าว่า สไบมอญมีการใช้มานานแล้ว โดยเฉพาะ
เวลาไปวัด ไปงานบุญ แต่หลังจากที่พระครูสุวรรณเขมากร อดีตเจ้าอาวาสวัดแป้นทองโสภาราม อยากให้มีสไบมอญที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชน จึงนำ“ดอกมะตาด” ที่เป็นอาหารของชาวมอญ ดอกกระเจี๊ยบด้วย พร้อมกับประดับลาย “หงส์น้ำเค็ม” ซึ่งมีการเล่าตามประวัติศาสตร์มาเป็นสัญลักษณ์มาประดับอยู่ในสไบ โดยพระครูสุวรรณเขมากรได้ให้ทุนแก่ชาวบ้านมาหนึ่งก้อน เพื่อนำไปผลิต จากนั้นมีคนมาซื้อสไบมอญของชุมชนมากขึ้น ทำให้เกิดรายได้ในท้องถิ่นจากสิ่งที่เป็นวัฒนธรรมของเราเอง

หรือจะเป็น “ข้าวตอกตั้ง” ขนมที่ชุมชนทำสืบต่อกันมาหลายรุ่น โดยมีที่มีจากในอดีตที่ชาวมอญมีอาชีพเกษตรกร ที่ปลูกทั้งข้าวเหนียวและข้าวเจ้า เมื่อมีข้าวเหนียวเหลือจากการเก็บเกี่ยว ก็นำมาแปรรูปด้วยการตากแดด นำมาคั่ว เป็นข้าวตอก จนกลายเป็นขนมหวานสำหรับนำไปทำบุญที่วัดในเทศกาลต่างๆ นิยมทำรับประทานในเทศกาลเข้าพรรษา ออกพรรษา สงกรานต์ และปีใหม่ สูตรการทำข้าวตอกจะมีหลายสูตร เพราะทำกับแทบทุกครัวเรือน มีส่วนประกอบสำคัญคือข้าวตอก มะพร้าวทึนทึก มะพร้าวแก่ น้ำตาลปี๊บหรือน้ำตาลมะพร้าว น้ำ เกลือ

โดยจะนำส่วนผสมทั้งหมดมากวนจนเหนียว เมื่อได้ที่แล้วจึงใส่ข้าวตอกที่ผ่านการคั่วจนแตกพองลงไป คนผสมกันจนเหนียวแล้วนำไปแต่งสีและแต่งกลิ่น แล้วนำมาบรรจุลงใส่ภาชนะต่อไป โดยรสชาติของแต่ละบ้านจะแตกต่างกันที่ความหวาน ตามความชอบของแต่ละบ้าน ซึ่งข้าวตอกตั้ง ของชุมชนแป้นทองสัมพันธ์ เคยที่ได้รับรางวัลที่ 1 จากการประกวดของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในโครงการ “The Lost Taste รสชาติที่หายไป” ทำให้อาหารชนิดนี้เป็นที่รู้จักมากขึ้น มีการสั่งซื้อในปริมาณที่สูงกว่าเดิม ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจภายในชุมชน

วรพิชชา จุมังมอ ประธานชุมชนแป้นทองสัมพันธ์ เล่าว่า ชุมชนมอญวัดแป้นทองคลองสามวา มีความเก่าแก่มานานกว่า 100 ปี มีกลุ่มชาติพันธุ์ชาวมอญมาอาศัยตั้งรกรากอยู่พอสมควร มีอัตลักษณ์ที่ชัดเจน ทั้งในเรื่องเครื่องแต่งกาย อาหาร ประเพณีวัฒนธรรมต่างๆ อีกทั้งยังมีความสามัคคี เช่น เมื่อเกิดงานบุญทุกคนในหมู่บ้านจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของชาวมอญ นุ่งผ้าสวยงาม ห่มสไบมอญที่มีสีสัน โดยลายดอกมะตาดที่อยู่ด้านซ้าย และ ลายหงส์ที่อยู่ด้านขวาของสไบมอญ

เป็นการสื่อให้เห็นว่า ชาวมอญในชุมชนแห่งนี้เกิดมากับต้นมะตาด และหงส์ ที่เป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์มอญทั้งสองอย่างถือเป็นสิ่งที่อยู่ในใจของคนในชุมชนตลอดมา เป็นการเล่าเรื่องที่มีอยู่จริงในชุมชนแป้นทองสัมพันธ์แห่งนี้ พร้อมมองว่า ในอนาคตแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในวิถีชีวิตขึ้นมาบ้าง แต่หากมีความยืดหยุ่นก็สามารถนำมาปรับประยุกต์ใส่ลงในสไบมอญได้เช่นกัน โดยให้กลุ่มคนรุ่นใหม่เป็นผู้ช่วยคิดค้นลวดลายอื่นลงบนสไบมอญให้มีสีสัน สวยงาม และคงความเป็นอัตลักษณ์ของชาวมอญเอาไว้ได้

ซึ่งการที่ มรภ.พระนคร นำนักศึกษาลงพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมกับชาวบ้านในชุมชนเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนเรียนรู้ พร้อมสนับสนุนงานด้านต่างๆ พัฒนาสิ่งที่มีอยู่ในชุมชนให้โดดเด่นมากขึ้น ทำให้คนในชุมชนได้รับความรู้และมีความมั่นใจมากขึ้นขณะที่นักศึกษาที่มาลงพื้นก็ได้รับความรู้เรื่องประเพณี วัฒนธรรม วิถีชีวิตของชาวมอญมากขึ้น เช่น แกงมะตาด แกงฮ้องข้าวตอกตั้ง ขนมเหนียว เพื่อนำไปสื่อสารผ่านช่องทางของตนเอง

“แม้ปัจจุบันชุมชนเมืองเริ่มขยายตัวมามากขึ้น แต่การรักษาประเพณีวัฒนธรรมในชุมชนแห่งนี้กลับเข้มแข็งขึ้น เพราะคนในชุมชนเริ่มตื่นตัว ตระหนักรู้ว่าสิ่งที่มีอยู่ในชุมชนคืออะไร และช่วยกันต่อยอดไปยังรุ่นลูกหลานได้ เพราะโดยส่วนตัวเชื่อว่า หากทุกคนในชุมชนช่วยกันรักษา ต่อยอดอย่างจริงจังอัตลักษณ์ของชาวมอญจะไม่หายไปอย่างแน่นอน” ประธานชุมชนแป้นทองสัมพันธ์ กล่าว

สำหรับคณาจารย์ มรภ.พระนคร ที่ร่วมทำงานวิจัยนี้มาจาก สาขาวิชานิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ โดย ผศ.ดร.นิษฐา หรุ่นเกษม , สิริมณฑ์ พึ่งสังวาลย์ และ นิศรารัตน์ วิไลลักษณ์ ซึ่ง ผศ.ดร.นิษฐา กล่าวว่า งานวิจัยครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการและตัวแทนสมาชิกของชุมชนมอญวัดแป้นทองคลองสามวา ในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับภูมิปัญญาท้องถิ่นทั้งข้าวตอกตั้งมอญ สไบมอญ และหงส์มอญ วัฒนธรรมของชุมชน ที่ยังมีการต่อยอดสร้างมูลค่าแก่ชุมชนในปัจจุบัน

“กระบวนการสำคัญที่ทำให้งานวิจัยชิ้นนี้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนรอบด้าน คือการเข้ามามีส่วนร่วมของทุกส่วนในชุมชน ตั้งแต่ประธานชุมชน ชาวบ้านทุกคน รวมถึงนักศึกษานิเทศศาสตร์ที่เข้ามามีบทบาทในฐานะผู้ช่วยวิจัย ช่วยเก็บข้อมูลและผลิตสื่อสร้างสรรค์อีกด้วย ซึ่งการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในหลายกลุ่ม ไม่เพียงทำให้การวิจัยครอบคลุมมากขึ้น แต่ยังช่วยให้เกิดการยอมรับในชุมชน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความยั่งยืนให้กับนวัตกรรมการสื่อสารที่พัฒนาขึ้น” ผศ.ดร.นิษฐา กล่าว

SCOOP@NAEWNA.COM

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • รายงานพิเศษ : ‘มันสำปะหลัง’ รุกตะวันออกกลาง โอกาสส่งออก ก้าวแรกสู่อุตฯใหม่ รายงานพิเศษ : ‘มันสำปะหลัง’ รุกตะวันออกกลาง โอกาสส่งออก ก้าวแรกสู่อุตฯใหม่
  • รายงานพิเศษ : สสส.สานพลังเครือข่าย อปท. ปกป้องพื้นที่ภาคใต้ไร้บุหรี่-บุหรี่ไฟฟ้า รายงานพิเศษ : สสส.สานพลังเครือข่าย อปท. ปกป้องพื้นที่ภาคใต้ไร้บุหรี่-บุหรี่ไฟฟ้า
  • รายงานพิเศษ : ครบรอบ 62 ปี วว. สร้างคุณค่านวัตกรรม ชู 4 กลยุทธ์ ‘S – I – E – N’ พัฒนาเศรษฐกิจ รายงานพิเศษ : ครบรอบ 62 ปี วว. สร้างคุณค่านวัตกรรม ชู 4 กลยุทธ์ ‘S – I – E – N’ พัฒนาเศรษฐกิจ
  • รายงานพิเศษ : Learn to Earn เสริมพลังคุณครู เปิดมุมมองส่งต่ออนาคตเด็กไทย รายงานพิเศษ : Learn to Earn เสริมพลังคุณครู เปิดมุมมองส่งต่ออนาคตเด็กไทย
  • รายงานพิเศษ : ประเทศไทยยังมีหวัง...พลังเงียบจะกลับมา รายงานพิเศษ : ประเทศไทยยังมีหวัง...พลังเงียบจะกลับมา
  • รายงานพิเศษ : ‘รพ.บางปะหัน’วางแนวทาง จัดแพ็คเกจบริการครอบคลุม รายงานพิเศษ : ‘รพ.บางปะหัน’วางแนวทาง จัดแพ็คเกจบริการครอบคลุม
  •  

Breaking News

มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 13-19 มิ.ย.68

'ทูตประศาสน์'พร้อมคณะฝ่ายไทย เดินทางถึงกัมพูชา เตรียมเข้าร่วมประชุม JBC พรุ่งนี้

ไต่สวนคดีติดคุกทิพย์นัดแรก! 'ผบ.เรือนจำ'ยอมรับส่งตัว 'ทักษิณ' ไป รพ.ตร.ไม่ผ่านรพ.ราชทัณฑ์

จุดเริ่มต้นที่ดี! 'ภูมิธรรม' หวังเวที JBC พรุ่งนี้ราบรื่น ขอปชช. 2 ประเทศไม่บิดเบือนข้อมูล

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved