แนวหน้าวิเคราะห์ : ต้องให้‘ทหาร’ขาขาดอีกกี่ข้าง? ไทยถึงจะรูดม่าน‘เขมรการละคร’ได้สำเร็จ

หลังประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา หรือ RBC ที่จุดผ่านแดนถาวร ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ วันพุธที่ผ่านมา  ฝ่ายไทยนำโดย แม่ทัพภาคที่ 2  “พลโทบุญสิน พาดกลาง”  ร่วมกับผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา ลงนามเห็นชอบผลประชุม 11 ข้อ              

สาระสำคัญที่สองฝ่ายเห็นตรงกัน “อย่าปั่นเฟกนิวส์ – ไม่ยั่วยุ – ไม่โจมตีที่ตั้งทหาร – เร่งตอบสนองการประท้วง” 

และก็เหมือนเดิม  เขมรปัดตอบรับ ข้อตกลงที่ 7 “ให้ร่วมกันเก็บกู้ทุ่นระเบิด” โยนยื้อซื้อเวลาไปคุยในเวทีประชุม “จีบีซี” ต้นเดือนกันยายนที่จะถึง  โดยให้เหตุผลว่า “เป็นระดับนโยบาย”  เช่นเดียวกับ ข้อตกลงที่ 9 ให้ร่วมมือปราบอาชญากรรมข้ามชาติ แก๊งคอลเซนเตอร์ 

“เขมร”ก็โบ้ยไปหารือในที่ประชุม “จีบีซี” เช่นกัน 

ไม่ทันข้ามวัน ลงนามแถลงผลข้อตกลงเที่ยง  บ่ายสามโมงกว่า พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัดกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23  เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ลาดตะเวนในพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ ซึ่งอยู่ในเขตแดนไทย ได้รับบาดเจ็บขาขวาท่อนล่างขาด!!!

ทีมโฆษกกองทัพบกแถลงสรุปสถานการณ์ว่า นับเป็นเหตุการณ์รวมครั้งที่ 6  และเป็นเหตุการณ์ครั้งที่ 3  ที่เกิดหลังไทย-เขมรมีข้อตกลงหยุดยิงร่วมกัน  ชัดเจนว่า เขมรยังละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอยู่ตลอด รวมถึงไม่ปฏิบัติตามพันธกรณีในอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลทุกชนิด นับเป็นการลอบโจมตีเป้าหมายกำลังพลฝ่ายไทยอย่างจงใจ     สะท้อนเจตนาร้าย และพฤติกรรมต่อเนื่องในการคุกคามไทย ละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดนไทย 

เชื่อได้ว่าเรื่องทุ่นระเบิดนี้ น่าจะมีการวางแผนใช้มาเป็นระบบตลอดแนวชายแดน โดยเฉพาะจุดเกิดเหตุอยู่ในเขตพื้นที่ในเส้นปฏิบัติการฝั่งไทย  พฤติกรรมและการกระทำลักษณะนี้ เป็นอุปสรรคอย่างยิ่งต่อการคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียด ที่ทั้งสองฝ่ายกำลังดำเนินการอยู่ ผ่านกลไกทวิภาคีของทั้งสองประเทศ

ด้าน “บิ๊กกุ้ง” พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ออกมาประณามเขมร ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและอนุสัญญาออตตาวาซ้ำซาก จุดที่พลทหารประสบเหตุ “เนิน 350 ปราสาทตาควาย” เป็นพื้นที่ที่ทหารเขมรวางกำลังหนาแน่น มีทุ่นระเบิดรอบพื้นที่  ระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ครั้งนี้เครื่องตรวจวัตถุระเบิดตรวจหาไม่เจอ  เพราะทุ่นระเบิดดังกล่าวโครงสร้างเป็นพลาสติกแข็ง  ผิวมันวาว มีตัวอักษร ตัวเลขพิมพ์อยู่ด้านข้าง อ่านง่ายคมชัด  ยืนยันได้ชัดเป็นทุ่นระเบิดรุ่นใหม่

เหตุทหารเหยียบกับระเบิดล่าสุด ย้ำชัดไทยเป็นผู้ถูกกระทำอีกครั้ง และ “เขมร”ไม่ให้ความสำคัญกับข้อตกลงในการ“เจรจาทวิภาคี”ไม่ว่าเวทีไหน  หาความจริงใจไม่มีในการร่วมมือยุติความขัดแย้ง  แต่ขณะที่ไทยท่องย้ำจุดยืน จะใช้แนวทางนี้แก้ไขความขัดแย้งระหว่างประเทศ ขนานไปกับการหอบหลักฐานไปฟ้องประชาคมโลก ที่รมว.ต่างประเทศทำอยู่   ซึ่งดูเหมือนเรากำลังปรบมือข้างเดียวหรือไม่ 

ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป กระบวนการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี การประท้วง การประณาม การหอบหลักฐานฟ้องโลก จะหยุดพฤติกรรม “อันธพาล-ลอบกัด” ได้หรือ รัฐบาลน่าจะฉุกคิดได้แล้วหรือไม่  

ตั้งแต่ต้นกระบวนการ กว่าจะผลักดันผลเจรจาสองฝ่าย การฟ้องนานาชาติให้มาช่วยกดดัน “เขมร” มาร่วมมือไทยเก็บกู้ทุ่นระเบิด หรือปราบแก๊งคอลฯ จริงจังเป็นรูปธรรม  ต้องใช้เวลาอีกเท่าไร

ทหารไทยต้องเสี่ยงภัย บาดเจ็บสูญเสียขาอีกกี่ข้าง  ข้อขัดแย้งถึงยุติจริงๆ โดยที่เราไม่ต้องเสียอธิปไตย แม้แต่หยิบมือเดียว

สิ่งน่าฉงน  แต่ไม่ทำให้คนไทยแปลกใจอีกต่อไปคือ ท่าที  “รัฐบาล” ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย ที่นิ่งสนิท!!! 

แบบ “ไร้สัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก”

ที่ผ่านมา  เห็นความเคลื่อนไหวจากเพื่อไทย  ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาลที่ “แอคชั่น”แข็งขัน ประหนึ่งเป็นวาระแห่งชาติ อยู่เรื่องเดียว  กรณี ”แพทองธาร ชินวัตร” นายกฯและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประเด็นคลิปเสียงคุยกับอังเคิล “ฮุน เซน” ที่ศาลรัฐบาลธรรมนูญจะพิจารณาวินิจฉัยศุกร์นี้

กลับกันตั้งแต่เขมรเริ่มก่อกวนป่วนประเทศไทย  เห็นแต่ “พลเรือน” กับ “ทหาร” นี่แหละที่ถือธงไตรรงค์นำหน้า ตอบโต้ “เขมร” แบบไม่แผ่ว  ถึงกรณีล่าสุดที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว   ชาวบ้านจากทั่วสารทิศเดินทางไปให้กำลังใจทหาร และพร้อมสนับสนุนปฏิบัติการตอบโต้ “ม็อบเขมร” ที่ถูกรัฐบาลเขมรเชิดเป็นโล่มนุษย์ หวังสร้างเรื่องว่า ตัวเองถูกไทยกระทำไปโป้ปดฟ้องโลก   

แต่ทหารไทยไม่หลงกลอีกแล้ว!!!

กรณีทหารเหยียบกับระเบิดที่ปราสาทตาควายล่าสุด กับการก่อหวอดของ “เขมรเนรคุณ” ที่ซุกหัวนอนที่บ้านหนองจาน แผ่นดินไทย  สุมไฟรักชาติ–ชัง “เขมร” ให้ระอุขึ้นอีก เสียงเรียกร้อง “กองทัพ” ใช้ไม้แข็งยาแรงจัดการได้แล้ว ดังกระหึ่มอีกระลอก  

เพราะทนเห็น “เขมรการละคร” ต่อไปอีกไม่ไหว!!!

ยิ่งหนักเมื่อ นายกฯเขมร “ฮุน  มาเนต” ฉวยจังหวะที่ชายแดนตึงเครียด ออกมาโชว์ “จดหมายน้อย” จาก “ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขอบคุณเขมรที่เสนอชื่อชิงโนเบลสันติภาพ และยินดีกับข้อตกลงหยุดยิงไทย-เขมร  ลดความสูญเสียชีวิตคนนับพัน   ส่อแสดงนัยยะให้ไทยเห็นสัมพันธ์อันดีกับพี่ใหญ่“ทรัมป์”ชัดๆ  

แนวรบชายแดน 7 จังหวัด 11 จุด ถึงยังประมาทไม่ได้ แต่ไม่ค่อยน่าห่วง  เพราะ “แม่ทัพภาคที่2” ประกาศชัด ถ้าเขมรแหลม มุดรั้วมาซุกทุ่นระเบิด ทหารไทยเจอ

ยิงทันที!!!

แต่ที่ห่วง กลัวไทยจะพ่ายเกม “เขมรการละคร” ที่สุด

เพราะเขาทำถึง ส่งชิง“ออสการ์” ได้เลยทีเดียว!!!

#ทีมข่าวแนวหน้า