ทลายแชร์ลูกโซ่
สูบเงินเหยื่อสูญ2พันล.
หมายจับล่า4ผู้บริหาร
DSIลุยอายัด200ล้าน
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 12 มกราคม พ.ต.ท.สุริยา สิงหกมล ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำกำลังพร้อมหมายจับไปยังอาคารพาณิชย์เลขที่ 19/68-69 ถ.โยธิการคูคต-คลองหลวง ต.คลองสามวา อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งเปิดเป็น บริษัทออริจินัล เน็ทเวิร์ค จำกัด พบ นายมนตรี หรือจอมพงษ์ มณีวงศ์ กรรมหารบริหารของบริษัทดังกล่าว และเป็นอดีตผู้บริหารของ บริษัท ไนน์ท็อปอัพ จำกัด หรือ 9Top up เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายจับเพื่อควบคุมตัว
พ.ต.ท.สุริยะ เปิดเผยว่า เมื่อเดือนตุลาคม 2558 ดีเอสไอได้รับการร้องทุกข์จากประชาชนว่า ถูก บริษัทไนน์ท็อปอัพ หลอกลวงให้ลงทุน โดยอ้างว่า ให้ผลตอบสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยที่กฎหมายกำหนดไว้ จึงรับเป็นคดีพิเศษ โดย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ได้สั่งการให้สำนักคดีอาญา 1 เข้าไปตรวจสอบ จนพบพยานหลักฐานที่เชื่อว่า บริษัทไนน์ท็อปอัพ ประกอบการในลักษณะแชร์ลูกโซ่ เข้าข่ายหลอกลวงประชาชน สร้างความเสียหายแก่สมาชิกรวมวงเงินกว่า 2,000 ล้านบาท ก่อนปิดตัวลงเมื่อปลายช่วงตุลาคม 2558 และได้มาเปิด บริษัทออริจินัลเน็ทเวิร์ค ขึ้นใหม่
ดังนั้นดีเอสไอจึงได้ขอหมายจับกลุ่มผู้บริหารของบริษัทไนน์ท็อปอัพ 4 ราย ประกอบด้วย 1.นายสิทธิไกร ตลับนาค 2.นายไตรทศ สื่อจินดาภรณ์ 3.นายมนตรี หรือจอมพงษ์ มณีวงศ์ และ 4.นายธรรมรัตน์ มงคลบวรรัตน์ ในข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยศาลได้อนุมัติหมายจับบุคคลทั้งหมดเมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา
“นอกจากนี้ดีเอสไอยังได้ดำเนินการอายัดทรัพย์ของผู้บริหารทั้ง 4 ราย อาทิ ที่ดิน 60 ไร่ พร้อมรีสอร์ท อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท,ที่ดิน 6 ไร่ พร้อมสิ่งปลูกสร้างใน จ.ลพบุรี มูลค่า 20 ล้านบาท เงินในบัญชีจำนวนหนึ่ง รถยนต์ 20 คัน รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 200 ล้านบาท ส่วนผู้บริหารอีก 3 รายที่หลบหนีไปนั้น ขณะนี้ทราบว่ามีการประสานงานเพื่อขอเข้ามอบตัวแล้ว แต่ยังไม่ทราบวันเวลาที่แน่ชัด”
พ.ต.ท.สุริยะ กล่าวต่อว่า บริษัทไนน์ท็อปอัพ มีการดำเนินการในลักษณะเป็นแชร์ลูกโซ่ และกระทำผิดไปจากแผนธุรกิจที่ยื่นต่อสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จึงเข้าข่ายมีความฐานผิดฉ้อโกงประชานชน ส่วน บริษัทออริจินัล เน็ทเวิร์ค ยังไม่ได้กระทำผิดไปจากแผนธุรกิจ แต่ดีเอสไอกำลังจับตาดูอยู่อย่างใกล้ชิดเช่นกัน
ด้าน นายมนตรี เปิดเผยว่า เป็น 1 ใน 4 ผู้บริหาร บริษัทไนน์ ท็อปอัพ ซึ่งเปิดดำเนินการเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ทำธุรกิจเคาน์เตอร์เซอร์วิส ขายของเติมเงินในระบบออนไลน์ มีการสมัครสมาชิกแบบแฟรนไชส์ ค่าสมัครตั้งแต่ 1,200-15,000 บาท มีสมาชิกประมาณ 40,000 ราย และมีการปันผลกำไรให้สมาชิก 1-5% หรือรับชำระบิลต่างๆ บิลละ 3 บาท ต่อมาเกิดปัญหาภายในระบบทำให้ไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ผู้บริหารอีก 3 รายก็หายตัวไป ติดต่อไม่ได้ จึงต้องปิดบริษัทไป ก่อนที่ในเดือนตุลาคม 2558 จึงมาเปิด บริษัทออริจินัล เน็ทเวิร์ค และโอนย้ายสมาชิกจากบริษัท ไนน์ท็อปอัพ เพื่อเยียวยาและให้ธุรกิจดำเนินต่อไป ปัจจุบันมีสมาชิกเก่าประมาณ 30,000 ราย สมาชิกใหม่ 10,000 ราย อย่างไรก็ตาม สมาชิกเก่าอีกประมาณ 10,000 ราย ยังไม่ยอมสมัครกลับเข้ามา รวมทั้งเข้าใจผิดว่าบริษัทโกงสมาชิก ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้เป็นแชร์ลูกโซ่แต่อย่างใด และปัจจุบัน กำลังรอการอนุญาตประกอบธุรกิจจาก สคบ. อยู่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี