ผลถุงเท้ารัดคอ‘ธวัชชัย’
พบDNAแฝง
ตร.จับเทียบจนท.ดีเอสไอ
ยันไม่ฟันธง‘ฆ่าตัว-ฆาตกรรม’
ไพสิฐเต้นแจงปมวงจรปิดเสีย
เปิดห้องควบคุมพิสูจน์บริสุทธิ์
เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 8 กันยายน ที่ สน.ทุ่งสองห้อง น.ส.ละอองดาว ปินะถา และ น.ส.พยอม ตาสว่าง เจ้าหน้าที่พยาบาลวิชาชีพประจำหอพยาบาลผู้ป่วยวิกฤติโรคหัวใจ (ซีซียู) พร้อมด้วยที่ปรึกษาทางกฎหมายของ รพ.มงกุฎวัฒนะ เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีการเสียชีวิตของ นายธวัชชัย อนุกูล อายุ 66 ปี อดีตเจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดพังงา ผู้ต้องหาคดีปลอมแปลงเอกสารที่ดินมูลค่าหมื่นล้านบาท ที่ก่อเหตุผูกคอฆ่าตัวตาย ก่อนจะได้รับการช่วยชีวิตในเบื้องต้น แล้วถูกนำตัวส่งไปรักษาต่อที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ แต่ก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งทางญาติยังคงเคลือบแคลงใจในประเด็นการเสียชีวิตว่าจะเป็นการฆาตกรรมหรือไม่ โดยมี พ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง นำคณะสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ประกอบด้วย พ.ต.ท.วินิจ ศรีสูงเนิน รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.สุบรรณ์ อธิเศรษฐ์ รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.นพดล ดรศรีจันทร์ สว.(สอบสวน) และ ร.ต.ท.กฤติเดช ชอบค้าขาย รอง สว.(สอบสวน) ทำการสอบสวนร่วมกับอัยการ
ยังไม่เปิดผลสอบ2พยาบาล
พ.ต.อ.มานะ เปิดเผยว่า ได้เรียกเจ้าหน้าที่พยาบาลของ รพ.มงกุฏวัฒนะ ที่ทำหน้าที่รับช่วงต่อในการปั๊มหัวใจของนายธวัชชัย จากเจ้าหน้าที่กู้ชีพที่เข้าให้การช่วยเหลือเบื้องต้นที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยยังไม่ขอเปิดรายละเอียดในประเด็นในการเรียกสอบปากคำในครั้งนี้
ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวแจ้งว่า ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ยังไม่มีการกำหนดวันผ่าพิสูจน์ศพของนายธวัชชัยในครั้งที่ 2 เนื่องจากต้องรอคณะกรรมการกลางจากกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้กำหนด
พบDNAแฝงที่ถุงเท้าผู้ตาย
เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการตำรวจพิสูจน์หลักฐานกลาง (ผบก.พฐก.) กล่าวถึงผลตรวจดีเอ็นเอในถุงเท้าของนายธวัชชัยว่า มีดีเอ็นเอของผู้ตายติดอยู่ที่ถุงเท้าอย่างชัดเจน ทำให้เชื่อว่าเป็นถุงเท้าของผู้ตาย แต่ในถุงเท้ายังพบดีเอ็นเอของบุคคลอื่นด้วยขณะนี้อยู่ระหว่างการประมวลผล โดยต้องเปรีบเทียบกับตัวอย่างดีเอ็นเอของบุคคลที่แกะถุงเท้าขณะช่วยชีวิตและเจ้าหน้าที่ที่ควบคุม เพราะก็มีความเป็นไปได้ที่ดีเอ็นเออาจจะติดภายในหลักฐานดังกล่าว คาดว่าจะทราบผลเร็วๆ นี้
ยังไม่สรุปถูกฆ่าหรือฆ่าตัวตาย
พล.ต.ต.ธวัชชัย กล่าวว่า สำหรับการตรวจพิสูจน์ และจำลองเหตุการณ์เสียชีวิตของนายธวัชชัย เมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้นำถุงเท้าชนิดใกล้เคียงกับที่พบในที่เกิดเหตุมาทดสอบ ยืนยันว่าสามารถเกี่ยวกับบานพับประตูที่รับน้ำหนักของการผูกคอได้ แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นการผูกคอตัวเองเสียชีวิต หรือมีบุคคลอื่นทำให้เสียชีวิต หากเป็นการผูกคอด้วยตัวเอง จะไม่มีร่องรอยหรือบาดแผลภายนอก แต่หากเป็นฝีมือบุคคลอื่นกระทำจะต้องมีร่องรอยการต่อสู้ และขัดขืนทำให้เกิดบาดแผล ส่วนร่องรอยการถูกรัดที่บริเวณลำคอ มีขนาดเล็กกว่าความหนาของถุงเท้านั้น จากการจำลองเหตุการณ์เป็นไปได้ว่าถุงเท้ามีความยืดหยุ่นจากการรับน้ำหนัก
ต้องรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์ก่อน
พล.ต.ต.ธวัชชัย กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานยังได้มีการจำลองการตกจากที่สูงเพื่อพิสูจน์ว่าจะเป็นเหตุให้ตับแตกได้หรือไม่ ทั้งนี้ผลการตรวจพิสูจน์ทั้งหมดจะต้องนำมารวบรวมประกอบกัน ก่อนสรุปส่งให้พนักงานสอบสวน แต่อย่างไรก็ตามยังต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง ซึ่งยังไม่สามารถสรุปหรือให้น้ำหนักไปในทางใดทางหนึ่งได้
DSIส่งภาพวงจรปิดให้ตร.แล้ว
ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณี นายชัยณรงค์ อนุกูล น้องชายของนายธวัชชัย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนกรณีเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดของดีเอสไอเสีย ว่า ดีเอสไอ ได้ส่งพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิดให้กับทางพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง แล้ว โดยยกทั้งเซิร์ฟเวอร์ไปตรวจเพื่อความสบายใจ สำหรับกล้องวงจรปิดของดีเอสไอมีทั้งกล้องตรวจการณ์ ซึ่งไม่สามารถบันทึกได้ และกล้องบันทึกภาพ ส่วนที่ระบุว่ากล้องวงจรปิดเสียก็ยอมรับว่ามีกล้องบางตัวอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบวงจรปิดของดีเอสไอ แต่ไม่ใช่ปัญหาเพราะมีอีกหลายตัวในบริเวณเดียวกันที่ใช้งานได้
นัดแจง9ก.ย.-เชิญน้องร่วมฟัง
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาไม่อยากออกมาพูดตอบโต้อะไร เพราะกรณีดังกล่าวตำรวจกำลังดำเนินการอยู่ แต่ถ้ามีส่วนไหนที่ดีเอสไอจำเป็นก็จะต้องชี้แจง ก็จะชี้แจง โดยในวันที่ 9 กันยายน เวลา 10.00 น. ตนจะแถลงชี้แจงในประเด็นกล้องวงจรปิด ห้องควบคุมระบบ รวมทั้งเปิดภาพบางส่วนไว้ให้สื่อมวลชนได้ชม และจะเปิดห้องควบคุมระบบกล้องให้ดู โดยตนได้ประสานไปยังนายชัยณรงค์ ให้ร่วมตรวจสอบและชมภาพพร้อมกับสื่อมวลชนด้วย อย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้วผลตรวจสอบของกรรมการจะออกมาเป็นอย่างไรดีเอสไอก็พร้อมยอมรับ ที่ผ่านมาได้ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบโดยตลอดเพื่อความโปร่งใส สบายใจของทุกฝ่าย และไม่ความจำเป็นอะไรที่ดีเอสไอต้องปิดบังข้อมูล
ชี้ขอพูดบ้างเพื่อความเชื่อมั่น
“ผมไม่อยากพูดอะไร ที่ผ่านมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำคดีอย่างเต็มที่ เพราะพูดไปก็หาว่าแก้ตัว แต่ครั้งนี้บางเรื่องก็ต้องขอชี้แจง ขอพูดบ้างเท่านั้น เพราะมันเป็นเรื่องความเชื่อมั่นของหน่วยงาน ดีเอสไอกำลังดำเนินการหลายคดี ดังนั้นภาพลักษณ์ความเชื่อมั่น ต้องเกิดขึ้นในองค์กร” พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี