วันเสาร์ ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
สหรัฐฯ-อิหร่าน-อิสราเอล อุณหภูมิตะวันออกกลางระอุ

สหรัฐฯ-อิหร่าน-อิสราเอล อุณหภูมิตะวันออกกลางระอุ

วันเสาร์ ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 07.00 น.
Tag : ตะวันออกกลาง สหรัฐอเมริกา อิสราเอล อิหร่าน
  •  

ศูนย์เอเชียแปซิฟิกศึกษา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) จัดเสวนา (ออนไลน์) หัวข้อ “เทลอาวีฟ – เตหะราน : ระเบิดเวลาแห่งตะวันออกกลาง” เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2568 ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดเมื่ออิสราเอลและสหรัฐอเมริกาเปิดปฏิบัติการโจมตีอิหร่าน โดย ผศ.ดร.พรพรรณ โปร่งจิตร อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มศว ฉายภาพความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งในขณะที่หลายคนเข้าใจว่าอิหร่านกับอิสราเอลเป็นคู่ขัดแย้งกันมาช้านาน แต่เชื่อหรือไม่ว่าทั้ง 2 ประเทศเคยมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

ในยุคราชวงศ์ปาลาวี (ปี 2468 - 2522) อิหร่านดำเนินการปฏิรูปประเทศให้ทันสมัย มีแนวคิดทำให้ประเทศทันสมัยแบบโลกตะวันตกและเห็นว่าความเชื่อทางศาสนาอิสลามเป็นอุปสรรคสำคัญ จึงพยายามกำจัดอัตลักษณ์ดังกล่าว เช่น ยกเลิกศาลชารีอะห์ (ศาลกฎหมายอิสลาม) ห้ามผู้หญิงสวมฮิญาบ (ผ้าคลุมผมของสตรีมุสลิม) ทำให้ชาวอิหร่านไม่พอใจ แต่ยุคนี้ อิหร่านมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งสหรัฐฯ และอิสราเอล โดยเฉพาะอิสราเอลมีความร่วมมือกับอิหร่านตั้งแต่การเกษตร การทหาร ไปจนถึงงานข่าวกรองและเทคโนโลยีนิวเคลียร์


แต่ทิศทางดังกล่าวทำให้ชาวอิหร่านไม่พอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหน่วยข่าวกรอง Savak ของอิหร่านที่ตั้งขึ้นมาต่อต้านการแผ่ขยายแนวคิดอาหรับนิยมและพิทักษ์ราชวงศ์ทำเกินกว่าเหตุ มีการจับกุมคุมขังและซ้อมทรมานประชาชนที่ต้องสงสัยว่าเป็นภัยความมั่นคง เมื่อความไม่พอใจเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จึงนำไปสู่การโค่นล้มราชวงศ์ในนามการปฏิวัติอิสลาม อิหร่านเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นแบบรัฐศาสนาโดยอิงกับศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์ นักการศาสนามีอำนาจสูงสุด มีนโยบายต่างประเทศคือการต่อต้านสหรัฐฯ อิสราเอลและโลกตะวันตก

 “อิหร่านในปัจจุบันถูกแรงกดดันทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ เราจะเห็นภายในประเทศอิหร่านถูกท้าทายจากเยาวชนรุ่นใหม่ที่ต้องการเรียกร้องเสรีภาพหรือต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครองภายในประเทศ ต้องการอิสระเสรีภาพต่างๆ แต่ถ้าเราเห็นข้างในในปัจจุบัน ดิฉันเพิ่งไปอิหร่านเมื่อเดือน พ.ค. 2568 ก็จะเห็นรัฐบาลอิหร่านผ่อนปรนมากขึ้น คนในเตหะราน (เมืองหลวงของอิหร่าน) ไม่ต้องสวมฮิญาบก็สามารถเดินออกถนนได้ ไม่ต้องมีปัญหาอะไรกับตำรวจหรือไม่มีใครมาต่อว่าอะไร เราจะเห็นลักษณะของการผ่อนปรนมันเริ่มขึ้น

ขณะเดียวกันการกดดันจากภายนอกที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้คือการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ หรือว่าชาติตะวันตก อิหร่านถูกคว่ำบาตรมาตั้งแต่ปฏิวัติ เกือบ 50 ปีตั้งแต่ 1979 (2522) ฉะนั้นปัญหาต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ ที่ทำให้อิหร่านจะต้องอยู่และต้องต่อสู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ถ้าเราพูดถึงความขัดแย้งอิหร่านกับอิสราเอล ถ้าเราทบทวนดู เป็นความขัดแย้งในเรื่องอุดมการณ์ศาสนา สรุปง่ายๆ คืออิหร่านปฏิเสธการมีอยู่ของอิสราเอล แต่อิสราเอลไม่ได้ใช้เรื่องศาสนา แต่กล่าวหาอิหร่านสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธ หรือมีโครงการนิวเคลียร์” ผศ.ดร.พรพรรณ กล่าว

ผศ.ดร.พรพรรณ กล่าวต่อไปว่า จากประสบการณ์ที่เคยใช้ชีวิตในอิหร่านอยู่ 7 ปี แม้จะเป็นประเทศที่มีทรัพยากรทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติแต่กลับมีปัญหาไฟฟ้าดับบ่อยครั้ง ซึ่งนี่เป็นสาเหตุที่อิหร่านต้องการพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์ โดยย้ำว่าเพื่อใช้ในด้านพลังงานไม่ใช่เพื่อทำอาวุธ แต่ตนก็ไมได้ยืนยันว่าอิหร่านไม่ผลิตอาวุธ เพียงแต่บอกเล่าว่าอิหร่านมีสถานการณ์แบบนี้และต้องติดตามกันต่อไป นอกจากนั้นทั้งอิสราเอลกับอิหร่านยังแย่งชิงบทบาทนำในตะวันออกกลาง อิหร่านเป็นตัวแทนมุสลิมนิกายชีอะห์ ส่วนอิสราเอลเป็นตัวแทนโลกตะวันตก

ดร.สุธาทิพย์ ชวนะเวสสกุล อาจารย์ภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มศว  กล่าวถึง “ช่องแคบฮอร์มุซ (Strait of Hormuz)” หรือเฮอร์มุซ (Hurmutz) ซึ่งอยู่บริเวณปลายแหลมของยูเออี (UAE - สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) กับอิหร่าน ช่วงที่แคบที่สุดจะมีความกว้าง 33 กิโลเมตร ช่วงกว่างที่สุดจะกว้าง 95 กิโลเมตร มีความลึก 198 – 200 เมตร เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญเพราะ 1.เป็นทางออกทางเดียวของประเทศที่อาศัยอยู่ในบริเวณอ่าวเปอร์เซีย เช่น ตูเวต บาห์เรน กาตาร์ หรือแม้แต่อิรัก กับ 2.เป็นพื้นที่ที่มีการขนส่งน้ำมันร้อยละ 20 และก๊าซร้อยละ 30 ของโลก  

“พอเรามาดูเขตน่านน้ำของประเทศ เราพบว่าฝั่งอิหร่าน ความเป็นประเทศใหญ่ มีชายฝั่งยาวไกล พอวัดน่านน้ำปุ๊บอิหร่านมีน่านน้ำในอ่าวเปอร์เซียยาว ในขณะที่ฝั่งตะวันตกเป็นประเทศหลายๆ ประเทศ ไล่ลงมาตั้งแต่อิรัก คูเวต บาห์เรน กาตาร์ หรือแม้กระทั่ง UAE หรือโอมาน ทำให้ทางด้านตะวันตกของอ่าวเปอร์เซียและตรงช่องแคบเฮอร์มุซถูกแบ่งสัดส่วนน่านน้ำ ความเป็นเจ้าของน่านน้ำแต่ละประเทศ ในขณะที่ฝั่งอิหร่านได้ยาว ฉะนั้นตรงนี้เลยเป็นประเด็นในตอนนี้ที่ทุกคนกลัวกันในหน้าข่าวว่าถ้าอิหร่านปิดช่องแคบนี้จริงจะเกิดอะไรขึ้น หมายความว่าที่เราเห็นเรือวิ่งเต็มไปหมดจะต้องหยุดชะงักไหม? การขนถ่ายสินค้าน้ำมันจะต้องหยุดชะงักไหม?” ดร.สุธาทิพย์ กล่าว

ผศ.ดร.ประพีร์ อภิชาติสกล อาจารย์หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต ภาควิชาสังคมวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มศว กล่าวว่า ในวันที่สหรัฐฯ เปิดปฏิบัติการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ 3 แห่งในอิหร่าน (21 มิ.ย. 2568 ตามเวลาสหรัฐฯ หรือ 22 มิ.ย. 2568 ตามเวลาไทย) จากนั้น โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาแถลงข่าวเป็นเวลา 3 นาที แต่สามารถมองเห็นอะไรได้หลายอย่าง ดังนี้

1.ขู่อย่างแข็งกร้าว ทรัมป์พูดถึง 2 ทางเลือกสำหรับอิหร่าน จะเจรจาสันติภาพหรืออยากให้เกิดโศกนาฏกรรม 2.ประกาศแสนยานุภาพ บอกว่าสหรัฐฯ สามารถโจมตีเพื่อทำลายอิหร่านอย่างหนักได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ซึ่งอีกนัยหนึ่งก็เป็นการแสดงให้โลกเห็นด้วยว่าสหรัฐฯ ยังคงเป็นมหาอำนาจ ซึ่งปฏิบัติการครั้งนี้ทำให้โลกตกตะลึงและมีคำถามตามมาว่าสงครามโลกจะเกิดขึ้นหรือไม่ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นทรัมป์พยายามดึงอิหร่านเข้าสู่การเจรจา และไม่ได้สนับสนุนการโจมตีอิหร่าน โดยปล่อยให้อิสราเอลเป็นฝ่ายโจมตีไป

“ณ ตอนนี้ส่วนตัวอาจวิเคราะห์ได้ 2 ทาง ทรัมป์อาจเอาจริงเหมือนสมัยบุชที่ทำสงครามต่อต้านการก่อการร้าย ซึ่งถ้าทำแบบนั้นต้องบอกว่าไม่แน่ใจว่าประชาชนจะยังคงเอาทรัมป์อยู่หรือไม่? ก็มีการเตือนแม้แต่คนใกล้ชิดทรัมป์เอง แต่ส่วนตัวมองว่าทรัมป์น่าจะเลือกอันที่สองมากกว่า เพียงแค่โชว์ศักยภาพว่าอย่าเล่นกับฉันนะ ถามว่าทำไมส่วนตัวมองแบบนั้น? เพราะลองย้อนกลับไปในปี 2020 (2563) ตอนนั้นทรัมป์ก็ไปลอบสังหารนายพลสุไลมานี ตอนนั้นสื่อก็มาถามเยอะว่าสงครามโลกจะเกิดแล้วใช่ไหม? กับอิหร่านด้วย ก็ไม่ได้เกิดอะไรขึ้น” ผศ.ดร.ประพีร์ กล่าว

ผศ.ดร.ประพีร์ ขยายความเพิ่มเติมว่า เหตุที่ทรัมป์ไม่น่าจะทำอะไรรุนแรงไปกว่านี้ เพราะติดเรื่องนโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” ที่ทรัมป์หาเสียงไว้จนชนะเลือกตั้งได้กลับมาเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 เนื่องจากประชาชนชาวอเมริกันต้องการให้เข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจภายในสหรัฐฯ ส่วนคำถามว่า “จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 หรือไม่?” ประเด็นนี้หากย้อนไปดูสงครามโลก 2 ครั้งก่อนหน้า สิ่งที่เหมือนกันคือแต่ละฝ่ายที่พันธมิตรที่พร้อมจะเข้าสู้รบกัน แต่สถานการณ์ปัจจุบัน แม้จะมีการแสดงท่าทีจากประเทศต่างๆ แต่ก็เชื่อว่ายังไปไม่ถึงจุดนั้น แต่ก็อยากให้ติดตามสถานการณ์กันต่อไป   

ผศ.ดร.มาโนชญ์ อารีย์ อาจารย์ภาควิชารัฐศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มศว จับสัญญาณผ่านโพสต์ในสังคมสังคมออนไลน์โดย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไล่ตั้งแต่โพสต์แรกที่ชมเครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 อย่างผิดปกติ ด้านหนึ่งชี้ว่าปฏิบัติการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ 3 แห่งของอิหร่านเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและประสบความสำเร็จ แต่อีกด้านหนึ่งก็เป็นการส่งสัญญาณไม่ให้อิหร่านตอบโต้สหรัฐฯ เพราะทรัมป์ไม่ต้องการให้สหรัฐฯ ถูกดึงเข้าสู่สงคราม แต่ทรัมป์ถูกกดดันหนัก

โดยตอนแรกทรัมป์พยายามประวิงเวลาไว้ 2 สัปดาห์ หวังให้อิสราเอลกับอิหร่านตอบโต้กันไป – มาจนเสียหายหนักเสียก่อน การเจรจาก็จะง่ายขึ้นเพราะแต่ละฝ่ายจะลดเงื่อนไขของตนเองลง แต่ทรัมป์นั้นถูกกดดันทั้งจากภายในประเทศและจากอิสราเอล จึงต้องเปิดปฏิบัติการ และข้อความที่ทรัมป์ลงท้าย (ก่อนจะลบไปในภายหลัง) คือได้เวลาสันติภาพแล้ว ก็คือชัดเจนว่าไม่ต้องการเข้าสู่สงคราม

“อเมริกาไม่พร้อมเข้าสู่สงครามกับอิหร่าน เพราะวันนี้อาหรับไม่ให้ใช้ฐานทัพ อาหรับวางตัวเป็นกลางไม่ยุ่งด้วย จึงทำให้อเมริกาไม่มีความพร้อมทำสงครามกับอิหร่าน จะลอยคอทำในทะเลค่อนข้างยาก ดังนั้นทรัมป์ก็ส่งสัญญาณว่ามานั่งคุยกันนะ โจมตีแล้วไม่ต้องมาตอบโต้ มานั่งคุยกัน นี่คือการประเมินและการส่งสัญญาณของโดนัลด์ ทรัมป์ว่าจริงๆ แล้วอเมริกาไม่ต้องการสงคราม” ผศ.ดร.มาโนชญ์ กล่าว    

                                                              SCOOP.NAEWNA@HOTMAIL.COM

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘ศึกอิหร่าน-อิสราเอล’ลามปิดช่องแคบ‘ฮอร์มุซ’ โลกสะท้าน เตรียมรับมือ‘ราคาน้ำมัน’พุ่ง ‘ศึกอิหร่าน-อิสราเอล’ลามปิดช่องแคบ‘ฮอร์มุซ’ โลกสะท้าน เตรียมรับมือ‘ราคาน้ำมัน’พุ่ง
  • รายงานพิเศษ : ‘มันสำปะหลัง’ รุกตะวันออกกลาง โอกาสส่งออก ก้าวแรกสู่อุตฯใหม่ รายงานพิเศษ : ‘มันสำปะหลัง’ รุกตะวันออกกลาง โอกาสส่งออก ก้าวแรกสู่อุตฯใหม่
  •  

Breaking News

ปคม.ลุยชลบุรี ทลายแหล่งซุก‘แรงงานเถื่อน’ ยึดเครื่องกระสุนปืนสงครามกว่า 200 นัด

ยก 3 ข้อสะท้อน‘ฮุน เซน’อ่านเกมขาด ตัดญาติขาดมิตร ฉีกสัมพันธ์‘ฮุน-ชิน’

เปิดแล้วงาน 'เทศกาลผลไม้ทองผาภูมิ' คาดเงินสะพัดถึงมือเกษตรกรเพียบ

ยิปซีพยากรณ์'ดวงรายวัน'ประจำวันเสาร์ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved