ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) เมื่อเที่ยงวันที่ 9 สิงหาคม พล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัชต์ รอง ผบช.น. เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามความคืบหน้า
คดีเด็กอุ้มบุญว่า การประชุมหนนี้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก โดยจากการลงพื้นที่ตรวจสอบคลินิกย่านเพลินจิตเมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา พบข้อสงสัยคือ มีการปิดคลินิกและขนย้ายเอกสารไปทั้งหมด ซึ่งคาดว่ากระทำกันเป็นขบวนการ ในตอนนี้กฎหมายของไทยยังไม่มีการรองรับเกี่ยวกับการอุ้มบุญ แต่อย่างไรก็จะใช้กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องในการดำเนินคดีซึ่งคาดว่าจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล และจะขยายผลเพื่อดำเนินคดี โดยจะใช้ทุกกฎหมายและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ในเบื้องต้นการกระทำดังกล่าวผิดไปจากที่แพทยสภาได้บัญญัติไว้
พล.ต.ต.ชยุต กล่าวอีกว่า สำหรับโรงพยาบาลที่มีความเกี่ยวข้องกับการอุ้มบุญในขณะนี้มีอยู่ 5 แห่ง ขอไม่เปิดเผยชื่อ อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน ส่วนใหญ่จะเป็นโรงพยาบาลของเอกชน ส่วนโรงพยาบาลของรัฐยังไม่มีข้อมูลปรากฏ
รอง ผบช.น. กล่าวว่า ในตอนนี้ก็ยังคงเกิดคำถามที่ว่าเด็กที่เกิดจากการอุ้มบุญนั้นเอาไปทำอะไร แต่ยังพบว่าเข้าข่ายการค้ามนุษย์เพราะตามคำจำกัดความการค้ามนุษย์คือจะเป็นไปในเรื่องของเพศมากกว่า ทั้งนี้ กรมส่งเสริมบริการสุขภาพจะแจ้งข้อกล่าวหากับคลินิกเถื่อนย่านเพลินจิต คือ คลินิกออลไอวีเอฟ ซึ่งคาดว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาในการดำเนินคดีภายใน 2-3 วันนี้
ด้าน พ.ต.อ.ชาตรี พินใย นิติกรชำนาญการพิเศษ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐานเตรียมแจ้งข้อหา เจ้าของคลินิกออลไอวีเอฟ ในความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 หลังจากเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบบริเวณ ชั้น 12 เอ ความผิดฐานยินยอมให้ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมกระทำการไม่ได้มาตรฐานตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ ส่วนชั้น 15 ในอาคารเดียวกันนั้น เข้าข่ายข้อหาประกอบกิจการและดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจะเดินทางไปแจ้งความในวันที่ 13-14 สิงหาคมนี้ ที่ สน.ลุมพินี โดยเจ้าของคลินิกจะถูกดำเนินคดี ส่วนผู้เกี่ยวข้องอีก 5 ราย จะ ต้องรวบรวมหลักฐานเอาผิดอีกครั้ง
“สำหรับสถานพยาบาลและคลินิกของรัฐและ เอกชน ที่ ได้รับอนุญาต มีทั้งหมด 45 แห่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนที่พบว่ามีการลักลอบให้บริการ ขณะนี้พบ 12 แห่งและเข้าไปตรวจค้นแล้ว 1 แห่ง ซึ่งหลังจากนี้จะต้องรวบรวมหลักฐานเอาผิดทั้งหมด” นายชาตรี กล่าว
พ.ต.อ.ชาตรี กล่าวต่อไปว่า สำหรับคลินิกที่เปิดรับทำอุ้มบุญจะได้รับค่าบริการประมาณ 9 แสนบาท ต่อการทำอุ้มบุญหนึ่งครั้ง ส่วนโทษของผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.สถานพยาบาล 2541 นั้น มีโทษจำคุก 1 ปี หรือปรับ 20,000 บาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี