ฝุ่นพิษทะลุ11เขต  กระทบสุขภาพชาวกรุง  กทม.เพิ่มความถี่พ่นน้ำ

ฝุ่นพิษทะลุ11เขต กระทบสุขภาพชาวกรุง กทม.เพิ่มความถี่พ่นน้ำ

วันอาทิตย์ ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2562, 06.00 น.

ฝุ่นพิษทะลุ11เขต

กระทบสุขภาพชาวกรุง

กทม.เพิ่มความถี่พ่นน้ำ

ทบ.ร่วมใจแก้ภัยหนาว

ลุยแจกผ้าห่มเชียงดาว

สถานการณ์ฝุ่นในกทม.น่าวิกฤติ พบ 11 เขต ฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐานเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ปลัดกทม.สั่งการให้เพิ่มความถี่ ล้างทำความสะอาดถนน ทางเท้า พ่นฉีดละอองน้ำในอากาศเพื่อดักจับฝุ่นละออง

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม กรุงเทพมหานคร(กทม.) โดยกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียงสำนักสิ่งแวดล้อมสรุปผลการตรวจวัด PM 2.5 ณ ช่วงเวลา 05.00-07.00 น. ตรวจวัดได้ 42-67ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร , ค่าเฉลี่ย 53 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร , ค่า PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและมีค่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 11 เขต คือ เขตปทุมวัน เขตบางคอแหลม เขตบางกะปิ เขตคลองสาน เขตบางกอกน้อย เขตภาษีเจริญ เขตบางเขน เขตบางพลัด เขตคลองเตย เขตบางซื่อ และเขตหลักสี่


นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กทม.โดยสำนักสิ่งแวดล้อม ได้ติดตามสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 อย่างต่อเนื่อง เพื่อประสานดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที โดยมอบหมายให้สำนักงานเขตในพื้นที่ที่พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินกว่า ค่ามาตรฐาน เพิ่มความถี่ในการล้างทำความสะอาดถนนและทางเท้า การพ่นฉีดละอองน้ำในอากาศเพื่อดักจับฝุ่นละออง พร้อมทั้งสั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัด กทม.ตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องยนต์ไม่ให้เกิดควันดำ ดูแลบำรุงรักษารถยนต์ให้พร้อมใช้งาน และตรวจสภาพเครื่องยนต์ตามระยะทางหรือระยะเวลาที่กำหนด เพื่อป้องกันไม่ให้มลพิษเกินมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด

ส่วนการจัดเก็บขยะให้เจ้าหน้าที่นำรถเก็บขยะออกดำเนินการในถนนสายหลักและสายรองให้แล้วเสร็จก่อนเวลา 04.00 น.ของทุกวัน เพื่อลดการจราจรติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วน ตลอดจนกำชับพนักงานขับรถยนต์ให้ดับเครื่องยนต์ทุกครั้ง เมื่อไม่ได้ปฏิบัติงานหรือจอดรถรอรับ-ส่ง รวมถึงรณรงค์ประชาสัมพันธ์ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว การบำรุงรักษาเครื่องยนต์เพื่อลดมลพิษอีกด้วย

สำหรับดัชนีคุณภาพอากาศของสถานีตรวจวัดของ กทม.พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในระดับคุณภาพอากาศคุณภาพดีถึงปานกลาง สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติ ส่วนผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ หากมีอาการไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง

ด้าน. พันเอกวีระชัย ผองแก้ว รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4 กองกำลังผาเมือง เป็นผู้แทนฝ่ายทหารในนามกองทัพบก ร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล และอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้านตำบลเมืองงาย อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ มอบผ้าห่มกันหนาวแก่พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอันเกิดจากสภาพอากาศหนาวเย็น ณ ศาลาประชาคม บ้านสหกรณ์ หมู่ 8 ตำบลเมืองงาย อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

ทั้งนี้ กองทัพบกเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจหลักให้การดูแลพี่น้องประชาชนและให้ความช่วยเหลือประชาชนในทุกโอกาสเมื่อประสบภัยพิบัติตามนโยบายของกองทัพบก พื้นที่ตำบลเมืองงายฯ เป็นพื้นที่เผชิญกับภัยหนาวที่รุนแรงอีกพื้นที่หนึ่ง ในห้วงฤดูหนาว จะมีอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยอยู่ที่ 4 - 7 องศาเซลเซียส มีหมู่บ้านทั้งสิ้น 11 หมู่บ้าน จำนวนหลังคาเรือน 2,663 หลังคา รวมประชากรทั้งสิ้น 5,862 คน ซึ่งมีประชาชนที่มีรายได้น้อย ไม่มีอาชีพหลักในการประกอบอาชีพ และยังขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาว เฉลี่ยประมาณ 100 ครัวเรือน

อย่างไรก็ตามสำหรับการให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้ หน่วยเฉพาะกิจกรมททหารม้าที่ 4 ได้คัดเลือกผู้ยากไร้ขาดแคลนผ้าห่มกันหนาว และผู้สูงอายุป่วยติดเตียง ติดบ้านยากไร้ขาดคนดูแล พร้อมทั้งมอบผ้าห่มกันหนาว อย่างทั่วถึง

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top