3 ก.ค.59 ที่โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ นายนิยม เติมศรีสุข ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กรุงเทพมหานคร ร่วมกับ นางวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร , คุณสุภาวดี หาญเมธี ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท อาร์แอลจี (รักลูก เลิร์นนิ่ง กรุ๊ป) และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปนัดดา ธนเศรษฐกร ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัย สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงข่าวเปิดตัวสื่อเครื่องเล่นชุด "เล่นล้อมรัก" วัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดตัวใหม่ให้แก่เด็กปฐมวัยในพื้นที่ กทม.พร้อมสาธิตการสอนชุดเครื่องเล่นให้แก่เด็กปฐมวัยที่มาร่วมงาน
นอกจากนี้ จัดอบรมให้ครูอนุบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) รวมทั้งครูผู้ดูแลเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนของกรุงเทพมหานคร (ศพด.กทม.) ทั้งสิ้น 4 รุ่นๆ ละ 260 คน รวม 1,040 คน
นายนิยม เติมศรีสุข กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์ยาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชน (13 - 19 ปี) พื้นที่กรุงเทพมหานคร ช่วง 5 ปี (2554 - 2558) พบว่ามีแนวโน้มของเด็กและเยาวชนที่มีอายุลดน้อยลงเข้าสู่วงจรยาเสพติดเพิ่มมากขึ้นขึ้น ทั้งในลักษณะของผู้เสพผู้ใช้ยาเสพติด เฉลี่ยถึงร้อยละ 39 ของผู้เสพติด และถูกจับกุมในความผิดคดียาเสพติด เฉลี่ยร้อยละ 33 ของผู้ถูกจับกุม แยกเป็นข้อหาคดีค้า (ผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย ครอบครองเพื่อจำหน่าย) ร้อยละ 8 และคดีเสพ (ครองครอง / เสพ) ร้อยละ 25 ดังนั้น ยุทธศาสตร์และมาตรการที่เดิมมุ่งเน้นเป้าหมายช่วงวัยเสี่ยง หรือกลุ่มวัยรุ่น อายุ 13 - 19 ปี ที่ตกเป็นเป้าหมายหลักของวงจรยาเสพติดอาจไม่ทันการณ์
จึงเป็นที่มา ป.ป.ส.ปรับกระบวนทัศน์ (Paradigm Shift) งานป้องกันใหม่โดยเน้นสร้างพื้นฐานภูมิคุ้มกันยาเสพติดตั้งแต่เด็กในช่วงปฐมวัย อายุ 2 - 6 ปี และใช้กระบวนการพัฒนาทักษะทางสมองในการบริหารจัดการชีวิต (Executive Functions : EF) ที่จะช่วยให้คนเราควบคุมอารมณ์ ความคิด การตัดสินใจที่จะส่งผลต่อการกระทำ มาใช้เป็นวัคซีนในการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่เด็กปฐมวัย ในสถานศึกษาพื้นที่ กทม.ในระดับอนุบาล รวม 941 แห่ง จำนวนนักเรียน 153,263 คน โดยคาดหวังว่า จะสามารถลดจำนวนคดีที่เด็กและเยาวชนเข้ามาเกี่ยวข้องกับยาเสพติดได้เกือบสองแสนคน
ผศ.ดร.ปนัดดา ธนเศรษฐกร ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Executive Functions : EF หรือทักษะสมองเพื่อชีวิตที่สำเร็จ มีองค์ประกอบ 9 ด้าน ได้แก่ 1.จำเพื่อใช้งาน (Working Memory) 2.ยั้งคิด ไตร่ตรอง (Inhibitory Control) 3.ยืดหยุ่นความคิด (Shift / Cognitive Flexibility) 4.ควบคุมอารมณ์ (Emotional Control) 5.จดจ่อใส่ใจ (Focus / Attention) 6.ติดตามประเมินตนเอง (Self - Monitoring) 7.ริเริ่มลงมือทำ (Initiating) 8.วางแผนและจัดระบบดำเนินการ (Planning & Organizing) และ 9.มุ่งเป้าหมาย (Goal - directed Persistence) ซึ่งจากผลงานวิจัยพบว่า EF จะเริ่มพัฒนาในช่วงอายุ 0 - 6 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของทักษะ EF เมื่อพ้นอายุ 6 ขวบ การพัฒนาทักษะจะพัฒนาต่อจนถึงช่วงวัยรุ่นและผู้ใหญ่ตอนต้น ถ้าเราฝังชิฟข้อมูลทั้ง 9 เข้าไปในสมองของเด็กที่ยังบริสุทธิ์อยู่ เมื่อถึงเวลาที่จำเป็นต้องใช้ ก็จะสามารถถึงจากสมองออกมาใช้ได้
คุณสุภาวดี หาญเมธี กล่าวว่า ป.ป.ส.เป็นหน่วยงานแรกในภาคราชการที่เริ่มใช้ EF ตั้งแต่ปี 2558 ที่ผ่านมา สื่อการเล่นพัฒนา EF ประกอบด้วย 3 เกมหลัก ได้แก่ การ์ดเกมพัฒนา EF , เกมกระดาน "เมี้ยว เมี้ยว มามา จะพาไปหาแม่" และเกมกระดาน "ต้นกล้าผู้กล้าหาญ" นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปประยุกต์เล่นเป็นเกมอื่นได้อีกมากกว่า 10 เกม อย่างไรก็ตาม หัวใจสำคัญอยู่ที่คุณครูต้องมีความเข้าใจในคุณค่าของสื่อพัฒนา EF และรู้จักใช้สื่อในการจัดการกระบวนการเรียนรู้ที่เหมาะสม สม่ำเสมอและต่อเนื่องให้กับเด็ก ซึ่งทักษะสมองเหล่านี้จะดำรงคงอยู่ต่อไป อันจะส่งผลให้เด็กไทยรุ่นใหม่ห่างไกลยาเสพติด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี