แนวหน้าวิเคราะห์ : รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมแก๊งคอลฯ ลวงโหลดไลน์ปลอมใช้กระทำผิด

แนวหน้าวิเคราะห์ : รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมแก๊งคอลฯ ลวงโหลดไลน์ปลอมใช้กระทำผิด

วันอังคาร ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2568, 07.30 น.

                ห้วงเวลาที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ดำเนินโครงการ “รีบโอนโจรยิ้ม” ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยมุ่งหวังสร้างการรับรู้เกี่ยวกับภัยของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และสร้าง “ภูมิคุ้มกันดิจิทัล” ให้แก่ประชาชนชาวไทยทั่วทุกภูมิภาค

                ในภาพรวมการรับรู้และการมีส่วนร่วมกับกิจกรรมประชาสัมพันธ์โครงการฯ มีการดำเนินการผ่านศิลปินผู้มีชื่อเสียง หรืออินฟลูเอนเซอร์ ทำให้แคมเปญเข้าถึงผู้คนจำนวนมากในระยะแรก  ยอดผู้เสียหายลดลงจากมาตรการเสริม เช่น ปิดด่านชายแดน และตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต สัญญาณโทรศัพท์ ในพื้นที่ร่วมชายแดน ทำให้อัตราการหลอกลวงผ่านคอลเซ็นเตอร์ลดลง


                ด้านการตรวจสอบและจับกุม มีการนำเทคโนโลยี เช่น บล็อกเชน และ TRM Labs มาใช้ติดตามเส้นทางการเงินของผู้กระทำความผิด และส่งตัวผู้ต้องหาจากเมียนมา ไปจีน ได้มากถึง 889 ราย รวมถึงมีการจับกุมเจ้าหน้าที่ในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา กว่า 321 คน (ต่างชาติ 215 คน และคนไทย 109 คน)

                แน่นอนว่า เมื่อมุกเดิมๆ ใช้ไม่ได้ผล กลุ่มคนร้ายหรือมิจฉาชีพ ก็จะมีวิธีการหรือใช้กลวิธีใหม่ อย่างที่ตำรวจกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ เพิ่งออกมาแจ้งเตือนมุกใหม่ของมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ คือกรณีการลวงให้เหยื่อดาวน์โหลด ติดตั้งแอปฯ ไลน์ เวอร์ชั่นปลอม แล้วนำไปใช้หลอกลวงผู้อื่น

                จากนั้นก็จะสวมรอยเป็นตัวเหยื่อ เพื่อใช้บัญชีไลน์ สำหรับไปหลอกคนรู้จักของเหยื่อต่ออีกทอดหนึ่ง (Social Engineering Chain) โดยการล้วงข้อมูลส่วนตัว เช่น บัตรประชาชน ข้อมูลบัญชีธนาคาร

ใช้แอปฯ ไลน์ปลอม เป็นช่องทางสร้างความน่าเชื่อถือในการข่มขู่ หรือเรียกเงิน

                นอกจากนี้ยังมีกลวิธีที่ใช้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นหน่วยงานต่างๆ เช่น บริษัทขนส่ง ธนาคาร ฯลฯ แล้วแจ้งเหยื่อว่ามีพัสดุต้องสงสัย หรือบัญชีธนาคารมีปัญหา หรือว่าจะถูกออกหมายเรียก มีการส่งลิงก์ดาวน์โหลดไลน์ปลอม เพื่อให้คุยกับเจ้าหน้าที่เฉพาะทาง

                มีการสร้างแอปฯ ไลน์ปลอม ให้กดที่ลิงก์เพื่อหลอกดาวน์โหลด ซึ่งตัวแอปฯ ปลอมมักหน้าตาเหมือนกับไลน์ จริง แฝงโค้ดดักจับรหัสผ่าน เลข OTP และข้อมูลอื่นๆ

                จากนั้นก็จะใช้บัญชีเหยื่อที่โดนสวมรอย ไปหลอกคนรู้จัก ทักแชตยืมเงิน ส่งลิงก์หลอก ข่มขู่ให้โอนเงิน โดยส่วนใหญ่เหยื่อที่ถูกหลอกนั้นก็จะหลงเชื่อ เพราะแอปฯ นั้น เนียนมาก และมาจากคนรู้จักกันจริง พร้อมกับสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรู้สึกเร่งด่วน กดดัน ให้ไม่ทันตั้งสติ หรือยั้งคิดได้ทัน หรือขู่ว่าถ้าไม่ดำเนินการทันทีจะถูกดำเนินคดี เป็นการสร้างความหวาดกลัว ทำให้เหยื่อขาดการคิดวิเคราะห์

                ผลกระทบของการใช้กลวิธีเช่นนี้ ทำให้เหยื่อถูกขโมยตัวตน (Identity Theft) ผู้เกี่ยวข้องในเครือข่ายไลน์ ถูกหลอกลวงตามมา จนเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง  ตลอดจนความน่าเชื่อถือของบริการดิจิทัลลดลง

                สำหรับแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาในระดับบุคคลนั้น  ไม่ควรคลิกลิงก์ ที่แนบมาจากคนแปลกหน้า ไม่ดาวน์โหลดแอปฯ นอกเหนือจาก App Store หรือ Play Store หรือ Store ที่เป็นทางการ

                สังเกตชื่อแอปฯ ของผู้พัฒนา และรีวิวตั้งค่าความปลอดภัยในไลน์ เช่น 2FA (Two-Factor Authentication) รวมทั้งหมั่นอัปเดตระบบ และแอปฯ ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอย่างสม่ำเสมอ

                ส่วนระดับหน่วยงาน ไลน์ประเทศไทย ควรออกคำเตือน แจ้งเตือนความปลอดภัยเครือข่าย ขณะที่โทรคมนาคม ควรบล็อกลิงก์หลอกลวง แอปฯ ปลอม มีการพัฒนาเครื่องมือในการวิเคราะห์และตรวจจับแอปฯ ปลอม แบบอัตโนมัติ

                สร้างช่องทางรายงานและแจ้งเตือนภัยแบบเรียลไทม์ เร่งรัดการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในเชิงรุก  เช่น ร่วมมือกับต่างประเทศในการจัดการปัญหาอย่างจริงจัง

                อย่างไรก็ตาม สำหรับข้อเสนอแนะในเชิงนโยบาย ควรส่งเสริมการรู้เท่าทันดิจิทัล (Digital Literacy) ตั้งแต่ระดับโรงเรียนจนถึงชุมชน จัดแคมเปญสื่อสารผ่านทุกช่องทาง เช่น ทีวี , แอปฯ ไลน์ หรือแอปฯ อื่นๆ ที่เป็นทางการ ตั้งศูนย์รับแจ้งภัยไซเบอร์แบบเบ็ดเสร็จ (One-Stop Cyber Helpdesk)

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top