24 ก.พ.58 มีรายงานข่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (25 ก.พ.58) เวลา 09.30 น. ศาลอาญานัดอ่านฎีกาคดี นายบุญพรรณ สุทธิวิริวรรณ กับพวกอีก 2 คน ฆ่านายไมเคิล เออร์วิน วันสเลย์ อายุ 58 ปี ชาวออสเตรเลีย หัวหน้าฝ่ายตรวจสอบบัญชี บริษัท เซ้าท์ สาทร แพลนเนอร์ จำกัด ชาวออสเตรเลีย
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 13 ก.ค.57 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีที่พนักงานอัยการจังหวัดนครสวรรค์ และนายอดัม เออร์วิน วันสเลย์ ร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้อง นายบุญพรรณ สุทธิวิริวรรณ นายสมโชค สุทธิวิริวรรณ น้องชาย นายประดิษฐ์ ศิริวิริยะกุล ผู้บริหารโรงงานน้ำตาลเกษตรไทย และนายสมพงษ์ บัวสกุล หรือพงษ์ ปากพนัง ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานจ้างวานฆ่า และร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน
คดีนี้ โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 10 มี.ค.42 เวลากลางวัน นายประดิษฐ์ ได้มีเจตนาฆ่านายไมเคิล เออร์วิน วันสเลย์ ด้วยการจ้างวานจำเลยที่ 1,2 และ 4 และนายสมชาย ใจห้าว จำเลยร่วม ซึ่งศาลจังหวัดนครสวรรค์ มีคำพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต ร่วมกันใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. ยิง นายไมเคิล ขณะนั่งรถยนต์ตู้โตโยต้า ทะเบียน 5ฝ-8231 กรุงเทพมหานคร ระหว่างเดินทางไปโรงงานน้ำตาลเกษตรไทย กระสุนถูกศีรษะ และลำตัวเสียชีวิตทันที เนื่องจากผู้ตายตรวจสอบพบการทุจริตของโรงงานน้ำตาลเกษตรไทย ที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการ เหตุเกิดบริเวณทางเข้าโรงงานน้ำตาลเกษตรไทย ต.หนองโพ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันติดตามจับกุมจำเลยมาดำเนินคดี โดยจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 5 ก.ย.49 เห็นว่าจำเลยที่ 1, 2 และ 4 กระทำผิดตามฟ้องจริง ให้จำคุกตลอดชีวิตจำเลยที่ 1 ส่วนจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 4 ให้ประหารชีวิต และให้ยกฟ้อง จำเลยที่ 3
อัยการโจทก์ และโจทก์ร่วมยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 3 ด้วย ขณะที่จำเลยที่ 1, 2 และ 4 ยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลยกฟ้องด้วย
ศาลอุทธรณ์ ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดหารถจักรยานยนต์ รวมทั้งอาวุธปืนที่ใช้กระทำผิดให้กับกลุ่มมือปืน ส่วนจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 4 หลังเกิดเหตุได้พา นายสมชาย ใจห้าว และนายพิเชษฐ์ แก้วสามดวง หรือ ส.ทักษิณ ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง มือปืนหลบหนีไปกบดานที่กรุงเทพ ส่วนจำเลยที่ 3 นั้น ข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานโจทก์ยังมีเหตุอันน่าสงสัย จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้นศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์โจทก์-โจทก์ร่วม และอุทธรณ์จำเลยที่1, 2 และ 4 ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี