สมาพันธ์เกษตรปลอดภัยร่อนหนังสือขอพบ‘บิ๊กตู่’ ปูดพิรุธมติแบน 3 สารพิษ
31 ตุลาคม 2562 นายสุกรรณ์ สังข์วรรณะ เลขาธิการสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย กล่าวว่า ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดขอเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรพืชเศรษฐกิจไม่ให้เกิดผลกระทบจากการยกเลิกสารเคมีการเกษตร 3 ชนิดให้ทันก่อนฤดูกาลปลูกใหม่ที่จะมาถึง
นอกจากนี้ ได้ขอให้ตรวจสอบการดำเนินงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เนื่องจากเห็นว่าขัดบัญชาของนายกรัฐมนตรีที่ให้คณะทำงาน 4 ฝ่ายหารือ และรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับการใช้สารเคมี 3 ชนิด แต่กระทรวงเกษตรฯ ไม่เปิดโอกาสให้เกษตรกรผู้ใช้สารพาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส เข้าให้ข้อมูลแม้แต่รายเดียว
นายสุกรรณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการลงมติยกเลิกของคณะกรรมการวัตถุอันตรายในวันที่ 22 ตุลาคม 2562 ไม่มีความชัดเจนว่าข้อมูลที่ใช้ประกอบการพิจารณาครบถ้วนตามหลักวิชาการหรือไม่ อีกทั้งผลการพิจารณาลงมติแตกต่างจากครั้งก่อนหน้าที่ให้จำกัดการใช้ โดยที่ไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ใหม่ใดๆทั้งสิ้น รวมถึงมีข้อสงสัยว่าการดำเนินการดังกล่าวถูกต้องตามหลักกระบวนการอันควรแห่งกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากตั้งแต่การนำเสนอข้อมูลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปยังคณะกรรมการวัตถุอันตราย จากนั้นมีการประชุมเพียง 1 ครั้งเท่านั้น แล้วลงมติยกเลิกสาร 3 สารทันที จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีอนุญาตให้เข้าพบเพื่อหารือโดยเร็ว
นอกจากนี้ยังทำหนังสือถึงนายภานุวัฒน์ ตรียางกูรศรี รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย ว่า เกษตรกรพืชเศรษฐกิจ ได้แก่ อ้อย ปาล์มน้ำมัน ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าวโพดหวาน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และไม้ผล สับสนในมติของคณะกรรมการวัตถุอันตรายเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 ที่ให้เปลี่ยนสถานะของสาร 3 ชนิด จากวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ซึ่งต่างไปจากมติของคณะกรรมการวัตถุอันตรายเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2561 และวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ให้ดำเนินการมาตรการจำกัดการใช้ โดยมีประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ทั้งนี้ เกษตรกรเห็นว่ายังไม่มีการจัดเตรียมมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนที่จะเกิดขึ้นอย่างกะทันหันในวันที่ 1 ธันวาคม 2562 ซึ่งจะส่งผลกระทบกับเกษตรกรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยในแถลงการณ์ของคณะกรรมการวัตถุอันตราย ครั้งที่ 41-9/2562 เรื่อง “กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอให้ปรับวัตถุอันตรายพาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส จากวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4” มีเนื้อหาเพียงแค่ 1 หน้ากระดาษ ไม่ได้นำเสนอถึงเหตุผลที่ใช้ประกอบในการพิจารณาลงมติอย่างรอบด้านและครบถ้วน จึงเรียกร้องให้เปิดเผยรายงานและเอกสารประกอบการประชุมในวันที่ 22 ตุลาคม 2562 ทั้งหมดภายใน 7 วัน
“หากไม่มีหลักฐานทางวิชาการที่แตกต่างออกไปจากเดิม ด้วยเหตุใดประธานคณะกรรมการวัตถุอันตรายจึงวินิจฉัยให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายดำเนินการลงมติ หรือหากมีหลักฐานทางวิชาการที่แตกต่างจากเดิม เพราะเหตุใดจึงเร่งรัดในการลงมติในวันดังกล่าว โดยไม่มีขั้นตอนการพิจารณาหลักฐานเหล่านั้นโดยผู้เชี่ยวชาญ” นายสุกรรณ์ กล่าว
นายสุกรรณ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังทำหนังสือถึงนายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งได้กล่าวต่อกลุ่มเกษตรกรหลังการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายวันที่ 22 ตุลาคม 2562 ว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มีความห่วงใยต่อกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากมติดังกล่าวและสั่งการให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมดำจัดตั้งคณะกรรมการศึกษาถึงผลกระทบต่อเกษตรกรและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง นำเสนอเพื่อกำหนดมาตรการรองรับ โดยจะรับฟังเกษตรกรด้วย จึงขอให้ชี้แจงว่าคณะกรรมการชุดดังกล่าวมีขอบเขตการดำเนินงาน และอำนาจหน้าที่อย่างไร มีขั้นตอนการดำเนินงาน และกรอบระยะเวลาการดำเนินงานเท่าไร ประกอบด้วยตัวแทนจากหน่วยงานใดบ้าง ประสงค์ที่จะให้สมาพันธ์เกษตรปลอดภัย เข้าชี้แจงข้อมูลในวัน เวลา และสถานที่ใด
นายสุกรรณ์ กล่าวถึงงานประชุมวิชาการที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2562 ซึ่งในกำหนดการระบุว่าจะมีพิธีแสดงความยินดีต่อคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่มีมติยกเลิกสารเคมี 3 ชนิด โดยส่งหนังสือเชิญมายังสมาคมคนไทยธุรกิจเกษตรให้ส่งผู้แทนเข้าร่วมงาน 3 คน แต่ทางสมาคมฯ แจ้งกลับไปว่าผู้แทนเกษตรกรขอเข้าร่วมงาน 500 คน เพื่อสังเกตการในพิธีแสดงความยินดีดังกล่าว แต่ตนไม่ทราบว่ากรมควบคุมโรคยกเลิกการจัดงานไปแล้วหรือไม่ หากยังคงจัดงานอยู่ ผู้แทนเกษตรกรจะยกขบวนไปร่วมงานแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี