แจ้งความจับสาวแสบ ปลอมลายเซ็นผู้ค้ำประกัน แปลงเอกสารราชการ กู้เงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเพชรบุรี กว่า 2 ล้านบาท
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 28 พฤศจิกายน 2562 น.ส.นันทยา เสียงสนั่น ผู้อำนวยการกองคลัง สำนักงานเทศบาลตำบลท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี พร้อมด้วยนางผกากรอง กลิ่นหอม หัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านไร่หลวง เทศบาลตำบลท่าไม้รวก นางนุชนารถ แพรเนียม ครูประจำศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองชุมแสง สังกัดเทศบาลตำบลท่าไม้รวก และ น.ส.ชวนพิศ แช่มเทศ หัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กวัดหนองเตียน สังกัดเทศบาลตำบลท่าไม้รวก เดินทางมาที่ สภ.เมืองเพชรบุรี เข้าแจ้งความดำเนินคดีอาญา กรณีถูกน.ส.รสสุคนธ์ (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นนักวิชาการศึกษาแห่งหนึ่ง ในข้อกล่าวหาปลอมแปลงลายมือชื่อและปลอมแปลงเอกสารราชการ เพื่อนำไปเป็นหลักฐานเท็จในการกู้ยืมเงินจำนวนรวมกว่า 2 ล้านบาท จากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเพชรบุรี จำกัด
นางผกากรอง กล่า่วว่า เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ที่ผ่านมาตน ได้รับหนังสือจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเพชรบุรี จำกัด แจ้งว่า ตนพร้อม นางนุชนารถและ น.ส.ชวนพิศ เป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาเงินกู้ของ น.ส.รสสุคนธ์ ซึ่ง น.ส.รสสุคนธ์ เป็นผู้กู้เงินจากสหกรณ์ดังกล่าว รวม สัญญาเงินกู้ 2 ฉบับ วงเงินกู้ 2,840,453.28 บาท ตนรู้สึกตกใจมาก เนื่องจากตนและนางนุชนารถ และ น.ส.ชวนพิศ ไม่เคยลงนามเซ็นการค้ำประกันวงเงินกู้ให้แก่ น.ส.รสสุคนธ์ แต่อย่างใด เมื่อเดินทางไปตรวจสอบเอกสารที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูฯ พบว่าลายเซ็นที่ลงนามในชื่อตนทั้ง 3 คนเป็นลายเซ็นปลอม
และเมื่อตรวจสอบเอกสารเพิ่มเติมก็พบว่าใบระบุอัตราเงินเดือนและตำแหน่งทางราชการของ น.ส.รสสุคนธ์ ที่นำมาเป็นหลักฐานในการกู้เงินก็ไม่ตรงกับความเป็นจริง เนื่องจาก น.ส.รสสุคนธ์เปลี่ยนแปลงตำแหน่งตนเองจากนักวิชาการศึกษาปฏิบัติการ เป็น นักวิชาการศึกษาชำนาญการ และเปลี่ยนยอดเงินเดือนจาก 21,140 บาท เป็นเงินเดือน 33,560 บาท เพื่อมีจุดประสงค์ให้ได้วงเงินกู้ที่เพิ่มสูงขึ้น เมื่อตนแจ้งไปยัง น.ส.นันทยา ผู้อำนวยการกองคลัง เทศบาลตำบลท่าไม้รวก ให้มาตรวจสอบ ก็พบว่าลายเซ็น น.ส.นันทยา ที่ลงนามรับรองในเอกสารดังกล่าวก็ถูกปลอมแปลงขึ้นเช่นกัน ตนและผู้เสียหายทั้งหมดจึงได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองเพชรบุรี เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม เอาผิด น.ส.รสสุคนธ์ ฐานปลอมแปลงเอกสาร และปลอมแปลงเอกสารราชการ
นางผกากรอง กล่าวต่อไปว่า หลังเกิดเหตุได้สอบถามกับผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครู เพชรบุรี จำกัด เรื่องการลงนามสัญญากู้เงินโดยที่พวกตนไม่ได้เซ็นชื่อนั้น ได้รับคำชี้แจงว่าการปล่อยเงินกู้ของสหกรณ์ฯมีขั้นตอนดำเนินการ 2 ขั้นตอน คือ ถ้าผู้กู้จะรับเงินในวันที่ยื่นเอกสาร ผู้ค้ำประกันต้องมาเซ็นชื่อต่อหน้าเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์ แต่ถ้าผู้กู้ประสงค์จะรับเงินผ่านทางบัญชีธนาคาร ทางสหกรณ์ฯจะดำเนินการให้ เมื่อผู้กู้ยื่นเอกสารครบตามที่แจ้งหลังจากส่งเอกสาร 7 วัน โดยที่ผู้ค้ำไม่ต้องมาเซ็นชื่อต่อหน้าเจ้าหน้าที่ที่สหกรณ์ฯ
