'ธรรมะชูใจสร้างอินทรีย์ 5' โดย 'พระครูธีรธรรมปราโมทย์' เจ้าอาวาสวัดดอยเทพนิมิต

'ธรรมะชูใจสร้างอินทรีย์ 5' โดย 'พระครูธีรธรรมปราโมทย์' เจ้าอาวาสวัดดอยเทพนิมิต

วันพุธ ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2568, 09.19 น.

'ธรรมะชูใจสร้างอินทรีย์ 5' โดย 'พระครูธีรธรรมปราโมทย์' เจ้าอาวาสวัดดอยเทพนิมิต เชียงราย 

“พระครูธีรธรรมปราโมทย์” หรือ หลวงพ่อสําเริง สุวรรณละม้าย เจ้าอาวาส วัดดอยเทพนิมิต ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จ.เชียงราย และ ประธาน "โครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา อินเดีย-เนปาล" ปรารภธรรมในประโยคที่ว่า "ก้าวทุกก้าวมีพระพุทธเจ้าอยู่ในใจ" ซึ่งเป็นหลักธรรมที่หลวงพ่อสำเริงได้เมตตาให้แก่พระสงฆ์ที่เข้าร่วมโครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดากว่า 80 รูป ซึ่งมีทั้งพระสงฆ์ชาวลาวและชาวไทยเข้าร่วมโครงการ


"ก้าวทุกก้าวมีพระพุทธเจ้าอยู่ในใจ" หาดถอดรหัสออกมาก็คือ มีพุทโธอยู่ในใจทุกย่างก้าวแห่งการเดินเท้าจาริกธรรม ซึ่งการภาวนาพุทโธในใจนั้น มีกำลังมาก มีอานิสงส์มาก โดยเฉพาะสามารถทำให้ไม่ท้อถอยในการจาริกธรรมไปยังประเทศอินเดียและเนปาล ด้วยการเดินเท้าถวายเป็นพุทธบูชา ธัมมบูชา และสังฆบูชา

วันนี้ "แนวหน้า ออนไลน์" จะพาทุกท่านไปรู้จักประวัติของ "หลวงพ่อสำเริง" ว่า เป็นมาอย่างไร ท่านจึงเดินทางมาสู่การเป็นพ่อแม่ครูอาจารย์ของคณะสงฆ์ทั้งชาวลาวและชาวไทยในโครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา

"หลวงพ่อสำเริง" เป็นชาวอําเภออู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ได้รับการอุปสมบท (บวช) ในมหานิกาย ซึ่งเป็นนิกายดั้งเดิม หรือ นิกายใหญ่ในวัดที่ จ.สุพรรณบุรี และในพรรษาที่ 2 คาบเกี่ยวพรรษาที่ 3 ในช่วงฤดูแล้งได้ออกเดินทางแสวงหาครูบาอาจารย์ด้วยการธุดงค์เพียงองค์เดียว โดยการเดินเท้าจาก จ.สุพรรณบุรี ถึง จ.เชียงราย จนกระทั่งมาพบกับงานปริวาสกรรมของวัดถํ้าผาจม ต.เวียงพางคํา อ.แม่สาย จ.เชียงราย และมีโอกาสพบกับพระครูเกษมวรกิจ หรือ หลวงพ่อวิชัย เขมิโย จึงเกิดความศรัทธาในองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ หลวงพ่อวิชัย เขมิโย และประทับใจสถานที่ที่วัดถํ้าผาจม จึงอยู่จําพรรษาที่วัดถํ้าผาจม 2 พรรษา และได้เพียรไปประพฤติปฏิบัติที่วัดถํ้าผาจมอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ

ต่อมาได้ออกธุดงค์ไปทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้พบกับพ่อแม่ครูอาจารย์องค์สําคัญอีกองค์หนึ่ง คือ หลวงปู่ฉลวย สุธมฺโม พระอริยสงฆ์แห่งวัดป่าบ้านวไลย (วัดป่าวิทยาลัย) ตําบลหนองพลับ อําเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งท่านเป็นหนึ่งในลูกศิษย์ขององค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ทําให้หลวงพ่อสําเริง เกิดความศรัทธาในข้อวัตรปฏิปทา จึงได้หยุดพักธุดงค์และอยู่จําพรรษาที่วัดป่าบ้านวไลยเป็นเวลา 1 พรรษา

เมื่อหลวงพ่อสําเริงได้ศึกษาข้อวัตรปฏิปทาของหลวงปู่ฉลวยแล้ว จึงมุ่งหน้าธุดงค์ป่าช้า โดยสมาทานอยู่ป่าช้าเป็นข้อวัตร และ ปฏิบัติอยู่ป่าช้าบริเวณทางภาคเหนือเป็นหลัก โดยเฉพาะ 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย, เชียงใหม่, ลําปาง และ แพร่ ซึ่งเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี ที่หลวงพ่อสําเริงอุทิศกายและใจในการเร่งความเพียรด้วยการสมาทานธุดงค์อยู่ป่าช้าเป็นข้อวัตร และ ออกธุดงค์เพียงองค์เดียว

ต่อมาในพรรษาที่ 11 "หลวงพ่อสําเริง" จําพรรษาที่เมืองตีสุรี ประเทศเนปาล และมีโอกาสไปสังเวชนียสถานในอินเดีย ซึ่งสร้างความปิติใจอย่างมาก จนกระทั่งในพรรษาที่ 20 จึงเริ่มนําศรัทธาญาติโยมออกบวชที่ประเทศอินเดีย นํามาสู่โครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา ซึ่งเน้นการจาริกธรรม เดินเท้าตามรอยบาทขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งจะไม่ใช่การธุดงค์ที่ต้องเน้นข้อวัตรธุดงค์ด้วยการเดินในป่าแต่เพียงผู้เดียว

สำหรับเส้นทางการเดินเท้า "โครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา ปีที่ 11" เริ่มเดินเท้าในประเทศไทย โดยพระสงฆ์ที่เข้าร่วมโครงการจาริกธรรมฯ รวมกันที่วัดดอยเทพนิมิต จ.เชียงราย ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2567 และเริ่มเดินเท้า ไป จ.ลําปาง และเดินย้อนกลับมายังวัดดอยเทพนิมิต จ.เชียงราย ในการทำกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีในเทศกาลปีใหม่ และตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ.2568 พระสงฆ์ที่เข้าร่วมโครงการจาริกธรรมฯ ได้ไปรวมตัวกันที่ จ.สุพรรณบุรี และเริ่มเดินเท้าจาก จ.สุพรรณบุรี เขัากรุงเทพมหานคร โดยแวะปักหลักใน จ.ปทุมธานี โดยเน้นจำวัดอยู่ที่วัดพุทธวิชยาราม คลอง 6 จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นวัดของพระครูเกษมวรกิจ หรือ หลวงพ่อวิชัย เขมิโย อดีตเจ้าอาวาส วัดถ้ำผาจม อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปยังประเทศอินเดีย-เนปาล

ส่วนระยะเวลาในการเดินเท้าจาริกธรรมในประเทศอินเดีย-เนปาล เริ่มต้นในช่วงสัปดาห์ที่สองของเดือนกุมภาพันธ์ ถึง 31 มีนาคม พ.ศ.2568 รวมระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือน หรือ เพียง 1 เดือนเศษ ในการเดินเท้าจาริกธรรมในดินแดนพุทธภูมิ

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ.2568 รายการลายกนก โดยคุณกนก รัตน์วงศ์สกุล ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ท๊อปส์นิวส์ และ ทีมงานได้สัมภาษณ์พิเศษ "หลวงพ่อสำเริง" ที่วัดกลาง จ.สุพรรณบุรี และ เมื่อวันที่ 26 มกราคม พ.ศ.2568 ชาวนาถะ นำโดยผู้บริหารโรงแรมดุสิตธานี ร่วมบุญมหาทานด้วยการถวายกุฏิน้อยเคลื่อนที่ หรือ เต็นท์สำหรับพระสงฆ์ใช้พักระหว่างเดินจาริกธรรมในดินแดนพุทธภูมิ ที่วัดพุทธวิชยาราม คลอง 6 จ.ปทุมธานี รวมทั้งในวันที่ 29 มกราคม พ.ศ.2568 นี้ ชาวนาถะยังได้นัดรวมตัวกันเพื่อตักบาตรแด่พระภิกษุที่เข้าร่วมโครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา ครั้งที่ 11 ณ วัดใหม่คลองเจ็ด จ.ปทุมธานี

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top