ฝุ่นพิษทะลุ11เขต
กระทบสุขภาพชาวกรุง
กทม.เพิ่มความถี่พ่นน้ำ
ทบ.ร่วมใจแก้ภัยหนาว
ลุยแจกผ้าห่มเชียงดาว
สถานการณ์ฝุ่นในกทม.น่าวิกฤติ พบ 11 เขต ฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐานเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ปลัดกทม.สั่งการให้เพิ่มความถี่ ล้างทำความสะอาดถนน ทางเท้า พ่นฉีดละอองน้ำในอากาศเพื่อดักจับฝุ่นละออง
เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม กรุงเทพมหานคร(กทม.) โดยกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียงสำนักสิ่งแวดล้อมสรุปผลการตรวจวัด PM 2.5 ณ ช่วงเวลา 05.00-07.00 น. ตรวจวัดได้ 42-67ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร , ค่าเฉลี่ย 53 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร , ค่า PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและมีค่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 11 เขต คือ เขตปทุมวัน เขตบางคอแหลม เขตบางกะปิ เขตคลองสาน เขตบางกอกน้อย เขตภาษีเจริญ เขตบางเขน เขตบางพลัด เขตคลองเตย เขตบางซื่อ และเขตหลักสี่
นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กทม.โดยสำนักสิ่งแวดล้อม ได้ติดตามสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 อย่างต่อเนื่อง เพื่อประสานดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที โดยมอบหมายให้สำนักงานเขตในพื้นที่ที่พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินกว่า ค่ามาตรฐาน เพิ่มความถี่ในการล้างทำความสะอาดถนนและทางเท้า การพ่นฉีดละอองน้ำในอากาศเพื่อดักจับฝุ่นละออง พร้อมทั้งสั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัด กทม.ตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องยนต์ไม่ให้เกิดควันดำ ดูแลบำรุงรักษารถยนต์ให้พร้อมใช้งาน และตรวจสภาพเครื่องยนต์ตามระยะทางหรือระยะเวลาที่กำหนด เพื่อป้องกันไม่ให้มลพิษเกินมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด
ส่วนการจัดเก็บขยะให้เจ้าหน้าที่นำรถเก็บขยะออกดำเนินการในถนนสายหลักและสายรองให้แล้วเสร็จก่อนเวลา 04.00 น.ของทุกวัน เพื่อลดการจราจรติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วน ตลอดจนกำชับพนักงานขับรถยนต์ให้ดับเครื่องยนต์ทุกครั้ง เมื่อไม่ได้ปฏิบัติงานหรือจอดรถรอรับ-ส่ง รวมถึงรณรงค์ประชาสัมพันธ์ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว การบำรุงรักษาเครื่องยนต์เพื่อลดมลพิษอีกด้วย
สำหรับดัชนีคุณภาพอากาศของสถานีตรวจวัดของ กทม.พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในระดับคุณภาพอากาศคุณภาพดีถึงปานกลาง สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติ ส่วนผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ หากมีอาการไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง
ด้าน. พันเอกวีระชัย ผองแก้ว รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4 กองกำลังผาเมือง เป็นผู้แทนฝ่ายทหารในนามกองทัพบก ร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล และอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้านตำบลเมืองงาย อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ มอบผ้าห่มกันหนาวแก่พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอันเกิดจากสภาพอากาศหนาวเย็น ณ ศาลาประชาคม บ้านสหกรณ์ หมู่ 8 ตำบลเมืองงาย อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
ทั้งนี้ กองทัพบกเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจหลักให้การดูแลพี่น้องประชาชนและให้ความช่วยเหลือประชาชนในทุกโอกาสเมื่อประสบภัยพิบัติตามนโยบายของกองทัพบก พื้นที่ตำบลเมืองงายฯ เป็นพื้นที่เผชิญกับภัยหนาวที่รุนแรงอีกพื้นที่หนึ่ง ในห้วงฤดูหนาว จะมีอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยอยู่ที่ 4 - 7 องศาเซลเซียส มีหมู่บ้านทั้งสิ้น 11 หมู่บ้าน จำนวนหลังคาเรือน 2,663 หลังคา รวมประชากรทั้งสิ้น 5,862 คน ซึ่งมีประชาชนที่มีรายได้น้อย ไม่มีอาชีพหลักในการประกอบอาชีพ และยังขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาว เฉลี่ยประมาณ 100 ครัวเรือน
อย่างไรก็ตามสำหรับการให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้ หน่วยเฉพาะกิจกรมททหารม้าที่ 4 ได้คัดเลือกผู้ยากไร้ขาดแคลนผ้าห่มกันหนาว และผู้สูงอายุป่วยติดเตียง ติดบ้านยากไร้ขาดคนดูแล พร้อมทั้งมอบผ้าห่มกันหนาว อย่างทั่วถึง