เรื่องนี้หลังเกิดเหตุได้สอบถาม น.ส.รสสุคนธ์ เจ้าตัวให้การยอมรับว่า ตนปลอมแปลงเอกสารการกู้เงินและปลอมแปลงลายเซ็นต์ในเอกสารบางส่วนในการกู้เงินจริง นอกจากนี้ ผจก.สหกรณ์ฯ ยังแจ้งให้ทราบว่าเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน บิดา-มารดา ของ น.ส.รสสุคนธ์ ได้นำเงินมาชำระหนี้ก้อนแรก วงเงิน 570,390.50 บาท แต่ยังคงเหลือสัญญาเงินกู้ฉบับที่สองอีกประมาณ 2,100,000 บาท และหาก น.ส.รสสุคนธ์ มีความผิดต้องออกจากราชการสหกรณ์ฯมีความจำเป็นจะต้องเรียกเก็บเงินกู้ จากผู้ค้ำประกันที่มีชื่อปรากฏในสัญญาเงินกู้สหกรณ์ฯ
นางผกากรอง กล่าวต่อไปว่า หลังแจ้งความ น.ส.รสสุคนธ์ พร้อมด้วยทนายความได้มาหาตน และผู้เสียหายทั้ง 3 คน เพื่อเจรจาขอให้ผู้ยอมความโดยจะชดใช้เงินค่าเสียหายให้จำนวนหนึ่งหากยอมความ และมีผู้ที่อ้างว่าเป็นญาติ น.ส.รสสุคนธ์ โทรศัพท์ มายื่นข้อเสนอว่า หากยอมความจะจ่ายเงินให้ 2 แสนบาท และยังมีบุคคลที่มีชื่อเสียง ทั้งนักการเมืองท้องถิ่น ผู้นำชุมชน พยายามโทรมา และนัดไปพูดคุยขอให้ยอมความเช่นกัน โดยยื่นข้อเสนอว่าจะเร่งรัดปิดวงเงินกู้ที่ น.ส.รสสุคนธ์ กู้มาโดยเร็วที่สุด แต่ตนและพวกไม่ยินยอม ยังคงยืนยันในเจตนารมณ์เดิมคือให้ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องว่าเกรงว่าจะมีการไปก่อเหตุกับบุคคลอื่นอีก ซึ่งหลังจากนั้นปรากฏว่า มีโทรศัพท์จากคู่กรณีโทรเข้ามาใช้ถ้อยคำไม่สุภาพด่าทอ น.ส.นันทยา และส่งข้อความหยาบคายมาในกล่องข้อความทางโทรศัพท์ของตนโดยมีข้อความดูถูกเหยียมหยามและอาฆาตแค้น
“จากกรณีที่เกิดขึ้นเห็นว่าเรื่องราวอาจจะบานปลาย และเริ่มมีผู้เกี่ยวข้องเพิ่มมากขึ้น ทั้งผู้มาไกล่เกลี่ย และผู้ข่มขู่ ซึ่งอาจนำมาซึ่งความไม่ปลอดภัย จึงได้ไปแจ้งขอความคุ้มครองจากตำรวจ สภ.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง ขอความคุ้มครองพวก อีกทั้งอยากให้กรณีนี้เป็นกรณีศึกษาต่อหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ ที่มีหน้าที่ปล่อยเงินกู้ ถึงมาตรการความปลอดภัยในเอกสาร ความละเอียดถี่ถ้วนในการตรวจสอบ และการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ที่ถูกต้องชัดเจน เพื่อมิให้เกิดความเสียต่อสถาบันการเงิน และผู้ที่ถูกแอบอ้าง” นางผกากรองกล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปสอบถามข้อเท็จจริงดังกล่าวกับผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเพชรบุรีฯ เบื้องต้นได้รับการเปิดเผยว่าไม่สะดวกในการให้ข้อมูล แต่ได้ส่งเอกสารทั้งหมดให้หน่วยงานที่รับผิดชอบพิจารณาตรวจสอบแล้ว ส่วนการดำเนินคดีทางกฎหมายขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป
ด้าน น.ส.รสสุคนธ์ ผู้ถูกกล่าวหา ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อทางโทรศัพท์ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงส่งข้อความทางไลน์ แต่ไม่ได้รับการตอบกลับเช่นเดียวกัน เบื้องต้นทราบว่าได้ลาออกจากราชการไปแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี