29 ตุลาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ สามีโหดดื่มสุราย้อมใจจนมึนเมาแล้วขับรถจักรยานยนต์ไปตามง้อภรรยา ที่หนีไปอยู่บ้านแม่ยายที่บ้านสระกลาง ต.หนองตะครอง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ แต่ภรรยา ไม่ยอมคืนดีเพราะเห็นสามีเมาจึงกลัวจะถูกทำร้ายร่างกายเหมือนที่ผ่านมา เมื่อถูกปฏิเสธ ผู้เป็นสามีจึงเกิดความโมโหชักมีดปลายแหลมที่พกติดตัวมาด้วย ไล่แทงภรรยา เข้าที่บริเวณท้องจนล้มลงกับพื้นได้รับบาดเจ็บสาหัส ต่อหน้าแม่ยายและเพื่อนบ้าน
จากนั้น น้องเขยของของภรรยา และนายวิชิต แบะสกุล เพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์ จึงได้วิ่งเข้าไปช่วยห้ามปราบและยื้อแย่งมีด จนเกิดเหตุชุลมุนสุดท้ายนายวิชิต ถูกมีดแทงเข้าที่บริเวณท้อง 2 แผลจนล้มลงเสียชีวิตคาที่ และน้องเขยก็ถูกฟันที่ข้อมือบาดเจ็บเช่นกัน
ล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 61 บ้านสระกลาง ต.หนองตะครอง ตะครอง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งญาติได้นำศพนายวิชิต แบะสกุล อายุ 33 ปี หนุ่มพลเมืองดีที่ถูกแทงเสียชีวิต ไปตั้งบำเพ็ญกุศล ซึ่งบรรยากาศก็เป็นไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัวและญาติ เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เพราะนายวิชิต ไม่ได้มีเรื่องอะไรกับผู้ก่อเหตุ แค่เข้าไปช่วยเหลือฝ่ายหญิงที่ถูกสามีทำร้ายเท่านั้น ในฐานะที่เป็นเพื่อนบ้านและเห็นเหตุการณ์เท่านั้น แต่ต้องมาจบชีวิตลงโดยที่ไม่รู้ว่าใครจะรับผิดชอบ
จากกรณีที่เกิดขึ้นทางครอบครัวและญาติก็ได้เรียกร้องให้ผู้ก่อเหตุเข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อรับโทษตามกฎหมายกับสิ่งที่ตัวเองกระทำ และอยากให้มากราบขอขมาศพผู้ตายด้วยจะได้ไม่ต้องมีเวรมีกรรมต่อกัน ทางครอบครัวก็พร้อมจะอโหสิกรรมให้ เพื่อเชื่อว่าความดีที่ผู้ตายทำจะทำให้ดวงวิญญาณได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี ขณะที่ชาวบ้านต่างก็ชื่นชมผู้ตายว่าเป็นคนดีชอบช่วยเหลือผู้อื่น
นางสมจิต หนูเทศ อายุ 51 ปี เพื่อนบ้าน บอกว่า ผู้ตายเป็นคนดีชอบช่วยเหลืองานสังคม มีงานอะไรในหมู่บ้านก็จะไปช่วยตลอด ก็ไม่คาดคิดว่าจะมาเสียชีวิตกับเหตุการณ์แบบนี้ ก็อยากให้ผู้ก่อเหตุมามอบตัวและรับโทษตามกฎหมาย และมาขอขมาศพและกราบขอโทษครอบครัวด้วยเพราะผู้ตายไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร แต่ต้องมาเสียชีวิตแบบนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดเหตุก็อยากฝากเป็นอุทาหรณ์กับผู้ที่คิดจะเข้าไปช่วยเหลือคนอื่น ก็ควรจะระมัดระวังตัวเองด้วย ไม่งั้นตัวเองก็อาจจะได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้
ด้าน นางสุทิน ประดับมุก อายุ 40 ปี พี่สาวผู้เสียชีวิต บอกว่า นายวิชิต เป็นน้องชายคนเล็กจากพี่น้องทั้งหมด 4 คน ที่ผ่านมาน้องจะชอบช่วยเหลือคนอื่นมาตลอด ตอนที่เป็นทหารเกณฑ์ก็เคยไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยสินามิด้วย ปัจจุบันก็เป็นคนดูแลแม่ที่บ้าน เวลามีงานอะไรในหมู่บ้านก็จะไปช่วยเขาตลอด ก็ไม่คิดว่าน้องจะมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ก็รู้สึกเสียใจและอยากให้คนผู้ก่อเหตุรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก็อยากให้มามอบตัวยอมรับผิดกับสิ่งที่กระทำ และมาขอขมาศพ ทางญาติก็พร้อมจะอโหสิกรรมให้ ส่วนเรื่องคดีก็ว่ากันไปตามกฎหมาย
ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ละหานทราย ก็ได้กระจายกำลังออกติดตามตัวผู้ก่อเหตุทั้งที่บ้าน และสถานที่ต่างๆ ที่คิดว่านายสม จะใช้เป็นที่ซ่อนตัวหรือหลบหนี ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่าพบรถจักรยานยนต์ของผู้ก่อเหตุถูกจอดทิ้งไว้บริเวณป่าติดเขตชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งก็ได้จัดกำลังออกติดตามไล่ล่าอย่างเต็มที่ป้องกันไม่ให้หลบหนีข้ามชายแดน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี